สืบค้นงานวิจัย
การผลิตปุ๋ยสตรูไวท์จากน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดจากโรงงานเกษตรอุตสาหกรรมและฟาร์มสุกร
รอบรู้ รังสิเวค - มหาวิทยาลัยบูรพา
ชื่อเรื่อง: การผลิตปุ๋ยสตรูไวท์จากน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดจากโรงงานเกษตรอุตสาหกรรมและฟาร์มสุกร
ชื่อเรื่อง (EN): Production of Struvite fertilizer from treated wastewater of Agricultural industries and Pig farm
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รอบรู้ รังสิเวค
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: น้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแบบไม่ใช้ออกซิเจนโดยการผลิตก๊าซชีวภาพยังมีธาตุอาหารอยู่สูง ด้วยการบังคับของกฎหมายผู้ประกอบการจึงไม่สามารถปล่อยน้ำเสียเหล่านี้ลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติได้เพราะจะทำให้เกิดปรากฏการณ์ยูโทรฟิเคชั่น (Eutrophication) ทำได้เพียงปล่อยให้น้ำไหลซึมสู่ดิน เกษตรกรบางส่วนนำไปใช้เพาะปลูก ซึ่งไม่เห็นประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ปุ๋ยสตรูไวท์ (Struvite) หรือแมกนีเซียมแอมโมเนียมฟอสเฟต(Magnesium Ammonium Phosphat:MAP) มีสูตรทางเคมีคือ MgNH4PO4 เป็นแนวทางการดึงสารอาหารในน้ำเสียนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม โดยการตกตะกอนของแมกนีเซียมไอออน (Mg2+), แอมโมเนียมไอออน (NH4+) และฟอสเฟตไอออน (PO43-) ในสภาวะที่เหมาะสม มีลักษณะเป็นผลึกสีขาวแกมเหลืองอ่อน หรือน้ำตาลอ่อน ด้วยความสามารถในการละลายที่น้อย (ค่า Ksp? 7.08x10-4) (กรมควบคุมมลพิษ, 2554) มีคุณสมบัติเป็นปุ๋ยละลายช้า พืชสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยาวนาน โดยในงานวิจัยนี้น้ำเสียที่นำมาพิจารณาในการตกผลึก MAP ได้แก่ น้ำที่ออกจากกระบวนการผลิตก๊าซชีวภาพ(Biogas outlet) น้ำบ่อสุดท้าย(post treatment) และกากตะกอนน้ำเสีย(Sludge) จากโรงงานแป้งมันสำปะหลัง โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม และฟาร์มสุกร พบว่าน้ำเสียจากกากตะกอนฟาร์มสุกรมีสารอาหารตั้งต้น(Mg2+, NH4+ และ PO43-) มากที่สุด(279, 450 และ 700 มิลลิกรัมต่อลิตรตามลำดับ) แต่เนื่องด้วยหากนำไปติดตั้งบนพื้นที่จริงจำเป็นต้องมีหน่อยกรองเอาตะกอนออก จึงจะนำน้ำเสียมาใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายทำให้ยากต่อการคุ้มทุน น้ำเสียจากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มมี Mg2+ ที่สูง(1750 มิลลิกรัมต่อลิตร) แต่มี NH4+ และ PO43- เพียง (70 และ 42 มิลลิกรัมต่อลิตรตามลำดับ) อีกทั้งมีค่าความเป็นด่าง(Alkalinity) ที่สูง (3,500-5,700 มิลลิกรัมต่อลิตร) ซึ่งจะส่งผลต่อการปรับความเป็นกรดด่าง(pH)ได้ยากขึ้น และน้ำเสียจากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มจะมีการปนเปื้อนของน้ำมัน จึงไม่เหมาะที่จะนำมาตกตะกอน MAP จึงพิจารณาน้ำที่ออกจากกระบวนการผลิตก๊าซชีวภาพของโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังซึ่งมีธาตุอาหารหลัก (Mg2+, NH4+ และ PO43-) ได้แก 650 , 172 และ 202 มิลลิกรัมต่อลิตรตามลำดับ พบว่าจะตกตะกอน MAP ได้ดีที่สุดที่ค่าความเป็นกรดด่างเท่ากับ 9 ซึ่งสามารถลดสารอาหาร Mg2+, NH4+ และ PO43- ได้ 66.67%, 50.87% และ 33.40% ตามลำดับ และได้ผลึก MAP 0.1331 g และพบว่าการปรับอัตราส่วนของ Mg2+:PO43- เป็น 1:2 สามารถลด Mg2+ และ PO43- ได้สูงถึง 80.00% และ 90.26% และได้ผลึก 0.45 กรัม ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ Rahman et al. (2011), Lui et al. (2011) และ Le Corre et al. (2007)
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3529?show=full
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยบูรพา
คำสำคัญ: การผลิต
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยบูรพา
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การผลิตปุ๋ยสตรูไวท์จากน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดจากโรงงานเกษตรอุตสาหกรรมและฟาร์มสุกร
มหาวิทยาลัยบูรพา
30 กันยายน 2560
อุตสาหกรรมอาหารไทย ปลอดภัยเชื่อถือได้ การวิจัยเชิงนโยบายเพื่อการประหยัดพลังงานและคาร์บอนไดออกไซด์ สำหรับประเทศไทยและภาคอุตสาหกรรม โครงการศึกษาสถานภาพการใช้เทคโนโลยีแก็สซิฟิเคชันสำหรับ ผลิตความร้อนและไฟฟ้าในระดับอุตสาหกรรม ชุมชน หรือ วิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดเล็กของประเทศไทย Smart Farmer สร้างเกษตรอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ การวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนของการบำบัดน้ำเสียในโครงการคลองเปรมประชากรใต้ การวิเคราะห์น้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมยางดิบ การศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพของพืชคลุมดินในพื้นที่มหาวิทยาลัยพะเยา เพื่อประยุกต์ใช้ในการบำบัดน้ำเสียด้วยระบบ ไหลนอง การบำบัดน้ำเสียจากโรงงานผลิตหมึกพิมพ์ฐานน้ำโดยวิธีการตกตะกอนทางเคมี ร่วมกับการใช้พืช (ระยะที่ 2) การผลิตเอนไซม์ไลเปสจากยีสต์เพื่ออุตสาหกรรม การใช้หญ้าแฝกบำบัดน้ำเสียจากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก