สืบค้นงานวิจัย
การจัดการธาตุอาหารในระบบการปลูกพืชในนาข้าวที่มีมันฝรั่งเป็นพืชหลัก
ปฏิภาณ สุทธิกุลบุตร - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การจัดการธาตุอาหารในระบบการปลูกพืชในนาข้าวที่มีมันฝรั่งเป็นพืชหลัก
ชื่อเรื่อง (EN): Management of plant nutrients in potato base cropping system in paddy fields
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ปฏิภาณ สุทธิกุลบุตร
บทคัดย่อ: การศึกษาอิทธิพลของอัตราปุ้ยโพแทสเซียมต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตมันฝรั่งพันธุ์ แอตแลนติก มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1 ศึกษาอิทธิพลของอัตราปัยโพแทสเซียมต่อการเจริญเติบโตและผลผลิต ของมันฝรั่งพันธุ์แอตแลนติกที่ปลูกในฤดูหนาวในที่ลุ่มจังหวัดเชียงใหม่ 2) กำหนดอัตราปัยโพแทสเซียมที่ เหมาะสมกับธาตุอาหารในดินและความต้องการของมันฝรั่งพันธุ์แอตแลนติก โดยทำการศึกษาในไร่นาของ เกษตรกร 3 พื้นที่คือ บ้านแม่แฝก บ้านเจดีย์แม่ครัวและบ้านสบแฝก ตำบลแม่แฝกใหม่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ (ก่อนปลูกดินมีโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้เท่ากับ 126, 112 และ 260 มก./กก. ตามลำดับ) ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2549 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2550 วางแผนการทดลองแบบ Randomized Complete Block Design มี 3 ซ้ำ สิ่งทดลองประกอบด้วยอัตราปุ๋ยโพแทสเซียม 4 ระดับ คือ 0, 18. 7 , 37.4 และ 56.1 กิโลกรัม K,O ต่อไร่ ในรูปของ K,SO, โดยมีปุ้ยยูเรีย 27 กิโลกรัม N ต่อไร่ และปุยทริปเปีลซุปเปอร์ฟอสเฟต 35.7 กิโลกรัม P.0, ต่อไร่ เป็นปุ๋ยพื้นฐาน ผลการศึกษาพบว่า หลังจาก การให้ปุ้ยโพแทสเซียมอัตราต่าง ๆ ไม่มีผลให้การสะสมน้ำหนักแห้งของต้นมันฝรั่งที่อายุ 30 วัน แตกต่าง ทางสถิติ แต่เมื่ออาย 60 วัน พบว่า การสะสมน้ำหนักแห้งของต้นมันฝรั่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดและแตกต่างทาง สถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง ณ บ้านแม่แฝกและบ้านเจดีย์แม่ครัว ส่วนบ้านสบแฝก พบว่า การสะสมน้ำหนัก แห้งของต้นมันฝรั่ง ไม่แตกต่างทางสถิติ และเมื่ออายุ 90 วัน ซึ่งพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิต พบว่า การ สะสมน้ำหนักแห้งของต้นมันฝรั่งลดลงและแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อปลูกที่บ้านเจดีย์แม่ครัวและบ้านสบแฝก ยกเว้นที่บ้านแม่แฝก การสะสมน้ำหนักแห้งของต้นมันฝรั่ง ไม่แตกต่างทางสถิติ และยัง พบว่า ถ้ามีการให้ปุ๋ยโพแทสเซียมเพิ่มมากขึ้น มีผลทำให้การสะสมน้ำหนักแห้งของต้นมันฝรั่งเพิ่มมากขึ้น ด้วย การเพิ่มขึ้นของอัตราปุ้ยโพแทสเซียมที่ใช้ มีผลทำให้ปริมาณโพแทสเชียมสะสมในส่วนของต้น หัวและ รากของมันฝรั่งและปริมาณปุ้ยโพแทสเซียมที่ต้นมันฝรั่งใช้ในการสร้างผลผลิต (หัว) เพิ่มขึ้นและมีความ แตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง เมื่อใส่ปุ้ยโพแทสเซียมอัตรา 56.1 กิโลกรัมต่อไร่ ให้ผลผลิตหัวสดมัน ฝรั่งมีความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่งเท่ากับ 4,148 3,860 และ 1,777 กิโลกรัมต่อไร่ จาก พื้นที่ปลูกบ้านแม่แฝก บ้านเจดีย์แม่ครัวและบ้านสบแฝก ตามลำดับ ส่วนผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ พบว่า านแม่แฝกและบ้านสบแฝก การใสปุ๋ยโพแทสเซียมอัตรา 37.4 กิโลกรัมต่อไร่ ให้กำไรส่วนเพิ่ม เท่ากับ 4,744 และ 2.915 บาทต่อไร่ ตามลำดับ และเมื่อเพิ่มการใส่ปุยโพแทสเซียมเป็น 56.1 กิโลกรัมต่อไ ให้กำไรส่วนเพิ่มได้อีก 2.076 และ 2,762 บาทต่อไร่ ตามลำดับ ซึ่งถือว่ายังคุ้มค่กับการลงทุนค่าปุ้ยที่ใส่ ลงไป ส่วนที่บ้านเจดีย์แม่ครัว พบว่า การใส่ปุ๋ยโพแทสเชียมอัตรา 56.1 กิโลกรัมต่อไร่ ให้กำไรส่วนเพิ่มมาก สุดเท่ากับ 3,982 บาทต่อไร่ ดังนั้นการใส่ปียโพแทสเซียมอัตรา 56.1 กิโลกรัมต่อไร่ จึงเหมาะสมมากที่สุด ในการผลิตมันฝรั่งพันธุ์แอตแลนติก การศึกษาอิทธิพลของอัตราปุยฟอสฟอรัสต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตมันฝรั่งพันธุ์ แอตแลนติก ในพื้นที่ปลูกมันฝรั่งของเกษตรกร 3 พื้นที่คือ แปลงของคุณบุญธรรม คุณพิพัฒน์และคุณบุญ ศรีระหว่างเดือนตุลาคม 2549 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2550 พบว่า ปริมาณความเป็นประโยชน์ของฟอสฟอรัส ในดิน มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จากการใส่ปียฟอสฟอรัสมีผลให้น้ำหนักแห้งของต้น มันฝรั่ง เมื่อมีอาย 30, 60 และ 90 วันหลังปลูก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัสในอัตราต่างๆ ไม่มี ผลต่อปริมาณผลผลิตหัวสด และพบว่าการใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัสที่อัตรา 17.85 กิโลกรัมต่อไร่ ให้ปริมาณ ผลผลิตสูงกว่าอัตราอื่นและที่แปลงของคุณบุญศรีมีปริมาณผลผลผลิตหัวสดมากที่สุดเนื่องจากพื้นที่เป็น ดินทรายและมีการจัดการน้ำที่ดีทำให้ปริมาณผลผลิตสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ ให้ผลผลิตมันฝรั่ง 3,555 กิโลกรัม ต่อไร่ รองลงมาคือแปลงคุณพิพัฒให้ผลผลิตมันฝรั่ง2,57 7 กิโลกรัมต่อไร่ และคุณบุญธรรม ให้ผลผลิตมัน รั่ง 1,422 กิโลกมต่อไร่ ซึ่งให้ผลผลิตต่อไในปริมาณที่น้อยเนื่องจากเป็นดินเหนียวทำให้ฝรั่ง แตกมาก ปริมาณหัวดีมีปริมาณน้อย การใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัสอัตราต่างๆ มีผลให้ความเข้มข้นของฟอสฟอรัส ในส่วน ราก และหัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัสยังส่งเสริมประสิทธิภาพในการดูดใช้ธาตุในส่วน ราก และหัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัสยังส่งเสริมประสิทธิภาพในการดุดใช้ธาตุ ไนโตรเจน และโพแทสเซียมต่อปริมาณปุยที่ใส่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ประสิทธิภาพการ ธาตุฟอสฟอรัสที่ใส่ในอัตราที่เพิ่มขึ้นกลับลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยที่ฟอสฟอรัสอัตรา 8.93 กิโลกรัมต่อไร่มีประสิทธิภาพการดูดใช้โพแทสเซียมสูงที่สุดเท่ากับ 51.23, 78.81 และ 56.46 เปอร์เซ็นต์ จากแปลงปลูกของคุณบุญธรรม คุณพิพัฒน์และคุณบุญศรี ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): This study was conducted to 1) to investigate on the effect of potassium application rates on the growth and yield of potato cv. Atlantic planted on a cold season in Chiang Mai province, and 2) to determine the potassium application rates suitable with soil nutrients and demands of the potato cv. Atlantic, in farmers' plots in three sites (Ban Mae Faek, Ban Jedi Maekrua and Ban Sob Faek) in Tambon Mae Faek Mai, Sansai district, Chiang Mai province. (Prior to planting, exchange potassium was equivalent to 126, 112 and 260 mg/kg, respectively). Data were collected from November 2006 to February 2007 using the Randomized Complete Block Design with three replications of four treatment levels of potassium rates (0, 18.7, 37.4 and 56.1 kg K,O/rai) in the form of K,SO, applied together with urea (27 kg N/rai) and triple superphosphate (35.7 kg P,,/rai) as base fertilizer. Results of the study showed that application of different rates of potassium fertilizer had no significant effect in the accumulation of dry weight of potato at 30 days old. But at 60 days of age, results indicated the highest dry weight accumulation with highly significant difference in Ban Mae Faek and Ban Jedi Mae Krua. As for Ban Sob Faelt, it was found that dry weight accumulation in potatoes at different ages were not statistically different although at 90 days old when potatoes were considered matured for harvesting, dry weight accumulation in significantly reduced. On the other hand, in potatoes planted in Ban Je and Ban Sob Faek, dry weight accumulations were not significantly different. In addition, it was found that if potassium fertilizers were applied at higher rates, dry weight accumulation also increased. Further results showed that increase in potassium application rates also led to an increase in potassium accumulation in potato heads and roots, and in the amount of potassium that plants utilized for increasing yield (head), at a very highly significant difference. When plants were applied with potassium fertilizer at a rate of 56.1 kg/rai, the yield in terms of fresh potato head was highly significantly different at 4,148, 3,860 and 1,777 kg/rai, respectively, in planting sites of Ban Mae Faek, Ban Jedi Mae Krua and Ban Sob Faek. The study on economic cost returns revealed that in Ban Sob Faek, the use of potassium fertilizer at 37.4 kg/rai gave high profits of 4,744 and 2,915 baht/rai, respectively. When the rate of the applied potassium was increased to 56.1 kg/rai, profit was also increased to another 2,076 and 2,762 bahtrai, respectively, thus indicating a high value for investment onpotassium fertilizer. Meanwhile, in Ban Jedi Mae Krua, results showed that application rate of potassium at 56.1 kg/rai gave the highest profit at 3,982 baht/rai. The use of potassium fertilizer at a rate of 56.1 kg/rai was, therefore, considered the most suitable for the production of potato cv. Atlantic.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: ระบบการปลูกพืช
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การจัดการธาตุอาหารในระบบการปลูกพืชในนาข้าวที่มีมันฝรั่งเป็นพืชหลัก
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
30 กันยายน 2552
ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร โครงการวิจัยการจัดการธาตุอาหารพืชอย่างผสมผสานในการผลิตพืช การศึกษาธาตุอาหารพืช สำหรับพืชอาหารสัตว์ในพื้นที่ต่างๆ 2. สถานะธาตุอาหารพืช ที่มีผลต่อผลผลิตและความเข้มข้นของธาตุอาหารของหญ้าซิกแนลเลื้อยในชุดดินบ้านทอน การศึกษาธาตุอาหารในพืช สำหรับพืชอาหารสัตว์ในพื้นที่ต่างๆ 1. สถานะธาตุอาหารพืช ที่มีผลต่อผลผลิต และความเข้มข้นของธาตุอาหารของหญ้าชันอากาดในชุดดินบ้านทอน สเตอรอลจากพืช การจัดระบบการปลูกพืชโดยมีข้าวเป็นหลักในระบบวนเกษตรเพื่อปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดินและสภาพแวดล้อมในจังหวัดชัยนาท โครงการย่อยที่ 4 การทดสอบพันธุ์ข้าวร่วมกับระบบการปลูกพืชแบบผสมผสานในข้าวไร่และระบบนาน้ำน้อยในข้าวนาบนพื้นที่สูง การพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการธาตุอาหารพืชสำหรับยางพาราเฉพาะพื้นที่ อิทธิพลของธาตุอาหารพืชไนโตรเจนที่ตรึงในดินต่อผลผลิตข้าว การจัดการธาตุอาหารพืชอย่างผสมผสานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตถั่วลิสง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก