สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาการใช้ประโยชน์หอกระจายข่าวเผยแพร่ความรู้การเกษตรในท้องที่ จังหวัดระยอง ปี 2534
เอกชัย พฤกษ์อำไพ - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การศึกษาการใช้ประโยชน์หอกระจายข่าวเผยแพร่ความรู้การเกษตรในท้องที่ จังหวัดระยอง ปี 2534
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เอกชัย พฤกษ์อำไพ
บทคัดย่อ: การศึกษาการใช้ประโยชน์หอกระจายข่าวเผยแพร่ความรู้การเกษตรในท้องที่จังหวัดระยองได้เน้นถึงประโยชน์ของหอกระจายข่าว ในปัจจุบันและปัญหาอุปสรรคในการเผยแพร่ข่าวสารความรู้การเกษตร เพื่อนำมาปรับปรุงและวางแผนในการใช้หอกระจายข่าว ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด จังหวัดระยองมีหอกระจายข่าว จำนวน 66 หอ เกษตรกรที่อยู่ในรัศมีการรับฟังหอกระจายข่าวมีทั้งหมด 6,300 ครัวเรือน โดยเฉลี่ยแล้ว 1 ครัวเรือน จะมีสมาชิก 5 คน รวมผู้รับฟังมี 31,500 คน สำหรับการศึกษาในครั้งนี้ได้ทำการศึกษาหอกระจายข่าวทั้งหมด 25 หอ เป็นผู้รับฟัง จำนวน 200 ราย และผู้ทำหน้าที่กระจายข่าว 25 คน โดยดำเนินการในท้องที่ 6 อำเภอ ในจังหวัดระยอง ซึ่งก็ได้ทราบปัญหา/อุปสรรค และความคิดเห็นต่างๆ จากผู้ฟังและผู้ทำหน้าที่กระจายข่าวอย่างมากมาย วิธีการศึกษาโดยการใช้วิธีสุ่มหอกระจายข่าวและสุ่มผู้ฟังตัวอย่าง และเจาะจงผู้ทำหน้าที่กระจายข่าวประจำหอกระจายข่าว โดยการสัมภาษณ์ และวิเคราะห์ข้อมูลเป็นค่าร้อยละ การศึกษาครั้งนี้ได้ดำเนินงานตามขั้นตอน และทำการวิเคราะห์แล้วปรากฏผล ดังนี้ (1) ข้อมูลทั่วไป ผู้ฟังและผู้ทำหน้าที่กระจายข่าวส่วนใหญ่ จะอยู่ในช่วงอายุ 41-45 ระดับการศึกษา จบชั้นป.4 เช่นกัน และรายได้ของครอบครัวผู้ฟังอยู่ระหว่าง 10,000-30,000 บาท/ปี ส่วนรายได้ของผู้ทำหน้าที่กระจายข่าวจะมีรายได้สูงกว่า อยู่ระหว่าง 30.001-60,000 บาท/ปี การปลูกพืชและพื้นที่ทำการเกษตรของผู้ฟังและผู้ทำหน้าที่กระจายข่าว ส่วนใหญ่ปลูกไม้ผลไม้ยืนต้น และมีพื้นที่ทำการเกษตรระหว่าง 1-10 ไร่ (2) การรับฟังข่าว ผู้ฟังในหมู่บ้านส่วนใหญ่จะรับฟังข่าวทางหอกระจายข่าว และจะรับฟังในขณะอยู่บ้านช่วงเช้า-เย็น ข่าวที่ชอบฟังเป็นข่าวการเกษตรรองลงมาข่าวในประเทศ ข่าวภายในหมู่บ้าน และชอบให้มีรายการเพลงสอดแทรกข่าว ข่าวการเกษตรที่ชอบส่วนใหญ่เป็นไม้ผลไม้ยืนต้นต่างๆ รองลงมาเป็นข่าวป้องกันกำจัดศัตรูพืช, ดิน, ปุ๋ย ความรู้ใหม่ๆ ได้แก่ การทำให้ผลไม้ออกนอกพันธุ์พืชต่างๆ การให้น้ำแบบต่างๆ (3) การจัดตั้งหอกระจายข่าว จะได้รับเงินงบประมาณจากสภาตำบลเป็นส่วนใหญ่ และยังมีการใช้เงินจากการที่ได้รางวัลการประกวดหมู่บ้านหลักในการส่งเสริมการเกษตร/รางวัลประกวดหอกระจายข่าวการเกษตรดีเด่นมาดำเนินการด้วย (4) ความคิดเห็นเกี่ยวกับผู้ทำหน้าที่หอกระจายข่าว ส่วนใหญ่ทำหน้าที่มาประมาณ 3 ปีแล้ว และการทำงานส่วนใหญ่ก็ทำคนเดียว มีส่วนน้อยมากที่ทำงานเป็นทีม (5) การหาข่าวสารเพื่อนำมาออกอากาศ ส่วนใหญ่ได้จากการสอบถามผู้ฟังและนำข้อมูลมาจาก จปฐ./กชช.2ค. มาใช้ส่วนแหล่งข้อมูลที่สนับสนุนได้จากสถานีวิทยุเสียงแห่งประเทศไทยในช่วงเวลา 07.00 และ 18.00 น. โดยเฉพาะข่าวที่ออกควรจะมีรายการเพลงหรือบทความ รายการสนทนาสลับด้วย (7) ความเห็นเกี่ยวกับความถี่ในการออกอากาศที่เหมาะสมที่สุด ผู้ฟังส่วนใหญ่เห็นว่าควรออกอากาศ 2 ช่วง คือ ช่วงเช้าเวลา 06.00-08.00 น. และช่วงภาคค่ำเวลาเวลา 17.00-18.00 น. สำหรับผู้ทำหน้าที่ออกอากาศ เห็นว่าควรเป็นช่วงเดียว คือ ช่วงเช้าเวลา 06.00-08.00 น. รองลงมาก็เป็นช่วง คือ ภาคเช้าเวลา 06.30-08.00 น. และ 12.00-13.00 น. ที่ผู้ทำหน้าที่กระจายเสียง ส่วนใหญ่เห็นว่าควรเป็น 1 ครั้ง/วัน นั้น เพราะต้องมีภารกิจการงานส่วนตัว ที่จะต้องทำด้วยจึงไม่ค่อยจะมีเวลา ซึ่งก็ขอเสนอความเห็นว่าควรให้ผู้ทำหน้าที่กระจายข่าว พิจารณาเอาเองว่าควรจะออกข่าวกี่ครั้งตามความเหมาะสม (8) ความรู้ของผู้ทำหน้าที่กระจายข่าว ส่วนใหญ่จะรู้ระบบการกระจายเสียงและผ่านการอบรมจากกระทรวงสาธารณสุขมาแล้ว แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่ยังไม่ผ่านการอบรมความรู้ที่ต้องการส่วนใหญ่เป็นด้านกฏหมาย/สหกรณ์/แรงงานอุตสาหกรรม/พาณิชย์ ตามลำดับ (9) ค่าใช้จ่ายของหอกระจายข่าว ได้รับงบประมาณการซ่อมบำรุงและไฟฟ้าของเครื่องกระจายเสียงจากทางราชการบ้างเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่จะใช้เงินส่วนตัวของผู้ทำหน้าที่กระจายข่าว และเงินกองทุนพัฒนาหมู่บ้าน (10) การใช้ประโยชน์จากหอกระจายข่าวผู้ฟังสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ได้มากร้อยละ 90.00 ความรู้ส่วนใหญ่ที่ได้ผลคือ โรคแมลง/ไม้ผลยืนต้น (11) แนวทางในการส่งเสริมการเกษตรต่อไป 1.ควรจัดประกวดหอกระจายข่าว/เสียงตามสาย เพื่อให้เกิดการแข่งขันและพัฒนาหอกระจายข่าวให้ดียิ่งขึ้น 2.ควรให้การสนับสนุนเทปความรู้การเกษตร และเทปเพลงแก่หอกระจายข่าว 3.ควรสนับสนุนข่าวสาร/เอกสารสื่อมวลชนและอื่นๆ ให้แก่หอกระจายข่าว 4.ควรอบรมผู้ทำหน้าที่กระจายข่าว/อ่านข่าว ในเรื่องวิธีการกระจายข่าวและวิชาการเกษตรที่ทันสมัย ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ 5.ควรให้ศูนย์เกษตรประจำตำบลเป็นแหล่งข้อมูลต่างๆ สนับสนุนข่าวให้หอกระจายข่าว โดยมีเกษตรตำบลเป็นที่ปรึกษาหอกระจายข่าาว และเป็นผู้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 6.ควรทดลองโครงการจัดตั้งเสียงตามสาย ตำบลละ 1 หมู่บ้าน แล้วขยายไปทุกหมู่บ้าน โดยเฉพาะหมู่บ้านที่ยังไม่มีหอกระจายข่าว และได้สนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายเป็นค่าซ่อมบำรุง/ค่าไฟฟ้าแก่เสียงตามสายด้วย
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: ปี 2534
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาการใช้ประโยชน์หอกระจายข่าวเผยแพร่ความรู้การเกษตรในท้องที่ จังหวัดระยอง ปี 2534
กรมส่งเสริมการเกษตร
2534
การใช้ประโยชน์จากเศษเหลือทิ้งของข้าวโพดฝักอ่อนจากโรงงานอุตสาหกรรมอาหารกระป๋อง การใช้ประโยชน์จากเชื้อราในการควบคุมโรคพืช การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร การใช้ประโยชน์จากหนังสือพิมพ์ในงานประชาสัมพันธ์ ความพึงพอใจของเกษตรกรผู้รับฟังความรู้การเกษตรทางหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านในจังหวัดขอนแก่น การใช้หอกระจายข่าวในการเผยแพร่ข่าวสารความรู้ทางการเกษตรของเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรประจำตำบล รูปแบบการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรหอยลาย การศึกษาการเปิดรับฟังข่าวสารด้านการเกษตรจากหอกระจายข่าว ของเกษตรกรในท้องที่จังหวัดนครนายก ความต้องการเอกสารเผยแพร่การเกษตรของเกษตรกรผู้นำในภาคตะวันออก ปี 2534 การใช้ประโยชน์ สัณฐานวิทยาและเซลล์พันธุศาสตร์ของสมุนไพรท้องถิ่นที่ใช้เป็นยาดองเหล้าในจังหวัดนครศรีธรรมราช
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก