สืบค้นงานวิจัย
การคัดเลือกลักษณะต้านทานโรคเต้านมอักเสบโดยการคัดเลือกลักษณะเต้านม ในโคนมลูกผสมไทยโฮลสไตน์
สายัณห์ บัวบาน - กรมปศุสัตว์
ชื่อเรื่อง: การคัดเลือกลักษณะต้านทานโรคเต้านมอักเสบโดยการคัดเลือกลักษณะเต้านม ในโคนมลูกผสมไทยโฮลสไตน์
ชื่อเรื่อง (EN): Selection for mastitis resistance in Thai Holstein dairy crossbred using udder traits
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สายัณห์ บัวบาน
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Sayan Buaban
บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์ของการศึกษาเพื่อประเมินความสัมพันธ์ทางพันธุกรรม และลักษณะปรากฎระหว่างค่าเฉลี่ยคะแนนเซลล์โซมาติก (SCS) และลักษณะเต้านมในโคนมลูกผสมไทยโฮลสไตน์ ข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์ประกอบด้วยข้อมูลที่มีทั้งลักษณะเต้านม (ความสูงของเต้านมหลัง (UH) ความกว้างเต้านมหลัง (UW) เอ็นยึดเต้านมหลัง (UC) ความลึกของเต้านมหลัง (UD) ความยาวของเต้านมหน้า (FUL) การเกาะยึดเต้านมคู่หน้า (FUA) ความสมดุลของเต้านม (UB) และขนาดของหัวนม (TS) และจำนวนโซมาติกเซลล์ในวันทดสอบ (TD-SCC) รายตัวของแม่โคนมในรอบการให้นมแรก คลอดลูกปี 2542-2559 ใน 119 ฝูง จำนวน 3,676 ตัว แปลงข้อมูล TD SCC ให้อยู่ในรูปคะแนนเซลล์โซมาติกในวันทดสอบ (TD-SCS) แล้วหาค่าเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักจากวันให้นมที่ 5 ถึง 150 วัน (SCS150) และ 5 ถึง 305 (SCS305 โมเดลที่ใช้ประกอบด้วยปัจจัยคงที่ของฝูง-ปี ปี-ฤดูกาลคลอด กลุ่มพันธุ์ และสัมประสิทธิ์การถดถอยเชิงเส้นตรงของอายุเมื่อคลอด (สำหรับ SCS150 และ SCS305) และ ฝูง-ปี ปีฤดูกาลประเมินลักษณะรูปร่าง กลุ่มพันธุ์ สัมประสิทธิ์การถดถอยเชิงเส้นตรงและกำลังสองของอายุเมื่อคลอด และสัมประสิทธิ์การถดถอยเชิงส้นตรงของวันให้นมในช่วงเวลาของการประมิลักษณะ (สำหรับลักษณะเต้านม) ประมาณค่าองค์ประกอบความแปรปรวนโดยใช้ REVL ด้วยโมดลตัวสัตว์แบบวิเคราะห์หลายลักษณะพร้อมกัน อัตราพันธุกรรมที่ประมาณได้สำหรับ SCS150 และ SCS305 มีค่าเท่ากับ 0.111 และ 0.107 ตามลำดับ ในขณะที่ ค่าอัตราพันธุกรรมของลักษณะเต้านมมีคู่ตั้งแต่ 0.011 (UC) ถึง 0.222 (UD) ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรม และลักษณะปรากฎระหว่าง SCS150 และ SCS305 นั้นมีค่าสูง (ค่าเฉลี่ย ± SE; 0.961 ± 0.004 และ 0.864 ± 0:005 ตามลำดับ) ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมของ SCS150 และ SC5305 กับลักษณะเต้านมมีค่าตั้งแต่ปานกลางถึงสูงสำหรับ FUL (0.658 และ 0.751), UB (0.343 และ 0.271), UD (-0.314 และ -0.372), FUA (-0.287 และ -0.224) ส่วนความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมกับลักษณะอื่นมีค่าต่ำผันแปรจาก UC (-0.094 และ 0.049) ถึง UW 0.120 และ 0.240) ตามลำดับ ค่าประเมินที่ได้นี้บ่งชี้ว่า SCS150 และ SCS305 ถือได้ว่าเป็นลักษณะทางพันธุกรรมเดียวกัน การบันทึกข้อมูล SCS ในช่วงต้นของการให้น้ำนมสามารถทดแทนข้อมูล SCS ตลอดทั้งรอบการให้นม และโคนมที่มีหัวนมเต้านมหน้าอยู่หน้าเส้นสมุติ เต้านมหน้าสูงกว่าเต้านมหลัง ความลึกของเต้านมที่อยู่เหนือข้อเข่า การเกาะยึดของเต้านมที่แนบแน่นไปกับช่องท้อง ความสูงของเนื้อเยื่อเต้านมหลังที่เหมาะสม ความกว้างของเต้านมน้อยและขนาดของหัวนมสั้น มีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมกับค่า SCS ที่ต่ำ และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคเต้านมอักเสบน้อย ดังนั้นจึงสามารถใช้ลักษณะเต้านมบางลักษณะช่วยในการคัดเลือกเพื่อเพิ่มความต้านทานโรคเต้านมอักเสบได้ทางอ้อมด้วยการสร้างดัชนีสุขภาพเต้านม.
บทคัดย่อ (EN): Genetic and phenotypic correlations among average somatic cell score (SCS) and udder conformation traits in Thai Holstein dairy crossbred were estimated. A total of 3,676first parity cows in 119 herds which had information both on udder conformation traits (rear udder height (UH), udder width (UW), udder cleft (UC), udder depth, (UD), fore udder length (FUL), fore udder attachment (FUA),udder balance (UB) and teat size, TS) and test-day somatic cell s (TD-SCC) calved from 1996 to 2009 were used. TD-SCC were transformed to test-day somatic cell sore (TD-SCS) and they were calculated weighted means of SCS from 5 to 150 DIM (SCS150) and 5 to 305 DIM (SCS305). Models used included the fixed effect of herd-year, year-season of calving, breed group and the linear regression coefficients of age at calving (for SCS150 and SCS305) and herd year, year-season of type classification, breed group the linear and quadratic regression coefficients of age at calving and the linear regression coefficients and coefficient effect of stage of lactation at the time of type classification (for udder traits). Variance components were estimated using REML based on multiple-trait animal models. The heritabilities for SCS150 and SCS305 were 0.111 and 0.107, respectively whereas the heritabilities of the udder conformation traits ranged from 0.011 (UC) to0.222 (UD). Genetic and phenotypic correlations between SCS150 and SCS305 were very high (0.961 + 0.004 and 0.864 + 0.005, respectively). Genetic correlations of SCS150 and SCS305 with udder conformation traits showed moderate to high for FUL (0.658 and 0.751), UB (0.343 and 0.271), UD (-0.314 and -0.372), FUA (-0.287 and -0.224), whereas the genetic correlations with other udder traits were low varied from UC (-0.094 and 0.049) to UW (0.120 and 0.240). These estimates indicate that SCS150 or SCS305 could be genetically regarded as the same trait. Recording of SCS for shorter periods of early lactation could be representatives of the whole lactation. In addition, the lower value of SCS, rear quarters deep, height of udder floor above hocks, extremely snug and strong fore udder attachment, intermediate rear udder height, narrow rear udder width, and shorter teat size should result in low risk to mastitis. Therefore, selection for some of udder traits might be helpful to indirectly increase mastitis resistance using udder health index.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://biotech.dld.go.th/webnew/images/Journal/2564/BBLP-Journal2021.pdf
เผยแพร่โดย: กรมปศุสัตว์
คำสำคัญ: ลักษณะเต้านม
คำสำคัญ (EN): udder traits
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

สายัณห์ บัวบาน. "การคัดเลือกลักษณะต้านทานโรคเต้านมอักเสบโดยการคัดเลือกลักษณะเต้านม ในโคนมลูกผสมไทยโฮลสไตน์Selection for mastitis resistance in Thai Holstein dairy crossbred using udder traits". กรมปศุสัตว์. 2550

สายัณห์ บัวบาน. "การคัดเลือกลักษณะต้านทานโรคเต้านมอักเสบโดยการคัดเลือกลักษณะเต้านม ในโคนมลูกผสมไทยโฮลสไตน์Selection for mastitis resistance in Thai Holstein dairy crossbred using udder traits". กรมปศุสัตว์. 2550. Print.



TARR Wordcloud:
การคัดเลือกลักษณะต้านทานโรคเต้านมอักเสบโดยการคัดเลือกลักษณะเต้านม ในโคนมลูกผสมไทยโฮลสไตน์
สายัณห์ บัวบาน
กรมปศุสัตว์
2550
กรมปศุสัตว์
เทคนิคการเลี้ยงโคนมทดแทน เครือข่ายแบบเบย์เซียนของโรคเต้านมอักเสบสำหรับฟาร์มโคนมรายย่อย เต้านมอักเสบ เต้านมอักเสบ การสำรวจเชื้อก่อโรคเต้านมอักเสบในโคนมและความไวต่อยาปฏิชีวนะ ในจังหวัดสระแก้ว ความสัมพันธ์ของยีน BoLA-DRB3 กับโรคเต้านมอักเสบในโคนมลูกผสมไทยโฮลสไตน์ ดัชนีการคัดเลือกลักษณะสำคัญทางเศรษฐกิจในโคนมลูกผสม การศึกษายีนที่สร้างสารเอ็นเทอโรท็อกซินในเชื้อ S. aureus ที่แยกได้จากโคที่เป็นโรคเต้านมอักเสบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย สหสัมพันธ์ทางพันธุกรรมของลักษณะการให้นมในโคนม การศึกษาฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียของสารสกัดจากบัวบกต่อเชื้อ Staphylococcus spp. ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดเต้านมอักเสบแบบแสดงอาการ และ แบบไม่แสดงอาการในโคนม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair