สืบค้นงานวิจัย
การแก้ไขปัญหาการผสมไม่ติดในโคเนื้อระยะแรกคลอดเชิงบูรณาการของกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สมจิตร์ กันธาพรม - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
ชื่อเรื่อง: การแก้ไขปัญหาการผสมไม่ติดในโคเนื้อระยะแรกคลอดเชิงบูรณาการของกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชื่อเรื่อง (EN): Integrated resolving problems in postpartum beef cattle infertility of member in northeast of Thailand
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สมจิตร์ กันธาพรม
บทคัดย่อ: การกลับสู่สภาพปกติของระบบสืบพันธุ์ใน๊คเนื้อหลังคลอดที่ล่ช้ส่งผลต่อความสมบูรณ์ พันธุ์เละการผสมดิด ซึ่งเป็นข้อจํ กัดต่อความสำเร็จในการจัดการกาสืบพันธุ์และผลตอบแทนทาง เศร ษฐกิจของเกษตรกรรายย่อย สาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหา การผสมไม่ติดมีหลายสาเหตุ แต่ไม่ เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมของโคเนื้อ อย่างไรก็ตามมีหลักฐานมากมายที่ระบุว่าโคเนื้อมักมีระดับ ฮอร์โมนที่ไม่สมดุลและมักจะมีความสมบูรณ์พันธุ์ดั่ ดังนั้ นวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือพื่อแก้ไข ปัญหาการสืบพันธุ์ใน โคเนื้อแรกคลอดที่ลี้ยงกษตรกรราย่อย โดยการบูรณาการการใช้เทคโนโลยี และองค์ความรู้ในด้านชีววิทยาการสืบพันธุ์ร่วมกับการจัดกาชิคเนื้อหลังคลอด ใช้โคเนื้อลูกผสมพื้นเมืองไทยในระยะแรกคลอด ที่ส่วนใหญ่มีปัญหาการผสมไม่ติด จำนวนทั้ งสิ้น 60 ตัว ใน4 แผนงานทดลองระหว่างเดือนตุลาคม 2332 ถึงเดือนสิงหาคม 2534 เพื่อ ทดสอบสมมติฐาน โดยแผนการทดลองที่ 1) ศึกษาการพั ฒนาการของฟอลลิเคิลบนรังไข่ของโคเนื้อ ที่ให้ลูกครั้ งเดียวและที่ให้ลูกหลายครั้ ง โคยใช้คเนื้อ 30 ตัวเริ่มตั้ งแต่วัที่ 5 จนกระทั่ง120 วันหลังคลอด ผลการทดลอง พบว่าโคเนื้อกลุ่มที่ให้ลูกเพียงครั้งเดียวมีการพัฒนาการของฟอลลิเคิลบนรังไข่ ดีกว่าโคเนื้อที่ให้ลูกหลายครั้ง โดยพิจารณาจากวันหลังคลอดที่ปรากฎDF (23 กับ 27.6 วัน ตามลำดับ P:0.01) รวมทั้งเกิดการตกไข่ครั้งแรกในวันที่6.54 วันหลังคลอดในโคที่ให้ลูกเพียง ครั้งเดียว แต่โคนื้อที่ให้ลูกหลายครั้งพบการตกไข่ครั้งแรกในวันที่100.36 วันหลังคลอด(P0.01) แผนการทดลองที่ 2)ทำการเหนี่ยวนำการตกไข่และกำหนดเวลาการผสเทียมในโคเนื้อ 45 ตัว โดย มี 2 ทรีทเมนท์ คือ Ovsynch, Ovsynch+hCG และ Ovsynch+GnRH ผลการทดลอง พบว่าโคเนื้อที่ ได้รับการฉีด hCG และ GnRH ในวันที่5 หลั งการผสม มีจํนวนCL และความเข้มขั้นของฮอร์โมน P4 มากกว่า (P<0.05) แต่ไม่มีผลต่ออัตราการผสมติด แผนการทดลองที่ 3) ทำการตรวจและจัดจำแนกชนิดของถุงนั้ บนรังไข่ และทำการรักษาโดยใช้ฮอร์โมนั่น โคเนื้อ 45 ตัว แบ่งออกเป็น 2 ทรีทเมนท์ คือ กลุ่มที่ไม่ได้รับการตรวจ (ควบคุม) ใช้ Ovsynch ในการรักษา และกลุ่มที่ได้รับการ ตรวจและการจัดจำแนก เป็น 2 ประเภท คือ follicular และ luteal cyst และใช้ฮอร์โมน 2 ชนิด คือ 200 ug of GnRH หรือ 50 mg of PGF,a การตอบสนองต่อฮอร์ โมนของ โคเนื้อในกลุ่ม Iuteal cyst ดีกว่า โคเนื้อในกลุ่ม follicular cyst (P<0.01) แผนการทดลองที่ 4) ใช้โคเนื้อก่อนคลอด 4 สัปดาห์ 40 ตัว ได้รับอาหารข้น2 สูตร คือ ควบคุม (14% โปรตีน) และเสริมด้วขน้ำ มัพืช ขนาด 4% เมื่อ สัตว์คลอดถูกได้รับอาหารขันทั้ 32 สูตร ติดต่อกันอีก 4 สัปดาห์ ผลการทคลอง พบว่าสุขภาพมดถูก และการทำงานของรังไข่ในโคเนื้อที่ได้รับน้ำ มันพืทสริมดีกวัคเนื้อในกลุ่มควบคุม การคลอด การ ขับรก การเข้าอู่ของมคถูกและการกลับสัดครั้ งแรกเกิดขึ้ นเร็วกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (P<0.01) ผลการทดลองที่ได้จากโครงการวิจัยนี้มีส่วนสำกัญต่อความเข้าใจของคณะผู้วิจัย รวมทั้ ง นักวิชาการที่เกี่ยวข้องซึ่งนำไปสู่แนวปฏิบัติที่ป็นเลิศ (he best practices) เพื่อแก้ไขปัญหาการผสม ไม่ติดในโคเนื้อแรกคลอด และอาชีพการเลี้ยงโกเนื้อที่ยั่งยืน
บทคัดย่อ (EN): Slow recovery of reproductive competence associated with decline in fertility during post-partum period in beef cows has been a major limitation to the success of reproductive management and has been a major impact on profitability of dairy co-operative members. Reasons for the decline in reproductive efliciency and low conception are multifactorial and not clearly associated with the genetic of beef cows. However, substantial evidence is consistent with changes in hormonal profile that may underlie the decline in infertility. Therefore, four experiments were conducted during October, 2009 to August, 20011 to investigate the solution of postpartum beef cows infertility problems raised by the small holder farmers. Early postpartum crossbred thai native beef cows (n=160) were enrolled in 4 related experiments; Exp. I thirty beef cows were divided into two groups (primiparous and multiparous cows) and were individually housed and fed ad libitum of roughage and concentrate to meet requirements for beef cows. From days 5 to 120 postpartum, ovarian follicular growth was evaluated every three day using ultrasonography. The follicular dynamic were observed in the both groups. However, the primiparous cows significantly exhibited DF (23 vs. 27.6 days respectively, P<0.01) and ovulation (86.54 vs. 100.36 days respectively, P<0.01) after calving greater than multiparous cows. Exp. I) Nonpregnant beef cows (n = 45) were randomly assigned to each of 3 treatments to receive timed artificial insemination (TAI). Beef cows assigned to thefirst treatment (Ovsynch, n = 15) as control and cows assigned to the second treatment (Ovsynch + hCG, n=15) and the third treatment (Ovsynch + GnRH, n=15) received Ovsynch but with the addition of hCG (1,5000 IU) and GnRH 100 ug injections administered on 5 d after TAI. Al cows received TAI 16 to 18 h after the second GnRH injection. 1,500 IU of hCG and 100 kg GnRH administration on day 5 after TAI increased number of CL on day 8 and 12 and, thus progesterone concentrations but did not increase first conception rate. Exp. III) Beef cows (n=45) were randomly assigned to each of 3 treatments either Ovsynch as a control or diagnosed with ovarian cysts. For the diagnosed group, ultrasonography was used to identify the follicular or luteal cyst and then cows were subjected to receive 200 Hg of GnRH or 50 mg of PGF o Responsiveness of the luteal cyst to PGF a treatment was 100 % (15/15) and greater (P<0.01) than the follicular cyst to GnRH treatment which was 60 % (9/15). Exp. IV) Prepartum multiparous beef cows (n=40) were randomly allocated to receive dietary concentrate (control) plus one of two supplements (4% plant oil) 4-week prior to parturition. Following parturition, all cows were continually given the same dietary concentrate for 4 weeks. Uterine health and ovarian functions were greater in cows supplemented with plant oil. The uterine involution and first estrus postpartum of supplemented cows was recovered sooner than those control cows (P<0.01). Several observations in this research project have substantially contributed to integrated understanding of our research team and related researchers leading to the best practices to resolve infertility problems in postpartum beef cows and therefore the sustainable beef production.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
คำสำคัญ: โคเนื้อแรกคลอด
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การแก้ไขปัญหาการผสมไม่ติดในโคเนื้อระยะแรกคลอดเชิงบูรณาการของกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
30 กันยายน 2554
การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตโคเนื้อของเกษตรกรรายย่อยในกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อ ตำบลบ้านดง อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก การแก้ไขปัญหาการผสมไม่ติดของโครีดนมที่พบถุงน้ำบนรังไข่ การวิจัยและพัฒนาระบบการเลี้ยงและการตลาดโคเนื้อในจังหวัด นครศรีธรรมราช การศึกษาการใช้น้ำมันกระบกเป็นแหล่งของไขมันในอาหารโคเนื้อ การจัดการและพัฒนาอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อเพื่อการพึ่งตนเอง กรณีศึกษาจังหวัดนคสวรรค์ การเลี้ยงโคเนื้อ คุณค่าเชิงสุขภาพของเห็ดกินได้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การพัฒนาระบบการเลี้ยงโคเนื้อในจังหวัดนครศรีธรรมราช การศึกษาอัตราการเลี้ยงโคเนื้อต่อพื้นที่ที่เแบบการเกษตรอินทรีย์ร่วมกับการใช้น้ำส้มควันไม้ผลพลอยได้จากการจัดการการผลิตทางการเกษตรต่อการควบคุมสุขภาพโคเนื้อ การศึกษายีนที่สร้างสารเอ็นเทอโรท็อกซินในเชื้อ S. aureus ที่แยกได้จากโคที่เป็นโรคเต้านมอักเสบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก