สืบค้นงานวิจัย
ศึกษาการเปลี่ยนแปลงความชื้นและปริมาณอินทรีย์คาร์บอนของดินภายใต้การอนุรักษ์ดินและน้ำโดยการปลูกหญ้าแฝกในสวนไม้ผล
สุกัญญา หันน้ำเที่ยง - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: ศึกษาการเปลี่ยนแปลงความชื้นและปริมาณอินทรีย์คาร์บอนของดินภายใต้การอนุรักษ์ดินและน้ำโดยการปลูกหญ้าแฝกในสวนไม้ผล
ชื่อเรื่อง (EN): Study on Vetiver grass for changing soil moisture and organic carbon in Orchad plantation.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุกัญญา หันน้ำเที่ยง
บทคัดย่อ: ศึกษาการเปลี่ยนแปลงความชื้นและปริมาณอินทรีย์คาร์บอนของดินภายใต้การอนุรักษ์ดินและน้ำโดยการปลูกหญ้าแฝกในสวนไม้ผล ทำการศึกษาในแปลงทดลองบริเวณสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 3 ตำบลจอหอ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ลักษณะพื้นที่เป็นดินถมบนกลุ่มชุดดิน 40 มีเนื้อดินเป็นดินร่วนปนทราย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงด้านความชื้นและปริมาณอินทรีย์คาร์บอนของดิน เมื่อมีการปลูกหญ้าแฝกในลักษณะวงกลมรอบทรงพุ่มน้อยหน่า และศึกษาการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของดินทางด้านเคมี และชีวภาพ เมื่อมีการปลูกหญ้าแฝกในลักษณะวงกลมรอบทรงพุ่มน้อยหน่า โดยทำการศึกษาแบบสังเกตการณ์ (Observation trial) มี 4 ตำรับ ประกอบด้วย ตำรับที่ 1 ไม่ปลูกหญ้าแฝก ตำรับที่ 2 ปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่มห่างจากโคนต้น 50 เซนติเมตร ตำรับที่ 3 ปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่มห่างจากโคนต้น 100 เซนติเมตร และตำรับที่ 4 ปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่ม (2 วง) ห่างจากโคนต้น 50 และ100 เซนติเมตร ผลการทดลองพบว่า ความชื้นในดินของการปลูกหญ้าแฝกตามตำรับต่างๆ และการไม่ปลูกหญ้าแฝกที่ระดับความลึก 15-30 เซนติเมตร มีค่าต่ำกว่าความชื้นดินที่ระดับความลึก 0-15 และ 30-50 เซนติเมตร โดยตำรับที่ 4 ปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่ม (2 วง) ห่างจากโคนต้นน้อยหน่า 50 และ100 เซนติเมตร มีค่าความชื้นดินต่ำที่สุด ปริมาณอินทรีย์คาร์บอนในดินของตำรับที่ 4 ปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่มห่างจากโคนต้นน้อยหน่า 2 วง มีปริมาณอินทรีย์คาร์บอนในดินสูงสุด และมีปริมาณอินทรีย์คาร์บอนเพิ่มขึ้น 26 และ 23 เปอร์เซนต์ของดินที่ระดับความลึก 0-15 และ 15-30 เซนติเมตรตามลำดับเมื่อเปรียบเทียบกับตำรับที่1 ไม่ปลูกหญ้าแฝก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบปริมาณอินทรีย์คาร์บอนในดินที่ระดับความลึกทั้ง 2 ระดับ จะเห็นว่าที่ระดับความลึก 15-30 เซนติเมตร มีปริมาณอินทรีย์คาร์บอนในดินสูงกว่าที่ระดับความลึก 0-15 เซนติเมตร การปลูกหญ้าแฝกตามตำรับต่างๆ และการไม่ปลูกหญ้าแฝก ไม่มีผลทำให้ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินหลังการทดลองที่ระดับความลึก 0-15 เซนติเมตร แตกต่างกับดินก่อนปลูก อินทรียวัตถุในดินหลังการทดลองที่ระดับความลึก 0-15 เซนติเมตร มีค่าอยู่ระหว่าง 0.30-0.45 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งระดับอินทรียวัตถุในดินต่ำมาก เมื่อเปรียบเทียบกับดินก่อนการทดลองจะเห็นว่า ในตำรับที่มีการปลูกหญ้าแฝก คือตำรับที่ 2, 3 และ 4 ปริมาณอินทรียวัตถุในดินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนดินที่ระดับความลึก 15-30 เซนติเมตร มีปริมาณอินทรียวัตถุอยู่ระหว่าง 0.33-0.39 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอยู่ในระดับต่ำมาก ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดิน(Available Phosphorus) หลังการทดลองที่ระดับความลึก 0-15 เซนติเมตร มีระดับฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินปานกลางถึงสูงมาก มีปริมาณฟอสฟอรัสอยู่ระหว่าง 12-134 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม โดยตำรับที่ 1 ไม่มีการปลูกหญ้าแฝกมีปริมาณฟอสฟอรัสสูงที่สุด 134 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ส่วนดินหลังการทดลองที่ระดับความลึก 15-30 เซนติเมตร มีปริมาณฟอสฟอรัสอยู่ระหว่าง 12-60 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม มีระดับฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินปานกลางถึงสูงมาก โดยตำรับที่ 1 ไม่มีการปลูกหญ้าแฝกมีปริมาณฟอสฟอรัสสูงที่สุด 60 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับดินก่อนการทดลองจะเห็นว่า มีปริมาณฟอสฟอรัสเพิ่มสูงขึ้นในทุกตำรับ และโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดิน(Available Potassium)หลังการทดลองที่ระดับความลึก 0-15 เซนติเมตร มีระดับโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินต่ำมาก มีปริมาณโพแทสเซียมอยู่ระหว่าง 18-23 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ส่วนดินหลังการทดลองที่ระดับความลึก 15-30 เซนติเมตร มีปริมาณฟอสฟอรัสอยู่ระหว่าง 18-22 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม มีระดับโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินต่ำมาก ปริมาณจุลินทรีย์ในดินที่พบได้แก่ จุลินทรีย์ย่อยสลายเซลลูโลส เช่น แอคติโนมัยซีส แบคทีเรียย่อยเซลลูโลส และราย่อยเซลลูโลส เป็นต้น จุลินทรีย์ย่อยสลายฟอสเฟต และจุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจน ดินก่อนการทดลอง มีปริมาณแอคติโนมัยซีส 2.3X 106 เซลล์/กรัมของตัวอย่าง แบคทีเรียย่อยเซลลูโลสจำนวน 6.0X 105 เซลล์/กรัมของตัวอย่าง และมีปริมาณราย่อยเซลลูโลส1.1X105 เซลล์/กรัมของตัวอย่าง หลังการทดลองพบว่าดินในตำรับการทดลองทุกตำรับมีปริมาณจุลินทรีย์เพิ่มมากขึ้น และพบจุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจนในตำรับที่มีการปลูกหญ้าแฝก อยู่ระหว่าง 1.8X103-8.7X103 เซลล์/กรัมของตัวอย่าง โดยพบมากในตำรับที่ 2 ปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่มห่างจากโคนต้นน้อยหน่า 50 เซนติเมตร จำนวน 8.7X103 เซลล์/กรัมของตัวอย่าง เมื่อเปรียบเทียบกับดินก่อนปลูกพืชและที่ไม่มีการปลูกหญ้าแฝกซึ่งไม่พบจุลินทรีย์ตรึงไนโตรเจนเลย ความสูงของต้นน้อยหน่าในตำรับที่มีหญ้าแฝกปลูกรอบทรงพุ่มไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติและผลผลิตของหญ้าแฝก ขนาดทรงพุ่มในตำรับที่ปลูกหญ้าแฝกไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ แต่มีความแตกต่างกับขนาดทรงพุ่มในตำรับที่1 ไม่ปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่ม โดย มีค่าขนาดทรงพุ่มสูงที่สุด 43.51 เซนติเมตร ผลผลิตของน้อยหน่าเมื่อมีการปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่ม พบว่า การปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่ม 2 วงห่างจากโคนต้นน้อยหน่า 50 และ 100 เซนติเมตร ให้จำนวนผลผลิตเฉลี่ยต่อต้นต่ำสุด 11.63 ผลต่อต้น เมื่อเปรียบเทียบกับน้อยหน่าในตำรับที่ไม่มีการปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่มซึ่งให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงสุด 20.50 ผลต่อต้น ส่วนผลผลิตเฉลี่ยต่อต้นในตำรับที่ 2 ปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่มห่างจากโคนต้นน้อยหน่า 50 เซนติเมตร และ ตำรับที่ 3 ปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่มห่างจากโคนต้นน้อยหน่า 100 เซนติเมตร พบว่าไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติกับตำรับที่ 1 ไม่ปลูกหญ้าแฝก และยังพบว่าน้ำหนักเฉลี่ยต่อผลในตำรับที่ไม่ปลูกหญ้าแฝกให้น้ำหนักผลสูงสุด 22.0 กรัมต่อผล ส่วนผลผลิตในตำรับที่ 2, 3 และ 4 มีการปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่ม 50, 100 และ ปลูกหญ้าแฝก 2 วง ให้ผลผลิตลดลง 13, 40 และ 13 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับเมื่อเปรียบเทียบกับตำรับที่ 1 ไม่ปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่ม การปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่มห่างจากโคนต้นน้อยหน่า 50 เซนติเมตร มีค่าความสูงและจำนวนต้นต่อกอสูงที่สุด 127.53 เซนติเมตร และ 67.91 ต้นต่อกอ ส่วนจำนวนต้นต่อพื้นที่ (ต้นต่อวง) ของหญ้าแฝกทุกตำรับทดลอง มีความแตกต่างกันทางสถิติ โดยในตำรับที่ 4 ปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่มห่างจากโคนต้นน้อยหน่า 2 วง มีจำนวนต้นต่อพื้นที่สูงที่สุด 5,446.18 ต้น (ค่าเฉลี่ยรวม 2 วง) รองลงมา คือ ตำรับที่ 3 ปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่มห่างจากโคนต้นน้อยหน่า 100 เซนติเมตร มีจำนวนต้นต่อพื้นที่ 3,773.58 ต้น และในตำรับที่ 2 ปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่มห่างจากโคนต้นน้อยหน่า 50 เซนติเมตร มีจำนวนต้นต่อพื้นที่ต่ำสุด 2,131.73 ต้น มวลชีวภาพของหญ้าแฝกแต่ละตำรับไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ โดยในช่วงการทดลอง ตำรับที่ 4 ปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่มห่างจากโคนต้นน้อยหน่า 2 วง ให้มวลชีวภาพของหญ้าแฝกสูงสุด 354.29 กิโลกรัม รองลงมา คือ ตำรับที่ 3 ปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่มห่างจากโคนต้นน้อยหน่า 100 เซนติเมตร ให้มวลชีวภาพของหญ้าแฝกเท่ากับ 225.25 กิโลกรัม และตำรับที่ 2 ปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่มห่างจากโคนต้นน้อยหน่า 50 เซนติเมตร ให้มวลชีวภาพของหญ้าแฝกต่ำสุด 150.97 กิโลกรัม
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: สวนไม้ผล
คำสำคัญ (EN): Orchad plantation
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ศึกษาการเปลี่ยนแปลงความชื้นและปริมาณอินทรีย์คาร์บอนของดินภายใต้การอนุรักษ์ดินและน้ำโดยการปลูกหญ้าแฝกในสวนไม้ผล
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2552
ผลของการจัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำโดยการทำคูรับน้ำขอบเขาและปลูกหญ้าแฝกกับการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติบางประการของดินและผลผลิตข้าวไร่ หญ้าแฝกกับการอนุรักษ์ดินและน้ำ การศึกษาความแตกต่างโครงสร้างประชากรเชื้อราและแบคทีเรียบริเวณรากหญ้าแฝกที่ปลูกในดินเค็มและดินเปรี้ยวจัด การจัดการดินชุดหางดงในการปลูกลำไยร่วมกับหญ้าแฝกในจังหวัดเชียงใหม่ ผลของระดับความชื้นในดินและหญ้าแฝกต่อการเจริญเติบโตผลผลิต และคุณภาพขององุ่นพันธุ์ Maroon ในชุดดินลี้ ผลของแถบหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ ต่อผลผลิตของมันสำปะหลัง ศึกษาผลการใช้ระบบอนุรักษ์ดินและน้ำกับหญ้าแฝกแบบเกษตรกรมีส่วนร่วมในเขตพัฒนาที่ดินแม่สา จังหวัดเชียงใหม่ การวิเคราะห์เสถียรภาพลาดชันดินในพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มโดยการปรับปรุงด้วยหญ้าแฝก การปลูกหญ้าแฝกเพื่อควบคุมความชื้นในดินของสวนมังคุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช การศึกษาระบบการปลูกพืชเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำที่เหมาะสมในชุดดินปราณบุรีเพื่อการผลิตสับปะรดในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก