สืบค้นงานวิจัย
การจัดการดินเพื่อใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างยั่งยืนในเขตพัฒนาที่ดิน
นคร สืบแสน - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การจัดการดินเพื่อใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างยั่งยืนในเขตพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง (EN): Soil management for sustainable landuse in land development zone
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นคร สืบแสน
บทคัดย่อ: การศึกษาระยะห่างที่เหมาะสมของคูรับน้ำขอบเขาเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำบนพื้นที่สูง ชุดดินหนองมด (Nm) กลุ่มชุดดินที่ 29 อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระยะห่างที่เหมาะสมของคูรับน้ำขอบเขาเพื่อใช้เป็นมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำบนพื้นที่สูง ศึกษาผลการจัดการดินที่มีต่อปริมาณการสูญเสียดินและการเจริญเติบโต ตลอดจนผลผลิตของพืชที่ปลูก ศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีและกายภาพของดินเมื่อมีการจัดการดินต่างกัน วางแผนการทดลองแบบ Randomized complete block มี 3 ซ้ำ 5 ตำรับการทดลอง ประกอบด้วย ตำรับที่ 1 แปลงควบคุม (ไม่มีระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ) ตำรับที่ 2 ระยะห่างระหว่างคูรับน้ำขอบเขาในแนวดิ่ง 3 เมตร ตำรับที่ 4 ระยะห่างระหว่างคูรับน้ำขอบเขาในแนวดิ่ง 4 เมตร และตำรับที่ 5 ระยะห่างระหว่างคูรับน้ำขอบเขาในแนวดิ่ง 5 เมตร ในช่วงปี 2551-2553 พบว่า ระยะห่างในแนวดิ่งที่เหมาะสมสำหรับคูรับน้ำขอบเขาบนพื้นที่ที่มีความลาดชัน 15-25 เปอร์เซ็นต์ คือ 3 เมตร (ตำรับที่ 2) ลดปริมาณตะกอนดินได้ประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ของตะกอนดินในพื้นที่ที่ไม่ระบบคูรับน้ำขอบเขา รองลงมาคือ 3.5 เมตร (ตำรับที่ 3) ลดปริมาณตะกอนดินได้ 55 เปอร์เซ็นต์ และ 4.0 เมตร (ตำรับที่ 4) ลดปริมาณตะกอนดินได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณการสูญเสียดิน ระยะห่างในแนวดิ่ง 4.5 เมตร (ตำรับที่ 5) มีการสูญเสียตะกอนดินมากที่สุดคิดเป็นปริมาณธาตุอาหารเท่ากับ 62.29 กิโลกรัม รองลงมาคือตำรับที่ 4 มีระยะห่างในแนวดิ่ง 4.0 เมตร ตำรับที่ 3 มีระยะห่างในแนวดิ่ง 3.5 เมตร และตำรับที่ 2 มีระยะห่างในแนวดิ่ง 3 เมตร ซึ่งมีปริมาณธาตุอาหารที่สูญเสียไปเท่ากับ 29.88, 23.67 และ 11.95 กิโลกรัมตามลำดับ สำหรับการเจริญเติบโตและผลิตข้าวไร่การเปลี่ยนแปลงระยะห่างในแนวดิ่งของคูรับน้ำขอบเขาไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตของข้าวไร่ที่ปลูก แต่มีผลต่อปริมาณและคุณภาพของผลผลิตข้าวไร่คือระยะห่างในแนวดิ่ง 4.0 เมตร (ตำรับที่ 4) นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงระยะห่างในแนวดิ่งของระบบอนุรักษ์ดินและน้ำแบบคูรับน้ำขอบเขามีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสมบัติของดินน้อยกว่าการจัดการพื้นที่
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: หญ้าแฝก
คำสำคัญ (EN): vetiver grass
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การจัดการดินเพื่อใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างยั่งยืนในเขตพัฒนาที่ดิน
นคร สืบแสน
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2554
การจัดการดินแบบเกษตรกรมีส่วนร่วม เพื่อการผลิตพืชเศรษฐกิจในพื้นที่เขตพัฒนาที่ดินจังหวัดอุตรดิตถ์ การวิเคราะห์ความคุ้มค่าพื้นที่เขตพัฒนาที่ดิน กรณีศึกษา เขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำห้วยโป่งน้อย จังหวัดอำนาจเจริญ การวิเคราะห์ความคุ้มค่าพื้นที่เขตพัฒนาที่ดิน การศึกษาความสัมพันธ์ของปริมาณธาตุอาหารพืชในดินกับชุดดินและการใช้ประโยชน์ที่ดินด้านต่างๆ เพื่อการจัดการดินอย่างยั่งยืน กรณีศึกษาเขตพัฒนาที่ดิน ของ สพข. 8 การจัดการดินและปุ๋ยเพื่อเพิ่มผลผลิตและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของมันสำปะหลังในพื้นที่เขตพัฒนาที่ดิน จังหวัดอุตรดิตถ์ (กลุ่มชุดดินที่ 35) การผลิตมะม่วงนอกฤดูอย่างยั่งยืน การส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตข้าว เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน การศึกษาดินเสื่อมโทรมที่มีผลกระทบต่อระบบผลิตทางการเกษตรของที่ดิน ในพื้นที่เขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำแหง อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน โดยใช้โปรแกรมของโครงการ Land Degradation Assessment in Dryland (LADA) Project มาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เหมาะสมในการกำหนดเขตการใช้ที่ดิน (zoning) ในพื้นที่เขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำแหง อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน การจัดการดินและปุ๋ยเพื่อเพิ่มผลผลิตและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่เขตพัฒนาที่ดิน จังหวัดอุตรดิตถ์ (กลุ่มชุดดินที่ 35)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก