สืบค้นงานวิจัย
การเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของดินปลูกข้าวโพดโดยใช้สารปรับปรุงดิน พด.10 ในพื้นที่ บ. ปลวกแหลม ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
มณฑาทิพย์ สงวนรักษ์ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของดินปลูกข้าวโพดโดยใช้สารปรับปรุงดิน พด.10 ในพื้นที่ บ. ปลวกแหลม ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
ชื่อเรื่อง (EN): Property Change of Soil Improved by LDD 10 on Corn Production in Baan Hua Plauk Laem Tambol Tung Phra, Khonsarn District, Chaiyaphum.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: มณฑาทิพย์ สงวนรักษ์
บทคัดย่อ: ในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของดินปลูกข้าวโพดโดยใช้สารปรับปรุงดิน พด.10 ใน พื้นที่ บหัวปลวกแหลม ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ นั้น ได้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงค่าความเป็นกรด-ด่ง (pH) ค่าการนำไฟฟ้า (Ec) ปริมาณอินทรียวัตถุ (organic matter, %) ความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุ (CEC) ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (available phosphorous, P) โพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ (available potassium, K) และแคลเซียมที่เป็นประโยชน์ (available calcium, Ca) ของดินในแปลงทดสอบการปลูก ข้าวโพดในชุดดินด่านซ้ายของจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความลาดเทประมาณ 1-5 % รวมถึงศึกษาปริมาณ ความชื้น (Moisture) ความหนาแน่นรวม (Bulk density) ความสูงของต้นข้าวโพด และผลผลิตข้าวโพด โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ดังกล่าว และผลผลิตข้าวโพดเมื่อมีการใช้สารปรับปรุงดิน พด. 10 มีการวางแผนกาทดลองแบบสังเกตการณ์ 6 ตำรับ คือ ตำรับที่ 1 แปลงควบคุม ตำรับที่ 2 ปุ้ยเคมีตาม อัตราแนะนำ ตำรับที่ 3 พด.10 อัตรา 3000 กิโลกรัมไร่ ตำรับที่ 4 ปุ้ยเคมีครึ่งหนึ่งของอัตราแนะนำ + พด.10 อัตรา 500 กิโลกรัมร่ ตำรับที่ 5 ปุ้ยเคมีครึ่งหนึ่งของอัตราแนะนำ + พด.10 อัตรา 1,000 กิโลกรัมไร่ และตำรับที่ 6 ปุยเคมีครึ่งหนึ่งของอัตราแนะนำ + พด.10 อัตรา 2000 กิโลกรัมไ จากผลการดำเนินการวิจัย พบว่า ค่ความ เป็นกรด-ด่างของดินมีค่าอยู่ระหว่าง 5.4-6.2 โดยคำการเปลี่ยนแปลงของความเป็นกรด-ด่างของดินเฉลี่ยทั้ง 3 ปี ตำรับที่ 3 มีคำาสูงสุด และพบว่าตำรับที่ใส พด.10 (ยกเว้นตำรับที่ 5) มีแนวโน้มว่าคำ pH เพิ่มขึ้นมากกว่า ตำรับที่ไม่ได้ใส่ พด.10 สำหรับการค่าการนำไฟฟ้า (Ec) ค่าอยู่ในช่วง 0.09-0.38 dS/m ทุกตำรับมีการ เปลี่ยนแปลงค่าการนำไฟฟ้าของดินเฉลี่ยทั้ง 3 ปีเพิ่มขึ้น โดยตำรับที่ 5 มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด คือ ร้อยละ 43.66 ตำรับที่ 4 มีการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด คือเพิ่มขึ้นรัอยละ 12.37 แต่ไม่สามารถบอกได้ว่า ตำรับที่ใส่ พด.10 เพิ่มค่าการนำไฟฟ้ามากกว่าตำรับที่ไม่ใส่ พด.10 ปริมาณอินทรียวัตถุมีการเปลี่ยนแปลงทั้งเพิ่มขึ้นและ ลดลง มีค่าอยู่ระหว่างร้อยละ 1.12-2.84 โดยปริมาณอินทรียวัตถุเฉลี่ยทั้ง 3 ปี ในตำรับที่ 3 มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้นมากที่สุดซึ่งใส่ พด.10 ในอัตรา 3 ตันไร่ เป็นอัตราสูงสุดของการทดลอง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าตำรับที่ใส พด10. ทำให้ปริมาณอินทรียวัตถุเพิ่มขึ้นกว่าตำรับที่ไม่ใส พด. 10 ความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุ (CEC) มีคำอยู่ระหว่าง 6.01-8.32 cmolkg ความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุเฉลี่ยของดินปลูกข้าวโพด ทั้ง 3 ปี เกือบทุกตำรับทดลอง (ยกเว้นตำรับที่ 2) มีการเปลี่ยนแปลงลดลง ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (P) มีค่าอยู่ระหว่าง 2-10 mgkg ปริมาณฟอสฟอรัสเฉลี่ยของดินปลูกข้าวโพดทั้ง 3 ปี ตำรับที่ 1, 4, 5 และ 6 มีการเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยลดลง ส่วนตำรับที่ 2 และ 3 มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น ปริมาณโพแทสเชียมที่เป็น ประโยชน์ในดิน (K) มีคำอยู่ระหว่าง 69-460 mgkg ทุกตำรับทดลองมีการเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยเพิ่มขึ้น และ ตำรับที่ 3 มีการเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยมากที่สุด โดยมีค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.44 และ ตำรับที่ 4 มีการเปลี่ยนแปลง เฉลี่ยน้อยที่สุด โดยมีค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.78 ปริมาณแคลเซียมที่เป็นประโยชน์ในดิน (Ca) มีค่าอยู่ระหว่าง 291-755 mgkg ปริมาณแคลเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินเฉลี่ยของดินปลูกข้าวโพดทั้ง 3 ปี ตำรับที่ 1, 3, 4, 5 และ 6 มีการเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ตำรับที่ 2 มีการเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยลดลง และตำรับที่มีการเปลี่ยนแปลง มากที่สุด คือ ตำรับที่ 4 ส่วนตำรับที่ 5 มีการเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยน้อยที่สุด ตำรับที่มีการใส่ พด.10 (ตำรับที่ 3-6) มีแนวโน้มว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงของปริมาณแคลเซียมเพิ่มขึ้น ปริมาณความชื้น (Moisture) เฉลี่ยของดิน ปลูกข้าวโพดทั้ง 3 ปี อยู่ในช่วง 12.73- 13.79 โดยทุกตำรับมีปริมาณความชื้นเพิ่มขึ้น ความหนาแน่นรวม (Bulk density เฉลี่ยของดินปลูกข้าวโพดทั้ง 3 ปี อยู่ในช่วง 3.67-4.59 g/cm โดยทุกตำรับมีการเปลี่ยนแปลง ความหนาแน่นรวมลดลง ความสูงเฉลี่ยของต้นข้าวโพดทั้ง 3 ปี อยู่ในช่วง 34.5-60.3 เซนติเมตร โดยตำรับที่มี ความสูงเฉลี่ยของดันข้าวโพดสูงที่สุดคือ ตำรับที่ 6 และตำรับที่ความสูงเฉลี่ยต่ำที่สุดคือ ตำรับที่ 1 สำหรับ ผลผลิตช้าวโพดเฉลี่ยทั้ง 3 ตำรับที่มีผลผลิตเฉลี่ยสูงที่สุดคือ ตำรับที่ 2 (ปุยเคมีตามอัตราแนะนำ) และ ผลผลิตเฉลี่ยต่ำที่สุดคือ ตำรับที่ 1(แปลงควบคุม)
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: จ.ชัยภูมิ
คำสำคัญ (EN): Chaiyaphum
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของดินปลูกข้าวโพดโดยใช้สารปรับปรุงดิน พด.10 ในพื้นที่ บ. ปลวกแหลม ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2551
การปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดเพื่อเพิ่มคุณภาพโปรตีน ปกป้องสายตาด้วยข้าวโพด การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี ศึกษาการจัดการดินที่เหมาะสมต่อการให้ผลผลิตของข้าวที่ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ การใช้ถ่านปรับปรุงดินเพื่อปลูกข้าวโพดข้าวเหนียวหวาน การจัดการดินและปุ๋ยที่เหมาะสมเพื่อปลูกข้าวโพดหวานในดินทรายกลุ่มชุดดินที่ 40 ผลของการใช้ซิลิกอนในการปรับปรุงดินเปรี้ยวจัด ชุดดินชะอำที่มีผลผลิตและคุณภาพของข้าวโพด การปลูกข้าวโพดโดยไม่มีการไถพรวนดิน อัตราปูนโดโลไมท์ที่เหมาะสมในการปรับปรุงดินเปรี้ยวจัด กลุ่มชุดดินที่ 14 ชุดดินระแงะ เพื่อปลูกข้าวโพดหวาน การจัดการดินเพื่อการปลูกข้าวโพดต่อการเพิ่มอินทรีย์คาร์บอนในชุดดินปากช่อง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก