สืบค้นงานวิจัย
พืชสมุนไพรสำหรับสตรีหลังคลอดของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ลาว และกลุ่มชาติพันธุ์ภูไทในจังหวัดร้อยเอ็ด
สุรชัย รัตนสุข - มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
ชื่อเรื่อง: พืชสมุนไพรสำหรับสตรีหลังคลอดของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ลาว และกลุ่มชาติพันธุ์ภูไทในจังหวัดร้อยเอ็ด
ชื่อเรื่อง (EN): Medicinal plant for postpartum women of the Tai- Lao and Phu- Tai in Roi Et Province
บทคัดย่อ: หัวข้อวิจัย: พืชสมุนไพรสำหรับสตรีหลังคลอดของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ลาว และกลุ่มชาติพันธุ์ภูไท ในจังหวัด ร้อยเอ็ด ผู้ดำเนินการวิจัย: ดร. เอื้อมพร จันทร์สองดวง และ ผศ. ดร. สุรชัย รัตนสุข หน่วยงาน: คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ปี พ.ศ.: 2560 บทคัดย่อ การสำรวจชนิดของพืชสมุนไพรที่ใช้สำหรับสตรีหลังคลอดของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ลาว และภูไทในจังหวัดร้อยเอ็ด ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2558 – ธันวาคม 2559 มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาชนิดของพืชสมุนไพรที่ใช้สำหรับสตรีหลังคลอดของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ลาว และภูไทในจังหวัดร้อยเอ็ด โดยจะนำมาเปรียบเทียบความแตกต่างขององค์ความรู้ ในการใช้พืชสมุนไพรระหว่าง 2 กลุ่มชาติพันธุ์ โดยสัมภาษณ์หมอยาพื้นบ้าน (จำนวน 7 คน) แบ่งเป็นหมอยาพื้นบ้านกลุ่มชาติพันธุ์ไทลาว 4 คน หมอยาพื้นบ้านกลุ่มชาติพันธุ์ ภูไท จำนวน 3 คน ใช้แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง และสำรวจพืชสมุนไพรในภาคสนาม ผลการศึกษาพบพืชสมุนไพรทั้ง 2 กลุ่มชาติพันธุ์ มีจำนวนทั้งหมด 196 ชนิด 161 สกุล 85 วงศ์ โดยพบพืชที่นำมาใช้มากที่สุด คือวงศ์ Leguminosae (16 ชนิด) รองลงมา คือวงศ์ Euphorbiaceae (13 ชนิด) ตามลำดับ ส่วนของพืชสมุนไพรที่นิยมนำมาใช้ในการรักษามากที่สุดคือ ลำต้น 123 ชนิด (36.49%) รองลงมา คือ ราก 79 ชนิด (23.50%) และวิธีการที่ใช้ในการรักษาโรคที่พบมากที่สุด คือ วิธีการนำมาต้มสำหรับดื่ม 191 ชนิด (66.30%) ชนิดของพืชที่ถูกนำมาใช้มากที่สุดคือ รางจืด (Thunbergia laurifolia Lindl.) มีค่าดัชนีรายงานการใช้ (UV) เท่ากับ 0.57 กลุ่มอาการของโรคที่ใช้พืชสมุนไพรในการรักษามี 25 กลุ่มอาการ กลุ่มอาการเกี่ยวกับเลือด (Blood system disorder) มีค่า Informant Agreement Ratio (IAR) มากที่สุด (0.04) และ ค่าความคล้ายคลึงกันของชนิดพืชที่ใช้ระหว่าง 2 กลุ่มชาติพันธุ์ Percent Similarity Index (PSI) 28.7% (33 ชนิด) ค่าเฉลี่ยของจำนวนพืชสมุนไพรที่รู้จักและนำมาใช้โดยผู้เชี่ยวชาญหรือหมอยาพื้นบ้านทั้ง 2 กลุ่มชาติพันธุ์ เท่ากับ 48 ชนิด/คน (หมอยาไทลาว 35 ชนิด/คน; หมอยาภูไท 60 ชนิด/คน)
บทคัดย่อ (EN): Title: Medicinal Plants for Postpartum Women of the Tai- Lao and Phu- Tai in Roi Et Province Authors: Dr. Auemporn Junsongduang and Assist. Prof. Surachai Rattanasuk Year: 2017 ABTRACT The objectives of this study were to collect the traditional knowledge and species diversity of medicinal plant for pospatum women used by traditional healers and the villagers in Tai-Lao and Phu-Tai ethnicityies and to compare the traditional uasage of medicinal plant among 2 ethnicities in Roi Et Province. Field survey and data collection was conducted between October 2015 – December 2016. A Total of 7 traditional healers (Tai-Lao: 4 and Phu-Tai: 3) were interviewed by semi-structure interviewes. As a results, 196 plants species from 161 genera 85 familes were used as traditional medicine by the two ethnic groups. The plant family with the most frequentlyreported species was Leguminosae (16 species) followed by Euphobiceae (13 species). The most used part of plants was stem 123 species; 36.49%) followed by root (79 species; 23.50%). Medicinal plants were mostly prepared as decoction (191 species; 66.30% ). Thunbergia laurifolia Lindl. was the mostly used plant with the use value (UV) 0.57. Blood system disorder was the categories with the highest IAR value (0.04). Percent Similarity Index (PSI) of medicinal plants used among 2 ethnicities was 28.7% (33 species). The average number of medicinal plant species known by herbalists of the two ethnic groups was 48 species (Tai-Lao 35; Phu-Tai 60).
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
คำสำคัญ: กลุ่มชาติพันธุ์ภูไท
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

สุรชัย รัตนสุข. "พืชสมุนไพรสำหรับสตรีหลังคลอดของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ลาว และกลุ่มชาติพันธุ์ภูไทในจังหวัดร้อยเอ็ดMedicinal plant for postpartum women of the Tai- Lao and Phu- Tai in Roi Et Province". มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด. 2560

สุรชัย รัตนสุข. "พืชสมุนไพรสำหรับสตรีหลังคลอดของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ลาว และกลุ่มชาติพันธุ์ภูไทในจังหวัดร้อยเอ็ดMedicinal plant for postpartum women of the Tai- Lao and Phu- Tai in Roi Et Province". มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด. 2560. Print.



TARR Wordcloud:
พืชสมุนไพรสำหรับสตรีหลังคลอดของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ลาว และกลุ่มชาติพันธุ์ภูไทในจังหวัดร้อยเอ็ด
สุรชัย รัตนสุข
มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
30 กันยายน 2560
การศึกษาคัมภีร์อานิสงส์ของกลุ่มชาติพันธุ์ไท : ไทยวน ไทลื้อ ไทขึน และลาว พันธุศาสตร์ประชากรของโครโมโซมวายในกลุ่มชาติพันธุ์ไทยพวน ชลชีววิทยาและทรัพยากรประมงในอ่างเก็บน้าธวัชชัยหลังการขุดลอก จังหวัดร้อยเอ็ด โครงการย่อยที่ 1 การทดสอบฤทธิ์ของพืชสมุนไพรเพื่อต้านเชื้อราที่ก่อโรคในข้าวสู่การนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบน้ำสกัดสมุนไพรกำจัดเชื้อราเพื่อการผลิตข้าวอินทรีย์ในกลุ่มเกษตรกรรายย่อยของอำเภอปะคำ จังหวัดบุรี การศึกษาสารสกัดชีวภาพไล่แมลงศัตรูพืชจากสมุนไพรผู้ไท จังหวัดกาฬสินธุ์ การศึกษาศักยภาพเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยววัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ผู้ไท บ้านหนองห้าง ตำบลหนองห้าง อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ความหลากชนิดของพรรณไม้และจัดทำระบบฐานข้อมูล GIS เบื้องต้นของไม้ต้นในพื้นที่ป่าวัฒนธรรมป่าทุ่งปะ จังหวัดร้อยเอ็ด การศึกษาและประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาการย้อมสีจากวัสดุธรรมชาติของชาติพันธุ์และชนเผ่า : กะเหรี่ยง ไทลื้อ ไทพวน ไทยวน และ เมี่ยน การศึกษาและรวบรวมลายผ้าของชาติพันธุ์และชนเผ่า : กระเหรี่ยง ไทลื้อ ไทพวน ไทยวน และเมี่ยน ความมั่นคงทางอาหารจากฐานความหลากหลายทางชีวภาพในชุมชน ชาติพันธุ์ลุ่มน้ำกก-ลุ่มน้ำโขง ส่วนที่ 1 : กรณีศึกษา จังหวัดเชียงราย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair