สืบค้นงานวิจัย
ปัจจัยเสี่ยงต่อการกระตุ้นการเกิดอาการเปลือกแห้งในยางพารา
พเยาว์ ร่มรื่นสุขารมย์ - การยางแห่งประเทศไทย
ชื่อเรื่อง: ปัจจัยเสี่ยงต่อการกระตุ้นการเกิดอาการเปลือกแห้งในยางพารา
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of Stimulated factors on Tapping Panel Dryness of Hevea brasiliensis
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พเยาว์ ร่มรื่นสุขารมย์
บทคัดย่อ: อาการเปลือกแห้งของยางพาราเป็นความผิดปกติทางสรีรวิทยาที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยมีปัจจัยหลายอย่างเป็นตัวกระตุ้น เช่น การกรีดหักโหม การใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง สภาพแวดล้อม ดังนั้น การแนะนำระบบกรีดเพื่อเพิ่มผลผลิตยางจึงต้องคำนึงถึงความเสี่ยงต่อการเกิดอาการเปลือกแห้ง จึงได้ศึกษาความสัมพันธ์ของการกรีดหักโหมกับการเกิดอาการเปลือกแห้งของยางพันธุ์ RRIM 600 ในท้องที่แห้งแล้ง โดยใช้ระบบกรีด 5 ระบบ วางแผนการทดลองแบบ RCB มี 4 ซ้ำ ผลการทดลองพบว่า การกรีดทุกวัน (½S d/1) ให้ผลผลิตรวมสูงสุด รองลงมาได้แก่ การกรีดสามวันเว้นวัน (½S 3d/4) แต่การกรีดถี่มีผลทำให้ผลผลิตกรัมต่อต้นต่อครั้งกรีดลดลง ตามลำดับ และทำให้ต้นยางแสดงอาการเปลือกแห้งเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะการกรีดทุกวัน (½S d/1) ทำให้ต้นยางเกิดอาการเปลือกแห้งสูงสุด รองลงมาได้แก่ การกรีดสี่วันเว้นวัน(½S 4d/5) และสามวันเว้นวัน(½S 3d/4) การกรีดสองวันเว้นวัน (½S 2d/3) เป็นระบบที่เหมาะสมสำหรับยางพันธุ์ RRIM 600 เนื่องจากสามารถให้ผลผลิตยางสูงกว่าการกรีดวันเว้นวัน (½S d/2) เฉลี่ย 9.49% ในขณะที่พบอาการเปลือกแห้งต่ำเฉลี่ยเพียง 3.90% การวิเคราะห์องค์ประกอบทางชีวเคมีของน้ำยาง พบว่า ในระยะการกรีดถี่มีผลทำให้ค่า inorganic phosphorus ในน้ำยางเพิ่มสูงขึ้น ต่อมาลดต่ำลงในระบบกรีดที่ทำให้เกิดอาการเปลือกแห้งสูง ในขณะที่ปริมาณ sucrose และ thids มีค่าสูงขึ้น แสดงว่าการกรีดหักโหมทำให้การทำงานของเซลล์ท่อน้ำยางผิดปกติ มีกิจกรรมการสังเคราะห์น้ำยางต่ำ ส่วนการทดลองใช้สารเคมีเร่งน้ำยางระดับต่างๆ กัน 6 ระดับกับยางพันธุ์ RRIM 600 ที่กรีดด้วยระบบครึ่งลำต้นวันเว้นวัน (½S d/2) วางแผนการทดลองแบบ RCB มี 3 ซ้ำ เปรียบเทียบกับการไม่ใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง พบว่า การใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง 5% ทุก 3 เดือน ทำให้ได้รับผลผลิตสูงสุด การใช้สารเคมีเร่งน้ำยางในระดับที่สูงกว่านี้กลับทำให้ผลผลิตลดลง และพบการเกิดอาการเปลือกแห้งสูงเฉลี่ย 16.22-21.37% ซึ่งผลการวิเคราะห์องค์ประกอบทางชีวเคมีของน้ำยาง ปรากฏว่า การใช้สารเคมีเร่งน้ำยางมีผลทำให้ปริมาณ sucrose ในน้ำยางลดลง แต่ค่า inorganic phosphorus เพิ่มสูงขึ้น แสดงว่าสารเคมีเร่งน้ำยางกระตุ้นให้ต้นยางมีกิจกรรมการสังเคราะห์น้ำยางในเซลล์สูงขึ้น แต่ในระยะต่อมา วิธีการที่พบอาการเปลือกแห้งสูง จะเริ่มมีการสะสม sucrose ในน้ำยางสูงขึ้นอีก เนื่องจากเซลล์ทำงานผิดปกติ เมื่อเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบทางชีวเคมีในน้ำยางจากต้นยางที่แสดงอาการเปลือกแห้งกับต้นปกติ พบว่า ค่า DRC ของต้นที่แสดงอาการเปลือกแห้งและต้นปกติมีความแตกต่างกันไม่ชัดเจน แต่มีแนวโน้มว่าส่วนใหญ่ค่า DRC จะสูงกว่าต้นปกติ ส่วน inorganic phosphorus มีค่าต่ำ นอกจากนี้ยังพบว่าปริมาณ sucrose และ thiols อาจมีค่าสูงหรือต่ำกว่าต้นปกติได้
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: การยางแห่งประเทศไทย
คำสำคัญ: ผลผลิตยาง
คำสำคัญ (EN): Hevea brasiliensis
เจ้าของลิขสิทธิ์: การยางแห่งประเทศไทย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ปัจจัยเสี่ยงต่อการกระตุ้นการเกิดอาการเปลือกแห้งในยางพารา
การยางแห่งประเทศไทย
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
การศึกษาเบื้องต้นในการส่งถ่ายยีนเข้าสู่ยางพาราด้วยเทคนิค Agrobacterium transformation ศึกษาอาการเปลือกแห้งของยางพารา การยับยั้งอย่างจำเพาะเจาะจงต่อการแสดงออกของยีน Rubber Elongation Factor (REF) ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างโปรตีนก่อภูมิแพ้ในยางพาราด้วยเทคโนโลยีแอนติเซน สำรวจอาการเปลือกแห้งของยางพารา วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดอาการเปลือกแห้ง ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดอาการเปลือกแห้งในสวนยางเอกชน สำรวจอาการเปลือกแห้งของยางพาราในพื้นที่ปลูกยางภาคใต้ตอนบน การเพิ่มผลผลิตยางพาราในระยะเปลือกเดิม : โดยการใช้สารเคมีเร่งน้ำยางร่วมระบบกรีดต่างๆ การวิเคราะห์พันธุกรรมระดับโมเลกุลของยางพารา [Hevea brasiliensis Muell.Arg.] เพื่อประยุกต์ใช้ในการศึกษาอาการเปลือกแห้ง การวิเคราะห์พันธุกรรมระดับโมเลกุลที่เกี่ยวข้องกับอาการเปลือกแห้งในต้นยางพารา (Hevea brasiliensis. Muell. Arg)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก