สืบค้นงานวิจัย
โครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ในภาคตะวันออก : ระยอง จันทบุรี ตราด และสระแก้ว
ปรียนันท์ สิทธิจินดาร์ - มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
ชื่อเรื่อง: โครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ในภาคตะวันออก : ระยอง จันทบุรี ตราด และสระแก้ว
ชื่อเรื่อง (EN): Potential Development on Agro-tourism Participated by Eastern Region Community : Rayong, Chanthaburi, Trad, and Srakeaw
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ปรียนันท์ สิทธิจินดาร์
บทคัดย่อ: การท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agro-tourism) เป็นผลมาจากกระแสการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลก ที่ผลักดันให้เกิดกระแสการพัฒนาการท่องเที่ยว 3 ประการ ประกอบด้วย 1) กระแสความต้องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ 2) กระแสความต้องการของตลาดท่องเที่ยวในด้านการศึกษาเรียนรู้ และ 3) กระแสความต้องการพัฒนาคน โดยในปี 2563 จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 1,561 ล้านคน ซึ่งแนวโน้มของนักท่องเที่ยวในลักษณะที่ต้องการ การเรียนรู้เข้าถึงวัฒนธรรม ประเพณี สัมผัสกับวิถีชีวิตชุมชน ไม่ต้องการเที่ยวแบบฉาบฉวย ต้องการมีความรู้ มีปัญญาติดตัวกลับไปด้วย ต้องการเที่ยวอย่างคุ้มค่า อย่างมีคุณภาพ จะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ (ภราเดช พยัฆวิเชียร, 2552) ในอนาคตภาคการเกษตรของไทยนั้นมีแนวโน้มเป็นอาชีพที่มีความสำคัญมากขึ้นไปอีกเพราะการเกษตรจะเป็นแหล่งผลิตอาหาร ผลิตพลังงาน และเป็นฐานทางสังคมส่วนใหญ่ของประชากร ทางเลือกของการทำการเกษตรจะหลากหลายมากขึ้น ยุคใหม่นี้อาชีพ เกษตรกร จะกลายเป็น ผู้ประกอบการเกษตร มากขึ้น จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบอาชีพการเพาะปลูกแบบดั้งเดิม มาเน้นการบริหารจัดการมากขึ้น เช่น การบริหารจัดการฟาร์ม การบริหารจัดการทรัพยากรการเกษตร หรือต้นทุนทางวิถีเกษตรที่มีอยู่มากขึ้น (สถาบันคลังสมอง, 2554) การท่องเที่ยวเชิงเกษตรนั้นจะสอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนและสร้างทางเลือกการประกอบอาชีพเกษตรกรมาเป็น ผู้ประกอบการเกษตร ซึ่งกำลังได้รับความนิยม และถ้ากระแสของ การท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพิ่มสูงขึ้น ก็จะสอดคล้องกับการพัฒนาท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เหมาะสมกับ การเปลี่ยนแปลงในอนาคต การวิจัยเรื่อง โครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนใน ภาคตะวันออก : ระยอง จันทบุรี ตราด และสระแก้วนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาศักยภาพและต้นทุน ที่เอื้อต่อการจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของชุมชน เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกร สามารถใช้ศักยภาพ และต้นทุนที่มีอยู่ในการจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ของชุมชนตนเองได้ เพื่อเป็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้เกิดศักยภาพ อันเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยว และเป็นการเสริมรายได้ให้กับท้องถิ่น และเพื่อให้เกิดเครือข่ายการเรียนรู้การท่องเที่ยวเชิงเกษตรระหว่างจังหวัด ในภาคตะวันออก ซึ่งการวิจัย ในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research: PAR) และในกระบวนการดำเนินงานได้ให้ประชาชนผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) เข้ามาดำเนินการวิจัยในลักษณะของทีมวิจัยด้วย ผลของการวิจัยพบว่า 1. เกิดกลุ่มการท่องเที่ยวที่เข้มแข็งและร่วมกันสร้างระบบการบริหารจัดการในเบื้องต้นได้ ซึ่งประกอบไปด้วย กลุ่มเกษตรอินทรีย์ กลุ่มประมง กลุ่มวัฒนธรรม เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีหน่วยงานทั้งในและนอกพื้นที่เป็นผู้สนับสนุนหลายหน่วยงาน อาทิเช่น องค์การบริหารส่วนตำบล สถาบันการศึกษา ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นภาคตะวันออก และหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น 2. ต้นทุนหรือศักยภาพในการจัดการท่องเที่ยวของชุมชน ได้แก่ ข้อมูลต้นทุนวิถีการเกษตร โดยเฉพาะสวนผลไม้อินทรีย์ ข้อมูลต้นทุนทรัพยากร เช่น แหล่งน้ำ ลำคลอง ป่า เขา พืชสมุนไพร เป็นต้น และต้นทุนในด้านวัฒนธรรมประเพณีต่าง ๆ เช่น ภาษาญวน เป็นต้น 3. ได้รูปแบบการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งประกอบด้วย การท่องเที่ยวที่เน้นการสร้างความยั่งยืน ในด้านทรัพยากรการเกษตรและสิ่งแวดล้อมที่เน้นความปลอดภัย และฟื้นฟูวิถีวัฒนธรรมประเพณีของชุมชน มีโปรแกรม-เส้นทางและระบบบริหารจัดการที่สามารถปฏิบัติการได้จริง 4. ผู้คนในชุมชนเริ่มมีความตื่นตัวในการเข้าร่วมการจัดการท่องเที่ยวมากขึ้น เป็นการ เสริมอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ และสร้างความภาคภูมิใจในกลุ่มชาติพันธุ์ญวน 5. องค์ความรู้และข้อมูลที่เกิดจากงานวิจัยสามารถเข้าไปเชื่อมโยงกับระบบการฟื้นฟูด้าน ภาษาญวนของชุมชน 6. ได้เข้าร่วมเป็นเครือข่ายท่องเที่ยวโดยชุมชนภาคตะวันออก ซึ่งเป็นชุมชนที่จัดการ ท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ซึ่งเป็นเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พร้อมทั้งขยายผลในการประชาสัมพันธ์ชุมชนสู่สาธารณะให้มากขึ้น
บทคัดย่อ (EN): Agro-tourism is a consequence of the world’s current of sustainable development which steers the current of 3 aspects of tourism development. This comprises the following need currents: 1) environment and natural resource conservation; 2) tourism market on leaning; and 3) human resource development. It is expected that an increase in a member of tourist will reach 1,561 million people in 2020. It has a tendency that many of these tourists also need to learn about culture, tradition, and way of life of their destination or it can be said that it is a worthwhile travelling (Payakwichian, 2009). The future agricultural section of Thailand has a high tendency to be very important. This is because the country will be a very important source of food and energy production. In this age, Thai farmers are likely to become to be entrepreneurs more than before. Thus, their traditional style of cultivation will be shift to focus on the managerial administration e.g. farm, cost, and agricultural resource management (Brain Treasury Institute, 2011). In fact, agro-tourism will be consistent with the adaptation and the creation of agricultural occupation alternatives-from farmer to become entrepreneurs. It there is an increase in the current of agro-tourism, this will be agro-tourism development suitable for the future changes. The objectives of this study were to: 1) explore potential and costs contributing to community-based agro-tourism; 2) promote farmers to utilize their potential and existing costs for the management of agro-tourism; 3) construct partial tourist spots in order to be an alternative for tourists; 4) generate supplementary incomes for local people; and 5) create learning networks on agro-tourism among eastern provinces of Thailand. This study was the form of Participatory Action Research: PAR joined by local stakeholders. Results of this study revealed the following: 1. There was the occurrence of strong tourism groups and the coordination in fundamental management. This comprised organic farming group, fisheries group, culture group, etc. Besides, there were supporting agencies inside and outside the community e.g. local administrative organization, educational institute, Eastern Research Coordination Center, tourism agency, etc. 2. Costs or potential in community-based tourism management i.e. agro-livelihoods (organic orcharding) and natural resources (water source, canals, forests, mountain, herbal plants, etc.) 3. A community-based tourism model was obtained. This comprised sustainability in agricultural resources and environment; rehabilitation of local culture and tradition; and programs/routs and the management system which could be truly practiced. 4. People in the community were aware of the participation in tourism management. This enhanced racial identity and created pride of Yuan ethic group. 5. The body of knowledge and data obtained from results of the study could be connected with the system of Yuan dialect rehabilitation of the community. 6. There was the coordination among tourism networks in communities of eastern Thailand for sustainable tourism. This was in the form of knowledge exchange and extension to the public.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
คำสำคัญ: ภาคตะวันออก
คำสำคัญ (EN): Eastern Region
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ในภาคตะวันออก : ระยอง จันทบุรี ตราด และสระแก้ว
มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
30 กันยายน 2556
รูปแบบการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์แบบโฮมสเตย์ จังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด แนวทางการพัฒนาศักยภาพการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน การพัฒนาการมีส่วนร่วมของสตรีในการเสริมสร้างผลิตภัณฑ์พื้นบ้านเพื่อตอบสนองการท่องเที่ยงในชุมชน วิจัยและพัฒนาศักยภาพทรัพยากรท่องเที่ยว เพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ในชุมชนมลาบรี อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ การพัฒนาเครือข่ายการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในจังหวัดเชียงใหม่ การพัฒนาการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน ศักยภาพของชุมชนตำบลแม่ทาในการจัดการทรัพยากรเกษตรที่ระดับลุ่มน้ำ การพัฒนาศักยภาพด้านการพัฒนาชุมชนของผู้นำชุมชน ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเกษตรบนฐานทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่นของเทศบาลแม่หล่ายอย่างมีส่วนร่วม รูปแบบการตลาดที่เหมาะสมในการจำแนกปุ๋ยหมักของชุมชน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก