สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนารูปแบบที่เหมาะสมในการขนส่งและเก็บรักษานมชนิดพาสเจอร์ไรส์ เพื่อความปลอดภัยในการบริโภคนมโรงเรียน
Junjira Siroratanawat - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การพัฒนารูปแบบที่เหมาะสมในการขนส่งและเก็บรักษานมชนิดพาสเจอร์ไรส์ เพื่อความปลอดภัยในการบริโภคนมโรงเรียน
ชื่อเรื่อง (EN): Development of suitable transportation and storage models for pasteurized school milk
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Junjira Siroratanawat
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อหารูปแบบที่เหมาะสมในการขนส่งและเก็บรักษานมโรงเรียน ชนิด พาสเจอร์ไรส์ เพื่อควบคุมคุณภาพนมโรงเรียนให้เป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยติดตาม กระบวนการขนส่งและเก็บรักษานมโรงเรียนชนิดพาสเจอร์ไรส์ จากการวัดอุณหภูมิระหว่างขนส่ง พบว่าส่วนใหญ่นม ที่ไปถึงโรงเรียนมีอุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียสตามที่กฎหมายกำหนด แต่ไม่สามารถกล่าวได้ว่าสามารถควบคุม อุณหภูมิของนมทั้งหมดที่ทำการขนส่งได้ เนื่องจากในการวัดอุณหภูมินมที่ส่งตามโรงเรียนต่างๆ เป็นการวัดนมที่อยู่ ชั้นบนของถังบรรจุซึ่งสัมผัสน้ำแข็งโดยตรง และมีความเป็นไปได้ที่นมชั้นล่างซึ่งห่างน้ำแข็งอาจมีอุณหภูมิสูงกว่า 8 องศาเซลเซียส เนื่องจากใช้น้ำแข็งในปริมาณที่ไม่เพียงพอแต่ไม่สามารถทำการตรวจวัดอุณหภูมิขณะขนส่งได้ นอกจากนี้ยังพบการเจริญของ E.coli และ coliforms ในตัวอย่างนมที่สุ่มจากโรงเรียนสุดท้ายของการขนส่ง เกิน มาตรฐาน ร้อยละ 7 และ 14 ตามลำดับ ขณะที่ตัวอย่างนม ณ หน้าโรงงานไม่พบ E.coli และ Coliforms เกินมาตรฐาน เนื่องจากจุลินทรีย์เหล่านี้อาจอยู่ในสภาวะที่บาดเจ็บภายหลังการผลิต และเมื่อมีอุณหภูมิที่เหมาะสมก็ฟื้นคืนสภาพและ สามารถเจริญเพิ่มจำนวนต่อไป เมื่อเก็บรักษานมที่โรงเรียนจนถึงเวลาบริโภค พบว่าส่วนใหญ่นมมีอุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส และยังพบเชื้อ E.coli และ Coliforms ในตัวอย่างนม ณ เวลาที่เด็กบริโภคเกินมาตรฐาน ร้อยละ 13 และ 26 ตามลำดับ การปนเปื้อนของเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นในระหว่างการเก็บรักษานมที่โรงเรียนแสดงถึงการเก็บรักษานม โรงเรียนที่ไม่เหมาะสม การศึกษานี้พบว่ารูปแบบที่เหมาะสมในการขนส่งนมในถังแช่พลาสติกขนาด 800 ลิตร ควรใช้น้ำแข็งอย่างน้อย 2 กระสอบ (30กก./กระสอบ) ในการขนส่งนมไม่เกิน 2500 ถุง โดยเรียงน้ำแข็งในถังบรรจุนมอย่างน้อย 3 ชั้น ชั้นล่าง 1/2 กระสอบ ชั้นกลาง 1/2 กระสอบ และชั้นบน 1 กระสอบ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งการขนส่งภายใน 1 วัน (10 ชั่วโมง) และขนส่งค้างคืน 1 คืน (28 ชั่วโมง) สำหรับการเก็บรักษานมที่โรงเรียนในถังแช่พลาสติกขนาด 130 ลิตร ควรใช้ น้ำแข็งอย่างน้อย 1/2 กระสอบ (15 กก.) ในการเก็บรักษานมไม่เกิน 250 ถุง โดยเรียงน้ำแข็งอย่างน้อย 2 ชั้น ชั้นล่าง 1/4 กระสอบ และชั้นบน 1/4 กระสอบ ซึ่งสามารถเก็บรักษานมได้ภายใน 1 วัน (9 ชั่วโมง) การถ่ายนมออกจากถังเพื่อรอ บริโภคควรใช้กระติกน้ำแข็งที่มีฝาปิดขนาด 80 ลิตร โดยเรียงน้ำแข็ง 2 ชั้น ชั้นละ 2 กก. เป็นอย่างน้อย ในการเก็บนม ไม่เกิน 40 ถุง ที่สำคัญไม่ควรเก็บรักษานมในถังหูหิ้วที่ไม่มีฝาปิด เนื่องจากไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิให้ต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส ได้นานเกิน 3 ชั่วโมง แม้ใส่น้ำแข็งปริมาณมากถึง 1/5 กระสอบ (6 กก.) อย่างไรก็ตามในการเก็บนม พาสเจอร์ไรส์นั้น อายุการเก็บรักษานมอาจสั้นกว่าวันหมดอายุของนมที่ระบุไว้ ซึ่งนอกจากจะขึ้นกับอุณหภูมิของการ เก็บรักษานมแล้วยังขึ้นกับปัจจัยอื่นๆ เช่น ชนิดและปริมาณของเชื้อจุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนภายหลังการฆ่าเชื้อหรือที่ หลงเหลืออยู่หลังการผลิต
บทคัดย่อ (EN): This study aimed to develop suitable models of transportation and storage for pasteurized school milk in order to control the quality of the milk and achieve the standard requirement of the Ministry of Public Health. The methods of this study aim to follow up the transportation and storage process of pasteurized school milk by measuring the temperature of the milk during the transportation process. It was found that the temperatures of most samples were lower than 8oC which was legal required. It was impossible to control the temperature of all of the milk during transportation because temperature measuring was made on the top layer of the containers that touched the ice directly when the milk arrived at the schools. Therefore, the temperature of the milk arranged below that did not touch the ice might be higher than 8 oC. This was due to the fact that inadequate ice was provided and the temperature could not be measured during the delivery. In addition, E.coli and coliforms were found growing exceeding the standard at 7% and 14% respectively in the sample of the last school on the transportation route. However, the growth of E.coli and coliforms in the sample in front of factory did not exceed the standard requirement because these microorganisms might be injured during the production process. And, they would recover and grow in the suitable temperature. The temperature of the milk was found lower than 8 0C at the consuming time after the milk was kept at school awaiting for the children to consume. In addition, E.coli and coliforms were found in the samples at the consuming time which exceeded the standard requirement at 12% and 26% respectively. The contamination was increasing when the milk was kept at school and showed inappropriate methods of storage. It was found in this study that suitable method of keeping the milk in the plastic icebox when transporting was to use 800 L plastic icebox and at least 2 sacks (30 kg/sacks) of ice for transportation of 2500 bags of milk. It was recommended to arrange the ice in 3 layers: 1/2 sacks for bottom layer, 1/2 sacks for middle layer, 1 sack for top layer. This could be used for transportation within 1 day (10 hours) and 1 overnight (28 hours). When keeping the maximum of 250 bags of milk in a 130 L plastic icebox at school within 1 day (9 hours), the minimum of ice to be used was 1/2 sacks (15 kg) arranging in 2 layers: 1/4 sacks for bottom layer and 1/4 sacks for top layer. When transferring the milk from icebox to the other container to wait for the children to consume, an 80 L icebox with cover should be used and the ice should be arranged in 2 layers using at least 2 kg for each layer to keep the maximum of 40 bags of milk. It is noted that the milk should not be kept in a bucket without cover because it is impossible to control the temperature to be lower than 8 0C for 3 hours even though a large amount of ice: 1/5 sacks (6 kg) was used. However, the expiry date of the pasteurized milk might be shortened due to the temperature control and the other factors, for example, the type and the amount of microorganisms contaminated during the production process after pasteurization.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=3043&obj_id=5325
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): School milk programs
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อหารูปแบบที่เหมาะสมในการขนส่งและเก็บรักษานมโรงเรียน ชนิด พาสเจอร์ไรส์ เพื่อควบคุมคุณภาพนมโรงเรียนให้เป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยติดตาม กระบวนการขนส่งและเก็บรักษานมโรงเรียนชนิดพาสเจอร์ไรส์ จากการวัดอุณหภูมิระหว่างขนส่ง พบว่าส่วนใหญ่นม ที่ไปถึงโรงเรียนมีอุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียสตามที่กฎหมายกำหนด แต่ไม่สามารถกล่าวได้ว่าสามารถควบคุม อุณหภูมิของนมทั้งหมดที่ทำการขนส่งได้ เนื่องจากในการวัดอุณหภูมินมที่ส่งตามโรงเรียนต่างๆ เป็นการวัดนมที่อยู่ ชั้นบนของถังบรรจุซึ่งสัมผัสน้ำแข็งโดยตรง และมีความเป็นไปได้ที่นมชั้นล่างซึ่งห่างน้ำแข็งอาจมีอุณหภูมิสูงกว่า 8 องศาเซลเซียส เนื่องจากใช้น้ำแข็งในปริมาณที่ไม่เพียงพอแต่ไม่สามารถทำการตรวจวัดอุณหภูมิขณะขนส่งได้ นอกจากนี้ยังพบการเจริญของ E.coli และ coliforms ในตัวอย่างนมที่สุ่มจากโรงเรียนสุดท้ายของการขนส่ง เกิน มาตรฐาน ร้อยละ 7 และ 14 ตามลำดับ ขณะที่ตัวอย่างนม ณ หน้าโรงงานไม่พบ E.coli และ Coliforms เกินมาตรฐาน เนื่องจากจุลินทรีย์เหล่านี้อาจอยู่ในสภาวะที่บาดเจ็บภายหลังการผลิต และเมื่อมีอุณหภูมิที่เหมาะสมก็ฟื้นคืนสภาพและ สามารถเจริญเพิ่มจำนวนต่อไป เมื่อเก็บรักษานมที่โรงเรียนจนถึงเวลาบริโภค พบว่าส่วนใหญ่นมมีอุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส และยังพบเชื้อ E.coli และ Coliforms ในตัวอย่างนม ณ เวลาที่เด็กบริโภคเกินมาตรฐาน ร้อยละ 13 และ 26 ตามลำดับ การปนเปื้อนของเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นในระหว่างการเก็บรักษานมที่โรงเรียนแสดงถึงการเก็บรักษานม โรงเรียนที่ไม่เหมาะสม การศึกษานี้พบว่ารูปแบบที่เหมาะสมในการขนส่งนมในถังแช่พลาสติกขนาด 800 ลิตร ควรใช้น้ำแข็งอย่างน้อย 2 กระสอบ (30กก./กระสอบ) ในการขนส่งนมไม่เกิน 2500 ถุง โดยเรียงน้ำแข็งในถังบรรจุนมอย่างน้อย 3 ชั้น ชั้นล่าง 1/2 กระสอบ ชั้นกลาง 1/2 กระสอบ และชั้นบน 1 กระสอบ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งการขนส่งภายใน 1 วัน (10 ชั่วโมง) และขนส่งค้างคืน 1 คืน (28 ชั่วโมง) สำหรับการเก็บรักษานมที่โรงเรียนในถังแช่พลาสติกขนาด 130 ลิตร ควรใช้ น้ำแข็งอย่างน้อย 1/2 กระสอบ (15 กก.) ในการเก็บรักษานมไม่เกิน 250 ถุง โดยเรียงน้ำแข็งอย่างน้อย 2 ชั้น ชั้นล่าง 1/4 กระสอบ และชั้นบน 1/4 กระสอบ ซึ่งสามารถเก็บรักษานมได้ภายใน 1 วัน (9 ชั่วโมง) การถ่ายนมออกจากถังเพื่อรอ บริโภคควรใช้กระติกน้ำแข็งที่มีฝาปิดขนาด 80 ลิตร โดยเรียงน้ำแข็ง 2 ชั้น ชั้นละ 2 กก. เป็นอย่างน้อย ในการเก็บนม ไม่เกิน 40 ถุง ที่สำคัญไม่ควรเก็บรักษานมในถังหูหิ้วที่ไม่มีฝาปิด เนื่องจากไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิให้ต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส ได้นานเกิน 3 ชั่วโมง แม้ใส่น้ำแข็งปริมาณมากถึง 1/5 กระสอบ (6 กก.) อย่างไรก็ตามในการเก็บนม พาสเจอร์ไรส์นั้น อายุการเก็บรักษานมอาจสั้นกว่าวันหมดอายุของนมที่ระบุไว้ ซึ่งนอกจากจะขึ้นกับอุณหภูมิของการ เก็บรักษานมแล้วยังขึ้นกับปัจจัยอื่นๆ เช่น ชนิดและปริมาณของเชื้อจุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนภายหลังการฆ่าเชื้อหรือที่ หลงเหลืออยู่หลังการผลิต
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนารูปแบบที่เหมาะสมในการขนส่งและเก็บรักษานมชนิดพาสเจอร์ไรส์ เพื่อความปลอดภัยในการบริโภคนมโรงเรียน
Junjira Siroratanawat
มหาวิทยาลัยมหิดล
2549
ประสิทธิภาพของกระบวนการพาสเจอร์ไรส์และอายุการเก็บที่มีผลต่อคุณภาพทางแบคทีเรียของนม พฤติกรรมการบริโภคนมและความเต็มใจจ่ายสำหรับนมอินทรีย์ของผู้บริโภคในจังหวัดเชียงใหม่ การศึกษาวิธีการตรวจสอบการเติมนมผงในนมและผลิตภัณฑ์นมแปรรูป การวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของราคากระเทียมและระยะเวลาเก็บรักษาที่เหมาะสม การใช้ประโยชน์นมรีโพรเซสจากกระบวนการผลิตนมยูเอชทีของโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา จำนวนเต้านมและความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนเต้านมและ สมรรถภาพการสืบพันธุ์ในสุกรเพศเมีย ผลของบรรจุภัณฑ์ต่อคุณภาพของผลเงาะพันธุ์โรงเรียนในระหว่างการเก็บรักษาและการวางจำหน่าย การสูญเสียวิตามินเอที่เสริมในน้ำมันพืชระหว่างกระบวนการขนส่ง การกระจายสินค้า การประกอบอาหารและการเก็บรักษาในภาชนะบรรจุต่าง ชนิดกั การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและเคมีของสมุนไพรเขตหนาวบางชนิดระหว่างการเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำ การถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตนมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียมสู่ระดับโรงเรียน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก