สืบค้นงานวิจัย
ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์หางไหลในการควบคุมโรคพืชบางชนิดในสภาพห้องปฏิบัติการและโรงเรือน
จุฑารัตน์ ทิพย์ชู - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
ชื่อเรื่อง: ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์หางไหลในการควบคุมโรคพืชบางชนิดในสภาพห้องปฏิบัติการและโรงเรือน
ชื่อเรื่อง (EN): Efficacy of Derris Products on Some Plant Diseases Control under Laboratory and Greenhouse Conditions
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จุฑารัตน์ ทิพย์ชู
บทคัดย่อ: การทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์หางไหลและสารสกัดจากพืช ในการยับยั้งการเจริญของเส้นใยเชื้อรา การสร้างสปอร์ การงอกของสปอร์ การงอกของเม็ดสเครอโรเตีย และการควบคุมโรคพืช ดำเนินการ ณ สถาบันวิจัยและฝึกอบรมการเกษตรลำปาง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ล้านนา ระหว่าง 2547-2549 ผลการทดลองพบว่า สารสกัดสูตร 6 (หางไหล : ดีปลี : กานพลู อัตราส่วน 1:1:1 โดยปริมาตร ความเข้มข้น 1 %) มีประสิทธิภาพดีที่สุดสามารถยับยั้งการเจริญของเส้นใยเชื้อราสาเหตุโรคพืชที่สำคัญ 5 ชนิด (Sclerotium rolfsii Marssonina sp. Colletotrichum gloeosporioides Pythium sp. และ Phytophthora sp.) ได้ 100 % ส่วนสารสกัดสูตร 6 (0.5 และ 1 %) มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญของเชื้อราดังกล่าวได้ไม่แตกต่างกัน แต่ดีกว่าที่ระดับความเข้มข้น 0.1 % สารสกัดทั้ง 10 สูตรที่ทำการทดสอบสามารถยับยั้งการสร้างสปอร์และการงอกของสปอร์เชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides และ Marssonina sp. ได้ 100 % แต่ไม่สามารถยับยั้งการงอกของเม็ดสเครอโรเตีย (sclerotia) ของเชื้อรา S. rolfsii ได้ สารสกัดกานพลู (1%) สามารถยับยั้งการเจริญของเส้นใยเชื้อราทั้ง 5 ชนิดดังกล่าวได้ 100 % รองลงมาได้แก่ สารสกัดดีปลี สารสกัดทุกสูตรที่มีกานพลูเป็นส่วนผสม ได้แก่ สูตร 2 (หางไหล : กานพลู ) สูตร 6 (หางไหล : ดีปลี : กานพลู) สูตร 7 (หางไหล : หนอนตายหยาก : กานพลู) และ สูตร 10 (หนอนตายหยาก : ดีปลี : กานพลู) ที่ระดับความเข้มข้น 1 % สามารถยับยั้งการเจริญของเส้นใยเชื้อรา Alternaria sp. ได้ 100 % ภายหลังการทดสอบ 15 วัน ส่วนสารโรติโนนบริสุทธิ์และอนุพันธ์ที่ระดับความเข้มข้น 0.1 % มีประสิทธิภาพต่ำในการยับยั้งการเจริญของเชื้อราทั้ง 5 ชนิดบางสูตรกลับกระตุ้นการเจริญของเชื้อทำให้สามารถเจริญได้ดีและเร็วกว่ากรรมวิธีควบคุม การทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดในการควบคุมโรคพืช ในสภาพห้องปฏิบัติการและโรงเรือน ผลการทดลองพบว่า สารสกัดสูตร 6 (10 %) มีแนวโน้มในการควบคุมโรคแอนแทรคโนสของมะม่วงน้ำดอกไม้ที่เกิดจากเชื้อรา C. gloeosporioides ช่วยลดการเกิดแผลและขนาดของแผลได้ดีกว่า mancozeb (0.1 %) ภายหลังการทดสอบ 7 วัน แต่ภายหลังการทดสอบ 10 วัน ทุกกรรมวิธีไม่สามารถควบคุมโรคได้ สารสกัดกานพลู (1 %) มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคใบจุดดำของกุหลาบที่เกิดจากเชื้อรา Marssonina sp. ได้เท่าเทียมกับสารเคมี benomyl (0.1 %) และดีกว่าสูตร 6 (1 และ 10 %) ภายหลังการทดสอบ 10 วัน สารสกัดสูตร 6 และกานพลู (1 และ 5 %) มีผลทำให้เปอร์เซ็นต์ความงอกของเมล็ดลดลง โดยเฉพาะสารสกัดกานพลู (5 %) ทำให้เมล็ดสูญเสียความงอก 100 % ภายหลังการพ่นสาร 5-15 วัน ในขณะที่ carboxin (0.1 %) มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคและช่วยให้เมล็ดงอกได้ดีกว่าสารสกัดดังกล่าวภายหลังการพ่นสาร 15 วัน สารสกัดสูตร 6 และกานพลู (1 %) มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคโคนเน่าของพริกที่เกิดจากเชื้อรา Phytphthora sp. ดีกว่าสารสกัดสูตร 6 (10 %) การพ่นสาร 1 ครั้งให้ผลทำนองเดียวกับการพ่นสาร 3 ครั้ง สารสกัดทั้ง 2 สูตรประสิทธิภาพในการควบคุมโรคลดลงตามระยะเวลาที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 5 วันหลังพ่นสาร ส่วนสารเคมีประสิทธิภาพลดลงภายหลังการพ่นสาร 20 วัน สารสกัดสูตร 6 และกานพลู (1 และ 5 %) มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคเน่าคอดินของกล้าคะน้าที่เกิดจากเชื้อรา Pythium sp. ได้ปานกลางมีต้นรอดตาย 47.5-56.5 % สารสกัดทั้ง 2 สูตร มีผลยับยั้งความงอกของเมล็ดคะน้า โดยเฉพาะกานพลู (5 %) มีเปอร์เซ็นต์ความงอกและต้นรอดตายต่ำกว่ากรรมวิธีควบคุม ส่วน metalaxyl (0.05 %) ช่วยให้เมล็ดงอกและรอดตาย 97.95 % ภายหลังการพ่นสาร 30 วัน สารสกัดสูตร 6 และกานพลู (1 %) มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคใบจุดดำของคะน้าที่เกิดจากเชื้อรา Alternaria sp. ได้ไม่แตกต่างจาก benomyl (0.1%) ภายหลังการทดสอบ 30 วัน
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=44&RecId=533&obj_id=1685
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
คำสำคัญ: โรคใบจุดดำ
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
รายละเอียด: การทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์หางไหลและสารสกัดจากพืช ในการยับยั้งการเจริญของเส้นใยเชื้อรา การสร้างสปอร์ การงอกของสปอร์ การงอกของเม็ดสเครอโรเตีย และการควบคุมโรคพืช ดำเนินการ ณ สถาบันวิจัยและฝึกอบรมการเกษตรลำปาง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ล้านนา ระหว่าง 2547-2549 ผลการทดลองพบว่า สารสกัดสูตร 6 (หางไหล : ดีปลี : กานพลู อัตราส่วน 1:1:1 โดยปริมาตร ความเข้มข้น 1 %) มีประสิทธิภาพดีที่สุดสามารถยับยั้งการเจริญของเส้นใยเชื้อราสาเหตุโรคพืชที่สำคัญ 5 ชนิด (Sclerotium rolfsii Marssonina sp. Colletotrichum gloeosporioides Pythium sp. และ Phytophthora sp.) ได้ 100 % ส่วนสารสกัดสูตร 6 (0.5 และ 1 %) มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญของเชื้อราดังกล่าวได้ไม่แตกต่างกัน แต่ดีกว่าที่ระดับความเข้มข้น 0.1 % สารสกัดทั้ง 10 สูตรที่ทำการทดสอบสามารถยับยั้งการสร้างสปอร์และการงอกของสปอร์เชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides และ Marssonina sp. ได้ 100 % แต่ไม่สามารถยับยั้งการงอกของเม็ดสเครอโรเตีย (sclerotia) ของเชื้อรา S. rolfsii ได้ สารสกัดกานพลู (1%) สามารถยับยั้งการเจริญของเส้นใยเชื้อราทั้ง 5 ชนิดดังกล่าวได้ 100 % รองลงมาได้แก่ สารสกัดดีปลี สารสกัดทุกสูตรที่มีกานพลูเป็นส่วนผสม ได้แก่ สูตร 2 (หางไหล : กานพลู ) สูตร 6 (หางไหล : ดีปลี : กานพลู) สูตร 7 (หางไหล : หนอนตายหยาก : กานพลู) และ สูตร 10 (หนอนตายหยาก : ดีปลี : กานพลู) ที่ระดับความเข้มข้น 1 % สามารถยับยั้งการเจริญของเส้นใยเชื้อรา Alternaria sp. ได้ 100 % ภายหลังการทดสอบ 15 วัน ส่วนสารโรติโนนบริสุทธิ์และอนุพันธ์ที่ระดับความเข้มข้น 0.1 % มีประสิทธิภาพต่ำในการยับยั้งการเจริญของเชื้อราทั้ง 5 ชนิดบางสูตรกลับกระตุ้นการเจริญของเชื้อทำให้สามารถเจริญได้ดีและเร็วกว่ากรรมวิธีควบคุม การทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดในการควบคุมโรคพืช ในสภาพห้องปฏิบัติการและโรงเรือน ผลการทดลองพบว่า สารสกัดสูตร 6 (10 %) มีแนวโน้มในการควบคุมโรคแอนแทรคโนสของมะม่วงน้ำดอกไม้ที่เกิดจากเชื้อรา C. gloeosporioides ช่วยลดการเกิดแผลและขนาดของแผลได้ดีกว่า mancozeb (0.1 %) ภายหลังการทดสอบ 7 วัน แต่ภายหลังการทดสอบ 10 วัน ทุกกรรมวิธีไม่สามารถควบคุมโรคได้ สารสกัดกานพลู (1 %) มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคใบจุดดำของกุหลาบที่เกิดจากเชื้อรา Marssonina sp. ได้เท่าเทียมกับสารเคมี benomyl (0.1 %) และดีกว่าสูตร 6 (1 และ 10 %) ภายหลังการทดสอบ 10 วัน สารสกัดสูตร 6 และกานพลู (1 และ 5 %) มีผลทำให้เปอร์เซ็นต์ความงอกของเมล็ดลดลง โดยเฉพาะสารสกัดกานพลู (5 %) ทำให้เมล็ดสูญเสียความงอก 100 % ภายหลังการพ่นสาร 5-15 วัน ในขณะที่ carboxin (0.1 %) มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคและช่วยให้เมล็ดงอกได้ดีกว่าสารสกัดดังกล่าวภายหลังการพ่นสาร 15 วัน สารสกัดสูตร 6 และกานพลู (1 %) มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคโคนเน่าของพริกที่เกิดจากเชื้อรา Phytphthora sp. ดีกว่าสารสกัดสูตร 6 (10 %) การพ่นสาร 1 ครั้งให้ผลทำนองเดียวกับการพ่นสาร 3 ครั้ง สารสกัดทั้ง 2 สูตรประสิทธิภาพในการควบคุมโรคลดลงตามระยะเวลาที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 5 วันหลังพ่นสาร ส่วนสารเคมีประสิทธิภาพลดลงภายหลังการพ่นสาร 20 วัน สารสกัดสูตร 6 และกานพลู (1 และ 5 %) มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคเน่าคอดินของกล้าคะน้าที่เกิดจากเชื้อรา Pythium sp. ได้ปานกลางมีต้นรอดตาย 47.5-56.5 % สารสกัดทั้ง 2 สูตร มีผลยับยั้งความงอกของเมล็ดคะน้า โดยเฉพาะกานพลู (5 %) มีเปอร์เซ็นต์ความงอกและต้นรอดตายต่ำกว่ากรรมวิธีควบคุม ส่วน metalaxyl (0.05 %) ช่วยให้เมล็ดงอกและรอดตาย 97.95 % ภายหลังการพ่นสาร 30 วัน สารสกัดสูตร 6 และกานพลู (1 %) มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคใบจุดดำของคะน้าที่เกิดจากเชื้อรา Alternaria sp. ได้ไม่แตกต่างจาก benomyl (0.1%) ภายหลังการทดสอบ 30 วัน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์หางไหลในการควบคุมโรคพืชบางชนิดในสภาพห้องปฏิบัติการและโรงเรือน
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
ประสิทธิภาพของสารสกัดจากพืชต่อการควบคุมโรคพืชที่สำคัญบางชนิดในสภาพห้องปฏิบัติการและโรงเรือน ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์หางไหลในการควบคุมแมลงศัตรูพืชบางชนิดในห้องปฏิบัติการและโรงเรือน ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์หางไหลในการควบคุมโรคและแมลงศัตรูกุหลาบในแปลงปลูก ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์หางไหลในการควบคุมโรคและแมลงศัตรูมะม่วงและส้มโอ ในแปลงปลูก ประสิทธิภาพของสารสกัดจากพืชบางชนิด ในการป้องกันกำจัดด้วงหมัดผัก ประสิทธิภาพของสารสกัดจากพืชบางชนิดในการป้องกันกำจัดไรขาวพริก ประสิทธิภาพของสารเคมีควบคุมโรคพืชบางชนิดต่อโรคของเมล็ดถั่วเหลือง การใช้สมุนไพรในการควบคุมหนอนแมลงวันในคอกไก่ไข่ การศึกษาสมุนไพรเพื่อป้องกันและกำจัดโรคพืชที่มีสาเหตุมาจากไวรัสใบด่างยาสูบ ลักษณะทางจุลกายวิภาคของโรคท้องบวมน้ำในม้าน้ำ Hipocampus kuda (Bleeker) ที่เลี้ยงในห้องปฏิบัติการ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก