สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาสื่ออิเล็กทรอนิกส์รูปแบบสื่อปฏิสัมพันธ์ ในการเรียนรู้ด้านความ ปลอดภัยอาหารสำหรับนักเรียน
ผศ.ดร.เวณิกา เบ็ญจพงษ์ - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาสื่ออิเล็กทรอนิกส์รูปแบบสื่อปฏิสัมพันธ์ ในการเรียนรู้ด้านความ ปลอดภัยอาหารสำหรับนักเรียน
ชื่อเรื่อง (EN): Development of interactive electronic media in food safety education for school children
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ผศ.ดร.เวณิกา เบ็ญจพงษ์
บทคัดย่อ:   สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ได้สนับสนุนทุนวิจัยโครงการ “การพัฒนาสื่ออิเล็กทรอนิกส์รูปแบบสื่อปฏิสัมพันธ์ ในการเรียนรู้ด้านความปลอดภัยอาหารสำหรับนักเรียน” แก่มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมี ผศ.ดร.เวณิกา เบ็ญจพงษ์ เป็นหัวหน้าโครงการ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ เพื่อพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์รูปแบบสื่อปฏิสัมพันธ์ นำไปใช้ให้ความรู้เรื่องความปลอดภัยอาหาร เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้เรียนสนใจเรียนรู้ในการเลือกบริโภคอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ และพัฒนาเกมอิเล็กทรอนิกส์รูปแบบสื่อปฏิสัมพันธ์ นำไปใช้ในการเรียนรู้เรื่องการได้รับสารกันบูดจากการบริโภคอาหาร เพื่อให้ผู้เรียนใช้ประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพในการได้รับสารกันบูดจากการบริโภคอาหารด้วยตนเอง และสามารถปรับพฤติกรรมการบริโภคได้ตามรูปแบบที่ตนเองต้องการ จากการศึกษาวิจัย พบว่าการเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยอาหาร ควรเริ่มในระบบการศึกษาภาคบังคับ โดยใช้สื่อความรู้ที่น่าสนใจ เข้าใจง่าย กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพตั้งแต่ในวัยเด็ก โดยนำหนังสืออิเล็กทรอนิกส์รูปแบบสื่อปฏิสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้น 7 เรื่อง ได้แก่ 1) อันตรายในอาหาร 2) สารกันบูดในอาหาร 3) สีสันในอาหาร 4) ในเนื้อสัตว์แปรรูปมีอะไร 5) ในก๋วยเตี๋ยวมีอะไร 6) ในขนมอบมีอะไร และ 7) ในน้ำหวานมีอะไร และเกมอิเล็กทรอนิกส์แบบปฏิสัมพันธ์ “ตะลุย แดนอาหาร” ประกอบด้วย เกมรู้ทันสารกันบูด ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับการประเมินความเสี่ยงการได้รับสารกันบูดในอาหาร และมินิเกม ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับอาหารกลุ่มเสี่ยงที่นักเรียนนิยมบริโภคและพบการใช้สารกันบูดไปทดสอบกับนักเรียนระดับประถมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนเป้าหมาย 4 โรงเรียน และอบรมครูผู้สอนการทดสอบการอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบปฏิสัมพันธ์ของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 จำนวน 187 คน พบว่า ทำให้นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น โดยค่าเฉลี่ยคะแนนความรู้หลังอ่านหนังสือของนักเรียนทั้ง 4 โรงเรียนสูงกว่าก่อนอ่าน แต่ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ใน 1 โรงเรียน เนื่องจากเวลาที่ใช้อ่านหนังสือในคาบเรียนไม่เพียงพอ (ประมาณ 5 นาทีต่อเรื่อง) ในการประเมินความพึงพอใจต่อหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ พบว่านักเรียนส่วนใหญ่ให้คะแนนระดับมากถึงมากที่สุดในทุกหัวข้อ ทั้งด้านเนื้อหา การดำเนินเรื่อง (ร้อยละ 93.3-98.7) และรูปภาพ ภาษา เทคนิค (ร้อยละ 98.0-99.3) นักเรียนส่วนใหญ่เห็นว่า หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบปฏิสัมพันธ์มีรูปแบบที่น่าสนใจทำให้นักเรียนอยากเรียนรู้ และสามารถนำความรู้ที่มีอยู่ในหนังสือไปปรับพฤติกรรมการกินอาหารได้ ส่วนครูที่ร่วมโครงการเห็นว่าเนื้อหามีความสัมพันธ์กับวิชาสุขศึกษา สามารถใช้สอนในโรงเรียนเป็นความรู้ใหม่ มีความสอดคล้องกับการบริโภคประจำวันของนักเรียน ครู จาก 15 โรงเรียน จำนวน 27 คน ที่เข้ารับการอบรมการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบปฏิสัมพันธ์ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจระดับมากถึงมากที่สุดทั้งด้านเนื้อหา ด้านรูปภาพ ภาษา และเทคนิค และด้านการนำไปใช้ประกอบการเรียนการสอน การนำเกมอิเล็กทรอนิกส์ “ตะลุยแดนอาหาร” มาให้นักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 จำนวน 165 คน ทดสอบ พบว่าหลังเล่นเกมนักเรียนมีความรู้เรื่องสารกันบูดเพิ่มมากขึ้น โดยค่าเฉลี่ยคะแนนความรู้หลังจากเล่นเกมของนักเรียนทั้ง 4 โรงเรียนสูงกว่าก่อนเล่นเกม แต่ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ใน 2 โรงเรียน เนื่องจากขาดการสรุปบทเรียนทบทวนความรู้ที่ได้จากเกมหลังเล่นเกมทันที นักเรียนส่วนใหญ่ให้คะแนนความพึงพอใจเกมในระดับมากถึงมากที่สุดในทุกหัวข้อ ทั้งด้านเนื้อหาความรู้ (ร้อยละ 66.7-88.9) และด้านเทคนิคและการนำเสนอ (ร้อยละ 53.7-70.4) นักเรียนส่วนใหญ่ระบุว่าการเล่นเกมทำให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องความเสี่ยงต่อการได้รับสารกันบูด และสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเล่นเกมไปปรับพฤติกรรมการกินอาหารให้ปลอดภัยได้ โดยรู้ว่ากรดเบนโซอิก คือ สารกันบูดพบในก๋วยเตี๋ยว เนื้อสัตว์แปรรูป ขนมอบ และน้ำหวาน สามารถประเมินได้ว่าตนเองจะได้รับสารกันบูดมากน้อยเพียงใดใน 1 วัน ถ้ากินสารกันบูดมากๆ เป็นประจำทุกวันจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่ควรกินอาหารที่มีสารกันบูดทุกวัน ลดเป็นวันเว้นวัน หรือสัปดาห์ละครั้ง ควรเลือกกินอาหารจากร้านที่สะอาด มีตู้แช่อาหาร สังเกตฉลากบนอาหารว่ามี อย. หรือไม่ใส่สารกันบูด ครูผู้เข้าร่วมโครงการระบุว่าเกมความรู้ที่นำมาให้นักเรียนเล่นในครั้งนี้สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกซื้ออาหารของนักเรียนได้ พบว่าหลังการเล่นเกมนักเรียนมีความใส่ใจในการเลือกซื้ออาหารและอ่านฉลากมากขึ้น แสดงว่านักเรียนส่วนใหญ่ในทุกโรงเรียนสามารถเข้าใจถึงความเสี่ยงต่อการได้รับสารกันบูดและนำความรู้ในเกมไปปรับพฤติกรรมการซื้อและบริโภคอาหาร ครูจาก 16 โรงเรียน จำนวน 29 คน ที่เข้ารับการอบรมการใช้เกมอิเล็กทรอนิกส์แบบปฏิสัมพันธ์ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจระดับมากถึงมากที่สุดทั้งด้านเนื้อหา ด้านรูปภาพ ภาษา และเทคนิค และด้านการนำไปใช้ประกอบการเรียนการสอน ครูส่วนใหญ่ระบุว่าสามารถนำไปใช้เป็นสื่อเสริมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ปลอดภัยจากการได้รับสารกันบูดสำหรับนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 3 ขึ้นไป ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการในการพัฒนาเกมเพื่อให้ผู้เรียนใช้ประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพในการได้รับสารกันบูดและปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหาร อย่างไรก็ตามเกมนี้มีวัตถุประสงค์ในการให้ความรู้จึงยังจำเป็นต้องมีการสรุปบทเรียนจากครูหลังเล่นเกม ประโยชน์ที่จะได้รับจากผลงานวิจัยนี้คือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบปฏิสัมพันธ์ เรื่องความปลอดภัยอาหาร จำนวน 7 เรื่อง ได้แก่ อันตรายในอาหาร  มารู้จักอันตรายในสารกันบูดกันเถอะ  สีสันในอาหาร  ในเนื้อสัตว์แปรรูปมีอะไร  ในก๋วยเตี๋ยวมีอะไร  ในขนมอบมีอะไร  และในน้ำหวานมีอะไร  และเกมอิเล็กทรอนิกส์แบบปฏิสัมพันธ์ เรื่อง การประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพในการได้รับสารกันบูด (กรดเบนโซอิก) จากการบริโภคอาหารสามารถนำไปใช้เป็นสื่อเสริมสร้างการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ปลอดภัยจากการได้รับสารกันบูด
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ: สื่ออิเล็กทรอนิกส์ การเรียนรู้ ความปลอดภัยอาหาร
คำสำคัญ (EN): food safety
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนาสื่ออิเล็กทรอนิกส์รูปแบบสื่อปฏิสัมพันธ์ ในการเรียนรู้ด้านความ ปลอดภัยอาหารสำหรับนักเรียน
มหาวิทยาลัยมหิดล
19 กันยายน 2560
อาหารบำรุงสมอง โครงการศึกษาการออกแบบสื่อ กระบวนการเรียนรู้และผลสัมฤทธิ์ของการเรียนรู้ผ่านสื่อการเรียนรู้เสมือนจริง (Virtual learning) ด้านการบริหารโครงการ ฉลากอาหารสมัยใหม่ อนาคตของอาหารโลกอยู่ในมือของคุณ อาหารสำหรับสายตา การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการศึกษาและสื่อการเรียนรู้ การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดการศึกษาอิงสถานที่ร่วมกับกระบวนการ QSCCS สำหรับหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนในระดับมัธยมศึกษา การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการศึกษาและสื่อการเรียนรู้ การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดการศึกษาอิงสถานที่สำหรับหลักสูตรสถานศึกษา ของนักเรียนในระดับมัธยมศึกษา รูปแบบการเรียนรู้ทางไกลด้วยกระบวนการกลุ่มด้านอาหารและเกษตรอินทรีย์สู่สุขภาวะของผู้สูงวัยในจังหวัดนนทบุรีและชลบุรี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก