สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างดินและสังคมพืชในเวลา 3 ปี บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี (ปีที่ 3)
จิราณี วานิชกุล. - มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
ชื่อเรื่อง: การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างดินและสังคมพืชในเวลา 3 ปี บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี (ปีที่ 3)
ชื่อเรื่อง (EN): A Study on 3 - year relationship between soils and plant communities in Maenam Phachi wildlife sanctuary (Third year
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จิราณี วานิชกุล.
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาดินและสังคมพืช รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างดินและสังคมพืชในเวลา 3 ปี บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี ในการสำรวจพบป่า 2 ชนิดคือ ป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณ ทำการศึกษาโดยวางแปลงตัวอย่างขนาด 1,000 เมตรด้าน ทิศตะวันออกและทิศตะวันตกด้านละ 1 แปลง ในป่าดิบแล้งวางแปลงตัวอย่าง 7 แปลง ที่ระดับ 400, 600, 800 และ 1,000 เมตร (ยอดเขา) ป่าเบญจพรรณวางแปลงตัวอย่าง 2 แปลง ที่ระดับความสูง 600 เมตร สำรวจชนิดและจำนวนพืช ทำการวิเคราะห์ข้อมูลพืชเชิงปริมาณ เก็บตัวอย่างดินเพื่อนำไปวิเคราะห์สมบัติทางกายภาพและเคมีนำข้อมูลมาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างดินและพืชระหว่างปี 2546 - 2549 ในปี 2547-2548 แปลงตัวอย่างทุกแปลงถูกไฟป่าไหม้ในระดับต่างๆ กัน ผลการศึกษาพบว่า ดินอาจแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม มีสมบัติคล้ายดินชุดท่ายาง และดินชุดจันทึก สมบัติส่วนใหญ่ของดินตลอดเวลา 3 ปีเปลี่ยนแปลงน้อย กล่าวคือ ดินส่วนใหญ่มีเนื้อดินร่วน ความหนาแน่นรวมในดินบนต่ำและเพิ่มขึ้นในดินล่าง ปริมาณความชื้นปกติต่ำและเพิ่มตามปริมาณฝน ปฏิกิริยาดินเป็นกรดถึงกรดอ่อน ปริมาณอินทรีย์วัตถุปานกลางถึงสูง ปริมาณฟอสฟอรัสต่ำ ปริมาณโพแทสเซียมปานกลางถึงสูง ปริมาณแคลเซียม และแมกนีเซียมต่ำถึงสูง ความจุในการแลกเปลี่ยนแคตไอออนต่ำ ความอิ่มตัวด้วยด่างต่ำถึงปานกลาง และความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง แต่หลังไฟไหม้ในปีที่ 2 ปริมาณแคลเซียม และแมกนีเซียมเพิ่มขึ้นสูงมากและลงต่ำลงในปีที่ 3 ปริมาณอินทรีย์วัตถุเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปีที่ 2 และ 3 ในการสำรวจ 3 ปี พบว่า ในป่าดิบแล้งชนิดไม้ใหญ่เพิ่มขึ้นทุกปีจาก 134 เป็น 135 และ 156 ชนิด ไม้สำคัญ คือ ข่อยหนาม (Streblus ilicifolius Corner.) และพลองกินลูก (Memecylon ovatum. J. E. Smith. ) จำนวนต้นลดลงเล็กน้อยหลังไฟไหม้ คือ 784, 747 และ 765 ต้น ชนิดและจำนวนพืชทางทิศตะวันตกมากกว่าทิศตะวันออก ชนิดพืชเพิ่มขึ้นตามความสูงจนถึงระดับ 800 เมตรและลดลงที่ระดับ 1,000 เมตร แต่จำนวนพืชลดลงตามความสูง ป่าเบญจพรรณพบ ไม้ใหญ่เพียง 17-20 ชนิด จำนวนพืชลดลงในปีที่ 2 และกลับเพิ่มในปีที่ 3 เช่นเดียวกับในป่าดิบแล้ง คือ 293 , 250และ 289 ต้น ตามลำดับ ไม้สำคัญคือ ไผ่รวก(Thrysostachys siamensis Gamble.) ตะแบกนา (Lagerstroemia floribunda Jack.) และ ไผ่นวล (Dendrocalamus strictus Nees.) ชนิดพืชในแปลงด้านทิศตะวันออกมากกว่าทิศตะวันตก จำนวนพืชในแปลงด้านทิศตะวันตกมากกว่าทิศตะวันออก เมื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของดินกับชนิดพืชและจำนวนพืชโดยวิธี stepwise multiple regression พบว่า ชนิดพืชในป่าดิบแล้งสัมพันธ์กับความหนาแน่นรวม และความอิ่มตัวด้วยเบสในปีที่ 1 และสัมพันธ์กับความชื้นในดินและปริมาณโพแทสเซียม ในปีที่ 1 และ 3 แต่ไม่พบความสัมพันธ์ในปีที่ 2 จำนวนพืชมีความสัมพันธ์กับปริมาณแมกนีเซียมทุกปี และกับฟอสฟอรัสในปีที่ 3
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=10&RecId=267&obj_id=1195
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
คำสำคัญ: วิจัย
คำสำคัญ (EN): 577.5
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
รายละเอียด: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาดินและสังคมพืช รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างดินและสังคมพืชในเวลา 3 ปี บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี ในการสำรวจพบป่า 2 ชนิดคือ ป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณ ทำการศึกษาโดยวางแปลงตัวอย่างขนาด 1,000 เมตรด้าน ทิศตะวันออกและทิศตะวันตกด้านละ 1 แปลง ในป่าดิบแล้งวางแปลงตัวอย่าง 7 แปลง ที่ระดับ 400, 600, 800 และ 1,000 เมตร (ยอดเขา) ป่าเบญจพรรณวางแปลงตัวอย่าง 2 แปลง ที่ระดับความสูง 600 เมตร สำรวจชนิดและจำนวนพืช ทำการวิเคราะห์ข้อมูลพืชเชิงปริมาณ เก็บตัวอย่างดินเพื่อนำไปวิเคราะห์สมบัติทางกายภาพและเคมีนำข้อมูลมาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างดินและพืชระหว่างปี 2546 - 2549 ในปี 2547-2548 แปลงตัวอย่างทุกแปลงถูกไฟป่าไหม้ในระดับต่างๆ กัน ผลการศึกษาพบว่า ดินอาจแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม มีสมบัติคล้ายดินชุดท่ายาง และดินชุดจันทึก สมบัติส่วนใหญ่ของดินตลอดเวลา 3 ปีเปลี่ยนแปลงน้อย กล่าวคือ ดินส่วนใหญ่มีเนื้อดินร่วน ความหนาแน่นรวมในดินบนต่ำและเพิ่มขึ้นในดินล่าง ปริมาณความชื้นปกติต่ำและเพิ่มตามปริมาณฝน ปฏิกิริยาดินเป็นกรดถึงกรดอ่อน ปริมาณอินทรีย์วัตถุปานกลางถึงสูง ปริมาณฟอสฟอรัสต่ำ ปริมาณโพแทสเซียมปานกลางถึงสูง ปริมาณแคลเซียม และแมกนีเซียมต่ำถึงสูง ความจุในการแลกเปลี่ยนแคตไอออนต่ำ ความอิ่มตัวด้วยด่างต่ำถึงปานกลาง และความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง แต่หลังไฟไหม้ในปีที่ 2 ปริมาณแคลเซียม และแมกนีเซียมเพิ่มขึ้นสูงมากและลงต่ำลงในปีที่ 3 ปริมาณอินทรีย์วัตถุเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปีที่ 2 และ 3 ในการสำรวจ 3 ปี พบว่า ในป่าดิบแล้งชนิดไม้ใหญ่เพิ่มขึ้นทุกปีจาก 134 เป็น 135 และ 156 ชนิด ไม้สำคัญ คือ ข่อยหนาม (Streblus ilicifolius Corner.) และพลองกินลูก (Memecylon ovatum. J. E. Smith. ) จำนวนต้นลดลงเล็กน้อยหลังไฟไหม้ คือ 784, 747 และ 765 ต้น ชนิดและจำนวนพืชทางทิศตะวันตกมากกว่าทิศตะวันออก ชนิดพืชเพิ่มขึ้นตามความสูงจนถึงระดับ 800 เมตรและลดลงที่ระดับ 1,000 เมตร แต่จำนวนพืชลดลงตามความสูง ป่าเบญจพรรณพบ ไม้ใหญ่เพียง 17-20 ชนิด จำนวนพืชลดลงในปีที่ 2 และกลับเพิ่มในปีที่ 3 เช่นเดียวกับในป่าดิบแล้ง คือ 293 , 250และ 289 ต้น ตามลำดับ ไม้สำคัญคือ ไผ่รวก(Thrysostachys siamensis Gamble.) ตะแบกนา (Lagerstroemia floribunda Jack.) และ ไผ่นวล (Dendrocalamus strictus Nees.) ชนิดพืชในแปลงด้านทิศตะวันออกมากกว่าทิศตะวันตก จำนวนพืชในแปลงด้านทิศตะวันตกมากกว่าทิศตะวันออก เมื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของดินกับชนิดพืชและจำนวนพืชโดยวิธี stepwise multiple regression พบว่า ชนิดพืชในป่าดิบแล้งสัมพันธ์กับความหนาแน่นรวม และความอิ่มตัวด้วยเบสในปีที่ 1 และสัมพันธ์กับความชื้นในดินและปริมาณโพแทสเซียม ในปีที่ 1 และ 3 แต่ไม่พบความสัมพันธ์ในปีที่ 2 จำนวนพืชมีความสัมพันธ์กับปริมาณแมกนีเซียมทุกปี และกับฟอสฟอรัสในปีที่ 3
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างดินและสังคมพืชในเวลา 3 ปี บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี (ปีที่ 3)
มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
2550
ศึกษาการเพิ่มอินทรีย์วัตถุในดินชุดโคราช การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างดินและสังคมพืชในเวลา 3 ปี บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี ปีที่ 1 การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างดินและสังคมพืชในเวลา 3 ปี บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี (ปีที่ 2) การศึกษาสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ทำการเกษตรบริเวณลุ่มแม่น้ำภาชี ผลการคลุกฟางข้าวติดต่อกันที่มีต่อดินและผลผลิตข้าว รายงานการวิจัย เรื่องความหลากหลายของผีเสื้อกลางวันบริเวณเส้นทางเดินขึ้นน้ำตกเขาตะกรุบเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จังหวัดฉะเชิงเทรา คุณภาพน้ำชายฝั่งจังหวัดชลบุรี (ศรีราชา-เมืองใหม่) กับปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬในปี 2535-2536 การสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพของสังคมพืช บริเวณสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช จังหวัดนครราชสีมา : รายงานผลการวิจัย การเปลี่ยนแปลงและความสัมพันธ์ของคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำบาดาล น้ำบ่อตื้นและน้ำประปา เพื่อการอุปโภคบริโภคในเขตพื้นที่รับน้ำจังหวัดยะลา รายงานผลการวิจัยเรื่องการควบคุมทางชีวภาพของแบคทีเรียบริเวณรากพืชในการยับยั้งโรคขอบใบแห้งในข้าวสายพันธุ์เศรษฐกิจของไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก