สืบค้นงานวิจัย
ผลของน้ำยาบ้วนปากต่อการเกิดไมโครนิวเคลียสของเซลล์เยื่อบุผิวข้างแก้มและเซลล์เพาะเลี้ยง
Siriwan Songwattana - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ผลของน้ำยาบ้วนปากต่อการเกิดไมโครนิวเคลียสของเซลล์เยื่อบุผิวข้างแก้มและเซลล์เพาะเลี้ยง
ชื่อเรื่อง (EN): The effects of mouthwash on micronucleus formation in human buccal epithelial cells and KB cell line
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Siriwan Songwattana
บทคัดย่อ: ปัจจุบันมีการใช้น้ำยาบ้วนปากกันอย่างแพร่หลายในทุกๆประเทศโดยปราศจากการควบคุม แม้ว่า การศึกษาทางระบาดวิทยาจะบ่งชี้ว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างน้ำยาบ้วนปากกับการเกิดมะเร็งในช่องปาก แต่ บทบาทของน้ำยาบ้วนปากที่สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งมิได้มีการศึกษา ดังนั้นในการศึกษาครั้งนี้จึงมี วัตถุประสงค์เพื่อดูว่าน้ำยาบ้วนปากจะมีฤทธิ์เป็นสารพิษต่อยีนหรือไม่ โดยดูการเปลี่ยนแปลงของจำนวน เซลล์เยื่อบุผิวข้างแก้มและในเซลล์เพาะเลี้ยงที่มีไมโครนิวเคลียสเกิดขึ้น น้ำยาบ้วนปาก A และ B ถูกเลือกมาทดสอบความสามารถในการชักนำให้เกิดไมโครนิวเคลียสของเซลล์ เยื่อบุผิวข้างแก้มและเซลล์เพาะเลี้ยง โดยศึกษาดูผลของการใช้น้ำยาบ้วนปากแบบระยะสั้น (4 สัปดาห์) และ แบบกึ่งเรื้อรัง (3 เดือน) และตรวจนับจำนวนเซลล์เยื่อบุผิวข้างแก้มที่มีไมโครนิวเคลียส ในการศึกษาผลแบบ ระยะสั้น: อาสาสมัครจำนวน 30 คนแบ่งเป็น 3 กลุ่มๆละ10 คน กลุ่มที่ 1 อมน้ำเปล่า กลุ่มที่ 2 และ 3 อมน้ำยา บ้วนปาก A และ B ตามลำดับ อาสาสมัครทุกคนอมน้ำเปล่า หรือ อมน้ำยาบ้วนปากทุกวัน วันละ 2 ครั้ง นาน 4 สัปดาห์ และเก็บตัวอย่างโดยการขูดเซลล์เยื่อบุผิวข้างแก้มทั้งก่อนและหลังอมน้ำยาบ้วนปากสัปดาห์ละ ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์ สำหรับการศึกษาผลแบบกึ่งเรื้อรัง อาสาสมัครอีก 40 คนแบ่งเป็น 2 กลุ่มๆละ 20 คน กลุ่มที่ 1 อมน้ำยาบ้วนปาก A และ กลุ่ม 2 อมน้ำยาบ้วนปาก B โดยอมน้ำยาบ้วนปากทุกวัน วันละ 2 ครั้ง นาน 3 เดือน และเก็บตัวอย่างโดยการขูดเซลล์เยื่อบุผิวข้างแก้มทั้งก่อนและหลังอมน้ำยาบ้วนปากเดือนละ ครั้ง เป็นเวลา 3 เดือน ผลการทดลองพบว่า น้ำยาบ้วนปากทั้ง 2 ชนิด ไม่มีผลต่อการเกิดไมโครนิวเคลียสใน เซลล์เยื่อบุผิวข้างแก้มเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมแม้อมติดต่อกันนาน 3 เดือน ยกเว้น สัปดาห์ที่ 4 ของการ ทดลองแบบระยะสั้นที่จำนวนไมโครนิวเคลียสเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สำหรับผลของน้ำยาบ้วนปากที่มีต่อการเกิดไมโครนิวเคลียสของเซลล์เพาะเลี้ยงนั้น เซลล์ KB สัมผัสกับ น้ำยาบ้วนปาก A และ B ที่มีความเข้มข้น 1%, 5% และ10% เป็นเวลานาน 5 นาที, 1 ชั่วโมง และ 24 ชั่วโมง ตามลำดับ ผลการทดลองพบว่าจำนวนของ เซลล์ KB ที่มีไมโครนิวเคลียสเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และจำนวน เพิ่มขึ้นเมื่อความเข้มข้นของน้ำยาบ้วนปากเพิ่มขึ้น และบางความเข้มข้นมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับ กลุ่มควบคุม การศึกษาผลของน้ำยาบ้วนปากต่อคอลชิชีนในการชักนำให้ เซลล์ KB เกิดไมโครนิวเคลียส โดยเซลล์ KB สัมผัสกับสารคอลชิชีน เข้มข้น5ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตรนาน 5 นาที จากนั้นสัมผัสน้ำยาบ้วน ปาก A และ B ที่ความเข้มข้น 1%, 5% และ 10%ตามลำดับ นาน 5 นาที ในบางความเข้มข้นผลการทดลอง พบว่าน้ำยาบ้วนปาก A และ Bสามารถลดจำนวนของ เซลล์ KB ที่มีไมโครนิวเคลียสลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ และ ค่าความสามารถในการยับยั้งการเกิดไมโครนิวเคลียส (PI) ของน้ำยาบ้วนปาก A ที่ความ เข้มข้น 1%, 5% และ 10% คือ 66.10 %, 63.84 % และ 48.58 % ตามลำดับและน้ำยาบ้วนปาก B ที่ความ เข้มข้น 1%, 5% และ 10% คือ 70.62 %, 68.36 % และ 89.83 % ตามลำดับ ผลจากการทดลองครั้งนี้สรุปได้ว่าน้ำยาบ้วนปากทั้งสองชนิดนี้ไม่มีผลต่อการทำให้เกิดไมโครนิวเคลียส ในเซลล์เยื่อบุผิวข้างแก้ม ยกเว้นถูกกระต้นจากสภาวะการณ์บางอย่าง นอกจากนี้น้ำยาบ้วนปากทั้งสองชนิดนี้ ไม่ชักนำให้เกิดไมโครนิวเคลียสในเซลล์ KB แต่กลับลดการเกิดไมโครนิวเคลียสในเซลล์ KB ที่ถูก เหนี่ยวนำโดยสารคอลชิชีน
บทคัดย่อ (EN): g/ml) for 5min then exposed to the mouthwash at the doses of 1%, 5% and 10% for 5 min, respectively. The results exhibited that the mouthwashes A and B at the concentrations of 1%, 5% and 10%, reduced the frequencies of the micronucleated KB cells that were induced by the colchicine. The percent of inhibition (PI) were 66.10%, 63.84% and 48.58%, respectively in mouthwash A and were 70.62%, 68.36% and 89.83%, respectively in mouthwash B. This study demonstrated that the mouthwash by itself could not induce micronucleus formation in the human buccal epithelial cells but in the specific conditions the mouthwash could increase the micronucleus formation in the human buccal epithelial cells. However, the mouthwashes could stimulate the frequencies of the micronucleus formation in the KB cells that were induced by the colchicine. KEY WORDS: MOUTHWASH
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=1007&obj_id=1383
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Micronucleus Tests
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: ปัจจุบันมีการใช้น้ำยาบ้วนปากกันอย่างแพร่หลายในทุกๆประเทศโดยปราศจากการควบคุม แม้ว่า การศึกษาทางระบาดวิทยาจะบ่งชี้ว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างน้ำยาบ้วนปากกับการเกิดมะเร็งในช่องปาก แต่ บทบาทของน้ำยาบ้วนปากที่สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งมิได้มีการศึกษา ดังนั้นในการศึกษาครั้งนี้จึงมี วัตถุประสงค์เพื่อดูว่าน้ำยาบ้วนปากจะมีฤทธิ์เป็นสารพิษต่อยีนหรือไม่ โดยดูการเปลี่ยนแปลงของจำนวน เซลล์เยื่อบุผิวข้างแก้มและในเซลล์เพาะเลี้ยงที่มีไมโครนิวเคลียสเกิดขึ้น น้ำยาบ้วนปาก A และ B ถูกเลือกมาทดสอบความสามารถในการชักนำให้เกิดไมโครนิวเคลียสของเซลล์ เยื่อบุผิวข้างแก้มและเซลล์เพาะเลี้ยง โดยศึกษาดูผลของการใช้น้ำยาบ้วนปากแบบระยะสั้น (4 สัปดาห์) และ แบบกึ่งเรื้อรัง (3 เดือน) และตรวจนับจำนวนเซลล์เยื่อบุผิวข้างแก้มที่มีไมโครนิวเคลียส ในการศึกษาผลแบบ ระยะสั้น: อาสาสมัครจำนวน 30 คนแบ่งเป็น 3 กลุ่มๆละ10 คน กลุ่มที่ 1 อมน้ำเปล่า กลุ่มที่ 2 และ 3 อมน้ำยา บ้วนปาก A และ B ตามลำดับ อาสาสมัครทุกคนอมน้ำเปล่า หรือ อมน้ำยาบ้วนปากทุกวัน วันละ 2 ครั้ง นาน 4 สัปดาห์ และเก็บตัวอย่างโดยการขูดเซลล์เยื่อบุผิวข้างแก้มทั้งก่อนและหลังอมน้ำยาบ้วนปากสัปดาห์ละ ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์ สำหรับการศึกษาผลแบบกึ่งเรื้อรัง อาสาสมัครอีก 40 คนแบ่งเป็น 2 กลุ่มๆละ 20 คน กลุ่มที่ 1 อมน้ำยาบ้วนปาก A และ กลุ่ม 2 อมน้ำยาบ้วนปาก B โดยอมน้ำยาบ้วนปากทุกวัน วันละ 2 ครั้ง นาน 3 เดือน และเก็บตัวอย่างโดยการขูดเซลล์เยื่อบุผิวข้างแก้มทั้งก่อนและหลังอมน้ำยาบ้วนปากเดือนละ ครั้ง เป็นเวลา 3 เดือน ผลการทดลองพบว่า น้ำยาบ้วนปากทั้ง 2 ชนิด ไม่มีผลต่อการเกิดไมโครนิวเคลียสใน เซลล์เยื่อบุผิวข้างแก้มเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมแม้อมติดต่อกันนาน 3 เดือน ยกเว้น สัปดาห์ที่ 4 ของการ ทดลองแบบระยะสั้นที่จำนวนไมโครนิวเคลียสเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สำหรับผลของน้ำยาบ้วนปากที่มีต่อการเกิดไมโครนิวเคลียสของเซลล์เพาะเลี้ยงนั้น เซลล์ KB สัมผัสกับ น้ำยาบ้วนปาก A และ B ที่มีความเข้มข้น 1%, 5% และ10% เป็นเวลานาน 5 นาที, 1 ชั่วโมง และ 24 ชั่วโมง ตามลำดับ ผลการทดลองพบว่าจำนวนของ เซลล์ KB ที่มีไมโครนิวเคลียสเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และจำนวน เพิ่มขึ้นเมื่อความเข้มข้นของน้ำยาบ้วนปากเพิ่มขึ้น และบางความเข้มข้นมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับ กลุ่มควบคุม การศึกษาผลของน้ำยาบ้วนปากต่อคอลชิชีนในการชักนำให้ เซลล์ KB เกิดไมโครนิวเคลียส โดยเซลล์ KB สัมผัสกับสารคอลชิชีน เข้มข้น5ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตรนาน 5 นาที จากนั้นสัมผัสน้ำยาบ้วน ปาก A และ B ที่ความเข้มข้น 1%, 5% และ 10%ตามลำดับ นาน 5 นาที ในบางความเข้มข้นผลการทดลอง พบว่าน้ำยาบ้วนปาก A และ Bสามารถลดจำนวนของ เซลล์ KB ที่มีไมโครนิวเคลียสลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ และ ค่าความสามารถในการยับยั้งการเกิดไมโครนิวเคลียส (PI) ของน้ำยาบ้วนปาก A ที่ความ เข้มข้น 1%, 5% และ 10% คือ 66.10 %, 63.84 % และ 48.58 % ตามลำดับและน้ำยาบ้วนปาก B ที่ความ เข้มข้น 1%, 5% และ 10% คือ 70.62 %, 68.36 % และ 89.83 % ตามลำดับ ผลจากการทดลองครั้งนี้สรุปได้ว่าน้ำยาบ้วนปากทั้งสองชนิดนี้ไม่มีผลต่อการทำให้เกิดไมโครนิวเคลียส ในเซลล์เยื่อบุผิวข้างแก้ม ยกเว้นถูกกระต้นจากสภาวะการณ์บางอย่าง นอกจากนี้น้ำยาบ้วนปากทั้งสองชนิดนี้ ไม่ชักนำให้เกิดไมโครนิวเคลียสในเซลล์ KB แต่กลับลดการเกิดไมโครนิวเคลียสในเซลล์ KB ที่ถูก เหนี่ยวนำโดยสารคอลชิชีน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของน้ำยาบ้วนปากต่อการเกิดไมโครนิวเคลียสของเซลล์เยื่อบุผิวข้างแก้มและเซลล์เพาะเลี้ยง
Siriwan Songwattana
มหาวิทยาลัยมหิดล
2546
ผลของเมลาโทนินในการป้องกันการเหนี่ยวนำให้เกิดการตายของเซลล์โดย exogenous reactive oxygen species ในเซลล์เพาะเลี้ยง SH-SY5Y ความเป็นพิษต่อเซลล์ การต้านการก่อกลายพันธุ์และผลยับยั้งการเปลี่ยนแปลงสัณฐานของเซลล์เลี้ยงที่ถูกเหนี่ยวนำจากรังสีย การกำจัดแคดเมียมโดยการใช้ไซยาโนแบคทีเรียที่ผ่านการตรึงเซลล์และเซลล์อิสระในระบบการเลี้ยงแบบกะ การจำแนกโปรตีนตอบรับชนิดใหม่ต่อไวรัสเด็งกี่สายพันธุ์ที่ 2 บนผิวเซลล์เพาะเลี้ยงจากตับ ผลของเอเชียติโคซัยด์ต่อการตายของเซลล์เนื่องจากสภาวะโพแทสเซียมต่ำในเซลล์ประสาทแกรนูลเพาะเลี้ยงจากสมองส่วนซีรีเบลลัมของหนูขาว ผลทางห้องปฏิบัติการของว่านหางจระเข้ต่อการเพิ่มจำนวนเซลล์และการสร้างคอลลาเจนของเซลล์เนื้อเยื่อในโพรงฟันหนู การผลิตเซลล์ต้นกำเนิดจากกระบือปลักและการแปรสภาพไปเป็นเซลล์กระดูกอ่อน ความหลากหลายของแบคทีเรียในทะเลอันดามันประเทศไทยโดยวิธีเพาะเลี้ยงและไม่เพาะเลี้ยง การปรับปรุงพันธุ์เบญจมาศโดยการคัดเลือกจากความแปรปรวนของเซลล์ การหมักเอทานอลแบบต่อเนื่องโดยใช้ระบบแบบหมุนเวียนกับเซลล์ยีสต์และเซลล์ยีสต์ตรึงรูป
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก