สืบค้นงานวิจัย
การจัดเขตศักยภาพการผลิตข้าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
สาธิต ทยาพัชร - กรมการข้าว
ชื่อเรื่อง: การจัดเขตศักยภาพการผลิตข้าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ชื่อเรื่อง (EN): Rice potential zoning in Prachuap Khiri Khan province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สาธิต ทยาพัชร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Satit Tayapat
ผู้ร่วมงาน / ผู้ร่วมวิจัย:
ผู้ร่วมงาน / ผู้ร่วมวิจัย (EN):
คำสำคัญ:
คำสำคัญ (EN):
บทคัดย่อ: การจัดเขตศักยภาพการผลิตข้าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินการวิจัยระหว่างปี พ.ศ. 2554-2556 มีขั้นตอนการดำเนินงาน คือ เก็บตัวอย่างดิน และข้าวจากแปลงนาเกษตรกรและจัดทำแปลงทดสอบเทคโนโลยี ผลการศึกษาพบว่า พันธุ์ข้าวที่นิยมปลูกในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วย พันธุ์ชัยนาท 1 สุพรรณบุรี 1 กข31 และปทุมธานี 1 ผลการทดสอบเทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยดำเนินการ 2 ฤดู จำนวน 12 แปลง พบว่า พื้นที่ L1 ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำของทางราชการ (T1) ให้ผลผลิตเฉลี่ย 885 กิโลกรัมต่อไร่ การใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน (T2) ให้ผลผลิตข้าวเฉลี่ย 785 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนวิธีการใส่ปุ๋ยของเกษตรกร (T3) ได้ผลผลิตข้าวเฉลี่ย 741 กิโลกรัมต่อไร่ พื้นที่ L2 ใส่ปุ๋ยตามกรรมวิธี T1 T2 และ T3 ให้ผลผลิตข้าวเฉลี่ย 856 809 และ 804 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ ในขณะที่พื้นที่ L3 ได้ผลผลิตข้าวเฉลี่ย 929 906 และ 865 กิโลกรัมต่อไร่ โดยใส่ปุ๋ยตามกรรมวิธี T1 T2 และ T3 และผลผลิตข้าวเฉลี่ย 546 552 และ 531 กิโลกรัมต่อไร่ สำหรับพื้นที่ L4 ตามลำดับ ผลการทดลองพบว่าการใช้เทคโนโลยีการจัดการปุ๋ยที่เหมาะสมสามารถเพิ่มผลผลิตข้าวและลดต้นทุนการผลิตได้อีกด้วย
บทคัดย่อ (EN): Rice production potential zoning of Prachuap Khiri Khan province had been conducted from 2011 to 2013. Research methodology composted of general rice production information collection, soil sampling and crop cutting from farmer field, and field experiment. The research found that there were 4 major rice varieties growing in the area Chainat 1 , Suphanburi 1 , RD31 and Pathum Thani 1. The field experiments for comparing of fertilizer application were conducted 2 seasons at 12 locations. The results showed that L1 area, recommended fertilizer application (T1) gave the average yield of 885 kg/rai, while fertilizer application base on soil analysis (T2) gave the average yield of 785 kg/rai. Farmers’ practice of fertilizer application (T3) gave the average yield of 741 kg/rai. In the L2 area, average yield of T1 , T2 , and T3 were 856,809,804 kg/rai, respectively. While in the L3 area, were 929,906,865 kg/rai of T1 , T2 , and T3 , and 546 , 552 , 531 kg/rai of T1 , T2 , and T3 for L4, respectively. These results showed that use of appropriated fertilizer application could increase rice yield and decreased cost dramatically.
ปีเริ่มต้นงานวิจัย: 2557
ปีสิ้นสุดงานวิจัย: 2557
เอกสารแนบ: http://anchan.lib.ku.ac.th/agnet/bitstream/001/5646/1/2556C-OP19-p.200-208.pdf
ลิขสิทธิ์: แสดงที่มา-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย (CC BY-SA 3.0 TH)
เผยแพร่โดย: กรมการข้าว
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การจัดเขตศักยภาพการผลิตข้าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
กรมการข้าว
2557
เอกสารแนบ 1
กรมการข้าว
แป้งข้าวก่ำดัดแปรและผลิตภัณฑ์จากข้าวก่ำเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ เชิงป้องกัน ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร การจัดเขตศักยภาพการผลิตข้าวจังหวัดสุโขทัย การจัดเขตศักยภาพการผลิตข้าวจังหวัดสิงห์บุรี การจัดเขตศักยภาพการผลิตข้าวจังหวัดนครศรีธรรมราช การเพิ่มผลผลิตข้าวจากการจัดเขตศักยภาพการผลิตข้าวของภาคใต้ การจัดเขตศักยภาพการผลิตข้าวในเขตจังหวัดชัยนาท การจัดเขตศักยภาพการผลิตข้าวจังหวัดเพชรบุรี การจัดเขตศักยภาพการผลิตข้าว จังหวัดนครราชสีมา การจัดเขตศักยภาพการผลิตข้าวภาคกลาง

แสดงที่มา-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย (CC BY-SA 3.0 TH)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก