สืบค้นงานวิจัย
การเตรียมและการประเมินฟิล์มอัลจิเนต อิมัลชั่นโดยใช้เทคนิคการผสมในน้ำมันเพื่อใช้ในระบบนำส่งยา
Adjchara Limpattanasiri - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การเตรียมและการประเมินฟิล์มอัลจิเนต อิมัลชั่นโดยใช้เทคนิคการผสมในน้ำมันเพื่อใช้ในระบบนำส่งยา
ชื่อเรื่อง (EN): Preparation and evaluation of alginate-emulsion film using oil incorporating technique for use in drug delivery syystem
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Adjchara Limpattanasiri
บทคัดย่อ: วิธีการอิโอโนโทรปิคเจลเลชั่นระหว่างโซเดียมอัลจิเนตและแคลเซียมคลอไรด์เพื่อใช้ในการ นำส่งยาเป็นที่รู้จักกันอย่างดี การศึกษานี้ใช้เทคนิคอิโอโนโทรปิคเจลเลชั่นร่วมกับเทคนิคการผสม ในน้ำมันโดยนำตัวยาเบ็นโซเคนมาละลายในน้ำมันก่อนผสมต่อด้วยสารละลายโซเดียมอัลจิเนตแล้ว จึงเทเป็นฟิล์มและนำไปไขว้เชื่อมด้วยสารละลายแคลเซียมคลอไรด์ได้เป็นฟิล์มอัลจิเนตอิมัลชั่น ศึกษาผลของปริมาณอัลจิเนต โพรไพลีนไกลคอล กลีเซอรีน วัตภาคน้ำมัน และการมีเบ็นโซเคน ที่มี ต่อคุณสมบัติของฟิล์มอัลจิเนตอิมัลชั่น ผลการศึกษาพบว่าตำรับทั้งหมดเป็นอิมัลชั่นชนิดน้ำมันใน น้ำ สามารถเทเป็นฟิล์มหนา 2 มิลลิเมตรได้โดยง่ายและได้เป็นฟิล์มแห้งที่มีความหนา 352-761 ไมโครเมตรที่มีความแข็งแรงกักเก็บยาได้ร้อยละ 65.03-89.37 ของปริมาณยาที่บรรจุลงไป ฟิล์ม ปลดปล่อยยาอย่างรวดเร็วโดยปลดปล่อยยามากกว่าร้อยละ 80 ภายใน 15-20 นาที อัลจิเนตใน ปริมาณที่มากขึ้นเพิ่มความแข็งแรงของฟิล์ม โพรไพลีนไกลคอลและกลีเซอรีนเพิ่มความแข็งแรง และเพิ่มปริมาณการกักเก็บยาของฟิล์ม การเพิ่มปริมาณวัตภาคน้ำมันในตำรับเพิ่มปริมาณการกักเก็บ ยาได้แต่ทำให้ฟิล์มแข็งแรงน้อยลง การมีวัตภาคน้ำมันร้อยละ 30 ในตำรับทำให้ฟิล์มสามารถกักเก็บ ยาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด (ร้อยละ 89.67) การไม่มีเบ็นโซเคนในตำรับทำให้ฟิล์มมีความ แข็งแรงน้อยลง การมีอัลจิเนตในปริมาณที่มากหรือการมีโพรไพลีนไกลคอลหรือกลีเซอรีนและการ ไม่มีเบ็นโซเคนทำให้ฟิล์มยอมให้ไอน้ำผ่านได้มากขึ้น เมื่อเก็บฟิล์มไว้ภายใต้อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 3 เดือนฟิล์มยอมให้น้ำผ่านได้มากขึ้น แต่ความแข็งแรง ปริมาณยา และการปลดปล่อยยาไม่ เปลี่ยนแปลง
บทคัดย่อ (EN): Ionotropic gelation method between sodium alginate and calcium chloride is a common technique used in drug delivery systems. The technique proposed in this work, the oil incorporating technique, was to dissolve the drug in an oil phase prior to mixing with sodium alginate solution, casting, and then cross-linking with calcium chloride solution to form calcium alginate gel films. Benzocaine was selected to be a model lipophilic drug. The effects of sodium alginate, plasticizer, oil phase content and benzocaine on the properties of the formulation were investigated. It was found that all formulations were o/w emulsion, easy to cast, cross-link and dry. The dried films (352-761 mm in thickness) encapsulated 65.03-89.37% of drug load. Immediate release pattern of the films were shown (i.e., more than 80% of the drug was released from all formulations within 20 minutes). An increase in concentration of alginate resulted in an increase in the hardness of the film. Propylene glycol and glycerin in formulation increased the hardness and percent theoretical content of the film. An increase in the amount of oil phase in formulation lead to an increase in the content but a decrease in the hardness of the films. The highest percent theoretical content was obtained from the 30% oil phase content formulation (89.67%). The film without benzocaine in formulation had lower hardness value. An increase in alginate concentration, addition of propylene glycol or glycerin to the formulation, or the film without benzocaine in formulation showed an increase in the water vapor transmission rate. An increase in water vapor transmission occurred after storage of the film at room temperature for 3 months. However, the drug content of the film and mean dissolution time were not changed.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=2495&obj_id=1720
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Emulsions
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: วิธีการอิโอโนโทรปิคเจลเลชั่นระหว่างโซเดียมอัลจิเนตและแคลเซียมคลอไรด์เพื่อใช้ในการ นำส่งยาเป็นที่รู้จักกันอย่างดี การศึกษานี้ใช้เทคนิคอิโอโนโทรปิคเจลเลชั่นร่วมกับเทคนิคการผสม ในน้ำมันโดยนำตัวยาเบ็นโซเคนมาละลายในน้ำมันก่อนผสมต่อด้วยสารละลายโซเดียมอัลจิเนตแล้ว จึงเทเป็นฟิล์มและนำไปไขว้เชื่อมด้วยสารละลายแคลเซียมคลอไรด์ได้เป็นฟิล์มอัลจิเนตอิมัลชั่น ศึกษาผลของปริมาณอัลจิเนต โพรไพลีนไกลคอล กลีเซอรีน วัตภาคน้ำมัน และการมีเบ็นโซเคน ที่มี ต่อคุณสมบัติของฟิล์มอัลจิเนตอิมัลชั่น ผลการศึกษาพบว่าตำรับทั้งหมดเป็นอิมัลชั่นชนิดน้ำมันใน น้ำ สามารถเทเป็นฟิล์มหนา 2 มิลลิเมตรได้โดยง่ายและได้เป็นฟิล์มแห้งที่มีความหนา 352-761 ไมโครเมตรที่มีความแข็งแรงกักเก็บยาได้ร้อยละ 65.03-89.37 ของปริมาณยาที่บรรจุลงไป ฟิล์ม ปลดปล่อยยาอย่างรวดเร็วโดยปลดปล่อยยามากกว่าร้อยละ 80 ภายใน 15-20 นาที อัลจิเนตใน ปริมาณที่มากขึ้นเพิ่มความแข็งแรงของฟิล์ม โพรไพลีนไกลคอลและกลีเซอรีนเพิ่มความแข็งแรง และเพิ่มปริมาณการกักเก็บยาของฟิล์ม การเพิ่มปริมาณวัตภาคน้ำมันในตำรับเพิ่มปริมาณการกักเก็บ ยาได้แต่ทำให้ฟิล์มแข็งแรงน้อยลง การมีวัตภาคน้ำมันร้อยละ 30 ในตำรับทำให้ฟิล์มสามารถกักเก็บ ยาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด (ร้อยละ 89.67) การไม่มีเบ็นโซเคนในตำรับทำให้ฟิล์มมีความ แข็งแรงน้อยลง การมีอัลจิเนตในปริมาณที่มากหรือการมีโพรไพลีนไกลคอลหรือกลีเซอรีนและการ ไม่มีเบ็นโซเคนทำให้ฟิล์มยอมให้ไอน้ำผ่านได้มากขึ้น เมื่อเก็บฟิล์มไว้ภายใต้อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 3 เดือนฟิล์มยอมให้น้ำผ่านได้มากขึ้น แต่ความแข็งแรง ปริมาณยา และการปลดปล่อยยาไม่ เปลี่ยนแปลง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

Adjchara Limpattanasiri. "การเตรียมและการประเมินฟิล์มอัลจิเนต อิมัลชั่นโดยใช้เทคนิคการผสมในน้ำมันเพื่อใช้ในระบบนำส่งยาPreparation and evaluation of alginate-emulsion film using oil incorporating technique for use in drug delivery syystem". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2547

Adjchara Limpattanasiri. "การเตรียมและการประเมินฟิล์มอัลจิเนต อิมัลชั่นโดยใช้เทคนิคการผสมในน้ำมันเพื่อใช้ในระบบนำส่งยาPreparation and evaluation of alginate-emulsion film using oil incorporating technique for use in drug delivery syystem". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2547. Print.



TARR Wordcloud:
การเตรียมและการประเมินฟิล์มอัลจิเนต อิมัลชั่นโดยใช้เทคนิคการผสมในน้ำมันเพื่อใช้ในระบบนำส่งยา
Adjchara Limpattanasiri
มหาวิทยาลัยมหิดล
2547
การประยุกต์ใช้เทคนิคการผสมในน้ำมันในการเตรียมยาที่ไม่ละลายน้ำในรูปของแข็งเม็ดเล็ก การใช้ระบบภูมิสารสนเทศเพื่อประเมินความต้องการใช้น้ำของพืชเศรษฐกิจในตำบลแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ การเตรียมและประเมินแลคโทสสำหรับใช้ในตำรับยาสูดพ่นชนิดผง การประยุกต์ใช้ระบบภูมิสารสนเทศและแบบจำลองเพื่อการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน จังหวัดน่าน การศึกษาความเป็นไปได้ของการนำพลังงานที่ได้จากเศษยางล้อรถที่ไม่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ภายในโรงงาน การประเมินความต้องการไนโตรเจนและการนำไนโตรเจนไปใช้ประโยชน์ในปทุมมา ระบบวิเคราะห์สาเหตุน้ำสูญเสียโดยใช้เทคนิคการทำเหมืองข้อมูล การผลิตน้ำผลไม้ผสมเข้มข้นโดยใช้เทคนิคการทำเข้มข้นแบบแช่เยือกแข็ง การเตรียมแผ่นสองขั้วโดยใช้วัสดุผสมแปรงถ่านและพอลิคาร์บอเนตเสริมใยคาร์บอนเพื่อใช้ในเซลล์เชื้อเพลิงแบบเมมเบรนแลกเปลี่ยนโปรตอน การบำบัดดินที่ปนเปื้อนน้ำมันเตาโดยใช้พืช
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair