สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาเบื้องต้นของการขยายพันธุ์สำรอง
มาโนชญ์ กูลพฤกษี - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
ชื่อเรื่อง: การศึกษาเบื้องต้นของการขยายพันธุ์สำรอง
ชื่อเรื่อง (EN): Preliminary Study on Propagation of Scaphium macropodum Beaum
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: มาโนชญ์ กูลพฤกษี
บทคัดย่อ: การศึกษาการขยายพันธุ์สำรองโดยใช้วิธีต่างๆ แบบไม่ใช้เพศ พบว่า อ้อยช้าง (Prervcymbiun javunicun R. Br.) ไม่สามารถใช้เป็นต้นตอให้กับลำรองได้ แต่สำรอง Scuphium ufine (Mast.) Pierre) และสำรองกะโหลก (Scaphium scaphigerun (Wall, ex G.Don) Guiburt & G. Planch.) สามารถใช้เป็นต้นตอในการต่อกิ่ง ติดตา หรือใช้เป็นต้นกล้าเสริมรากให้กับสำรองได้ดี ซึ่ง ต้นตอหรือต้นกล้าทั้งสองชนิดดังกล่าวให้ผลไม่แตกต่างกันทางสถิติเกือบทุกกรณี ยกเว้นการปลูกใน พื้นที่ชื้นแฉะซึ่งพบว่าเฉพาะการใช้ต้นตอสำรองกะโหลกเท่านั้นที่ทำให้ต้นพันธุ์สำรองสามารถเดิบโต ได้ ต้นตอทั้งสองชนิดให้เปอร์เซ็นต์ต้นที่แตกตาจากต้นที่ทดลอง (ในโรงเรือนเพาะขำได้ประมาณ 71- 72 เปอร์เซ็นต์ ในการต่อกิ่ง (แบบ clef) และประมาณ 23 เปอร์เซ็นด์ ในการติดตา (ทั้งแบบ chip และ แบบ platco โดยไม่พบ interaction ระหว่างต้นตอและวิชีติดตาที่ใช้ ต้นพันธุ์สำรองจากการต่อกึ่งบนต้น ตอสำรองกะโหลกที่ปลูกในแปลงปลูกเป็นเวลาหนึ่งปี มีแนวโน้มในการเติบโตดีกว่าการใช้ต้นตอ สำรองเล็กน้อย (ไม่แตกต่างกันทางสถิติ การต่อกิ่งแบu side-vencer และการติดตาแบบ chip Iบบ platc และแบบ T บนต้นตอทั้งสองชนิดในแปลงปลูก ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติทั้งเปอร์เซ็นต์การติด เปอร์เซ็นต์ต้นที่แตกตาจากต้นที่ติด เปอร์เซ็นต์ต้นที่แตกตาจากต้นที่ทดลอง และเส้นผ่าศูนย์กลางของ ยอดที่แตกใหม่ แต่มีแนวโน้มว่าการต่อกิ่งแบU side-vencer มีค่าเฉลี่ยของข้อมูลคังกล่าวดีกว่าการติดตาทั้ง 3 แบบเล็กน้อย โดยวิธีการทั้งสี่แบบให้เปอร์เซ็นด์ต้นที่แตกตาจากต้นที่ทดลองประมาณ 85 -95 เปอร์เซ็นต์ แต่การต่อกิ่งแบบ side-vencer มีจำนวนวันที่ใช้ในการแตกตาน้อยกว่า (แตกตาเร็วกว่า) และมี ความยาวของยอดที่แตกใหม่ยาวกว่าเมื่อเทียบกับการติดตาทั้งสามแบบ โดยไม่พบ interaction ระหว่าง ชนิดของต้นตอกับวิธีการทั้งสี่แบบที่ใช้ ต้นพันธุ์สำรองที่ใช้ต้นตอสำรองตายทั้งหมดในสภาพแปลง ปลูกที่ชื้นแฉะ ขณะที่ดันพันธุ์สำรองที่ใช้ต้นตอสำรองกะโหลกสามารถเติบโตได้โดยมีเปอร์เซ็นต์การ รอดตายในสภาพเดียวกันนี้ ได้ถึง 82.14 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้นพันธุ์สำรองที่ใช้ต้นตอทั้งสองชนิดนี้ก็ สามารถติบโตในสภาพแปลงปลูกที่ดอนที่ไม่มีการให้น้ำด้ไม่แตกต่างกันทางสถิติ โดยมีแนวโน้มว่า ต้นพันธุ์สำรองที่ใช้ต้นตอสำรองกะโหลกมีเปอร์เซ็นต์การรอดตายและมีการเติบโตดีกว่าเล็กน้อย การ ใช้ IBA และ NAA ไม่มีผลกระตุ้นการเกิดรากในการตอนกึ่งและปักชำกิ่งสำรอง โดยการตอนกิ่งให้ เปอร์เซ็นต์กึ่งที่เกิดรากเพียง 29.17 - 37.50 เปอร์เซ็นต์ และพบรากประมาณสัปดาห์ที่ 19 หลังจากการ ตอนกิ่ง ส่วนการปักชำกิ่งพบเพียงการเกิดแคลลัส (ไม่มีเปอร์เซ็นต์กึ่งที่เกิดราก) การเสริมรากดันพันธุ์ สำรอง (ที่ใช้ต้นตอสำรองหรือสำรองกะ โหลก) ด้วยต้นกล้ำาสำรองและสำรองกะโหลกทำให้ต้นพันธุ์ สำรองมีการเติบโตได้ดีกว่าการ ไม่เสริมราก โดยไม่พบ interaction ระหว่างต้นตอของต้นพันธุ์กับ ด้นกล้าที่ใช้เสริมราก
บทคัดย่อ (EN): The different asexual propagation methods were studied on Scaphium affine. It was indicated that Pterocymbiun javanicum seedling could not be used as rootstock of S. affine but both seedling of S. affine and S. scaphigerum were the best for being rootstock and root- supporting of S. affine. Both seedlings were not significantly different in most cases, except for the case of planting them in the soaking plot that showed only S. afine with S. scaphigerum rootstock could grow well. The S. affine with either S. affine or S. scaphigerum rootstock gave 71-72 % and 23% bud burst of total treated by clett grafting and budding (chip or plate budding) respectively (in latchouse condition). There was no interaction between two rootstocks and two budding types. One year S. affine with S. scaphigerum rootstock tended to grow better than S. affine with S. affine rootstock, but they were not significantly different. The side-veneer grafting and 3 budding types (chip, plate and T- budding) on S. affine or S. scaphigerum rootstock were not significant in % scion survival, % bud burst of scion survival, % bud burst of total treated and new shoot axis diameter, but the side-veneer grafling tended to give better results . In average the side-vencer grafting gave shorter bud burst time and longer new shoot axis compared with three budding types. These four methods resulted 85-95 % bud burst of total treated. There were no interaction between two rootstocks and four methods. In the soaking plot, all of S. affine with S. affine rootstocks were dead while the S. afine with S. scaphigerum rootstock could grow at 82.14% survival, but in up lands plots, without watering, both S. affine with S. affine and S. scaphigerum rootstock did not significantly differ on both survival percentage and growth , but the S. affine with S. scaphigerum rootstock tended to give better results . Using of IBA and NAA on both air-layering and stem cutting of S. affine were no effects on rooting. Air-layering resulted 25.00-37.50% rooting, and root emerged in 19 wecks after treating. While stem cuttings gave only callus (no root). S. affine and S. scaphigerum were used as root-supporting of S. afine, with S. affine or S. scaphigerum rootstock and it was revealed that root supporting affected on better growth but no interaction between rootstock and root supporting.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
คำสำคัญ: สำรองกะโหลก
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาเบื้องต้นของการขยายพันธุ์สำรอง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
30 กันยายน 2553
การขยายพันธุ์ต้น Tea Tree โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชัยนาท 1 จากแปลงสำรองพันธุ์ของศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 4 จังหวัดชัยนาท ในปี 2538 การขยายพันธุ์และการเติบโตของไม้พะยูง การขยายพันธุ์ไม้ป่าหายากและใกล้สูญพันธุ์บางชนิด โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อการอนุรักษ์พันธุกรรมและการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน การศึกษาการขยายพันธุ์โดยวิธีที่เหมาะสมของ Chinese tallow tree (Sapium sebiferum (L.) Roxb.) การแสดงออกของพันธุ์และสายพันธุ์ถั่วฝักยาวในการปลูกแบบอินทรีย์และแบบใช้สารเคมี การอนุรักษ์และการขยายพันธุ์มันพื้นบ้านเพื่อเป็นแหล่งผลิตอาหารทดแทน การเพิ่มประสิทธิภาพการขยายพันธุ์หน้าวัวด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช การศึกษาความงอกของเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองที่ผลิตจากแปลงขยายพันธุ์ของศูนย์ขยายพันธุ์พืชระหว่างปี พ.ศ. 2536-2538 ความคิดเห็นของสมาชิกแปลงขยายพันธุ์ข้าวสันป่าตอง 1 ฤดูแล้ง ปี 2548 ต่อการจัดทำแปลงขยายพันธุ์ของศูนย์ขยายเมล็ดพันธุ์พืชที่ 11 จังหวัดร้อยเอ็ด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก