สืบค้นงานวิจัย
การปฏิบัติของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในจังหวัดชุมพรเปรียบเทียบกับการปลูกกาแฟอย่างถูกต้องและเหมาะสม(GAP)
พิสมัย พึ่งวิกรัย - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การปฏิบัติของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในจังหวัดชุมพรเปรียบเทียบกับการปลูกกาแฟอย่างถูกต้องและเหมาะสม(GAP)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พิสมัย พึ่งวิกรัย
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพเศรษฐกิจและสังคมบางประการของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ข้อมูลพื้นฐานในการผลิตและการตลาดกาแฟของเกษตรกร เปรียบเทียบการปฏิบัติของเกษตรกรกับการผลิตกาแฟอย่างถูกตอ้งและเหมาะสม รวมทั้งปัญหาอุปสรรคแลข้อเสนอแนะของเกษตรกร ประชากรที่ใช้ในการวิจัยมาจากการสุ่มตัวอย่างเกษตรกรในเขตอำเภอเมือง อำเภอปะทิว อำเภอท่าแซะและอำเภอพะโต๊ะ จังหวัด ชุมพร จำนวน 144 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์ ข้อมูลที่ได้นำมาวิเคราะห์ทางสถิติโดยคำนวณค่าร้อยละ และมัชฌิมเลขคณิต ผลการศึกษาสภาพเศรษฐกิจและสังคมบางประการของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ พบว่า ส่วนใหญ่เกษตรกรเป็นเพศชาย มีอายุเฉลี่ย 45.36 ปี จบการศึกษาในระดับประถมศึกษา มีพื้นที่ทำการเกษตรเฉลี่ย 27.73 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกสถาบันที่เกี่ยวข้องทางการเกษตร และมีเงินกู้เพื่อการลงทุนด้านการเกษตร ซึ่งสถาบันที่เกษตรกรเป็นสมาชิกและมีการกู้เงินมาลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการผลิตและการตลาดกาแฟของเกษตรกร พบว่าเกษตรกรมีประสบการณ์ปลูกกาแฟเฉลี่ย 12.66 ปี มีพื้นที่ปลูกกาแฟเฉลี่ย 15.31 ไร่ เกษตรกรกว่าครึ่งหนึ่ง คือร้อยละ 52.08 มีพื้นที่ปลูกกาแฟระหว่าง 1-10 ไร่ ส่วนใหญ่ปลูกกาแฟในลักษณะพืชเดี่ยว เหตุผลที่เกษตรกรสนใจปลูกกาแฟ ส่วนใหญ่เนื่องมาจากเป็นพืชที่ใช้เวลาปลูกไม่นานก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ทั้งนี้เกษตรกรนิยมจำหน่ายผลผลิตในรูปสารกาแฟให้กับพ่อค้าท้องถิ่นมากที่สุดในลักษณะคละเกรดเกษตรกรส่วนใหญ่รับข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับกาแฟจากญาติ/เพื่อนบ้านมากที่สุด รองลงมารับจากเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร แต่ส่วนใหญ่ไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมกาแฟกับหน่วยงานต่างๆสำหรับในอนาคตเกษตรกรส่วนใหญ่จะยังคงพื้นที่ปลูกกาแฟต่อไปเท่าเดิม และบางส่วนมีแนวโน้มจะเพิ่มพื้นที่ปลูกกาแฟมากขึ้น ผลการศึกษาเปรียบเทียบการปฏิบัติของเกษตรกรกับการผลิตกาแฟอย่างถูกต้องและเหมาะสมพบว่า สภาพพื้นที่ปลูกกาแฟโดยรวมเหมาะสมตามคำแนะนำ ทั้งในด้านอุณหภูมิ ปริมาณน้ำฝน การกระจายของฝน ความลาดชันของพื้นที่ปลูก และลักษณะดินปลูก ส่วนการปลูกกาแฟของเกษตรกรนั้นมีการปฏิบัติที่เหมือนกับคำแนะนำ ได้แก่ การปลูกกาแฟในฤดูฝน การใช้ขนาดต้นกล้า และขนาดหลุมปลูกเหมาะสม มีการปักหลักและผูกหลักกับต้นกาแฟเพื่อป้องกันลมพัดโยก แต่ยังมีการปฏิบัติของเกษตรกรส่วนใหญ่ที่ไม่เหมือนกับคำแนะนำ ได้แก่ การไม่รองก้นหลุมด้วยหินฟอสเฟต การไม่ผสมปุ๋ยคอก/ปุ๋ยหมักกับดินปลูก ไม่มีการคลุมโคนต้นกาแฟหรือคลุมผิดวิธี และไม่มีการทำร่มเงาให้กับต้นกาแฟที่ปลูกใหม่ ส่วนด้านการใส่ปุ๋ย พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ยังใช้สูตรปุ๋ยไม่เหมือนกับคำแนะนำทั้งในระยะที่กาแฟยังไม่ให้ผลผลิตและระยะที่ให้ผลผลิตแล้ว นอกจากนี้ยังมีจำนวนครั้งการใส่ปุ๋ยต่อปีในระยะที่กาแฟให้ผลผลิตแล้วน้อยกว่าคำแนะนำ ในด้านการตัดแต่งกิ่ง พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีการตัดแต่งกิ่งในระยะปีแรก แต่มีการตัดแต่งกิ่งหลังจากกาแฟให้ผลผลิตแล้ว 4-5 ปี โดยนิยมใช้วิธีทยอยตัดแต่งกิ่งเหมือนกับคำแนะนำ สำหรับการป้องกันกำจัดศัตรูพืช ส่วนใหญ่มีการป้องกันกำจัดวัชพืช โรค และแมลงตามคำแนะนำ ยกเว้นโรคราสนิมที่เกษตรกรยังไม่เห็นความสำคัญของการป้องกันกำจัด สำหรับการเก็บเกี่ยวและวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว ส่วนใหญ่เกษตรกรปฏิบัติเหมือนกับคำแนะนำ ได้แก่ การเก็บเกี่ยวผลกาแฟแต่เฉพาะที่สุกพอดี โดยทยอยเก็บปีละ 3-4 ครั้ง การตากผลกาแฟไม่ให้มีความหนามากเกินไป มีการพลิกกลับผลกาแฟที่ตากอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง มีการป้องกันน้ำค้างให้กับผลกาแฟที่ตากในตอนเย็น และใช้ระยะเวลาในการตากผลแห้งประมาณ 15-20 วัน เกษตรกรจะเก็บเมล็ดกาแฟในกระสอบหรือภาชนะป่านที่สะอาด โรงเก็บกาแฟตั้งอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดีและไม่ร้อนโดยวางภาชนะบรรจุเมล็ดกาแฟบนยกพื้นสูงห่างจากฝาผนังและเพดานห้องพอสมควร อย่างไรก็ตามเกษตรกรส่วนใหญ่ยังมีการปฏิบัติบางประการที่ไม่เหมือนกับคำแนะนำ ได้แก่ ไม่มีการคัดผลกาแฟเบื้องต้นก่อนการตาก ไม่ตากผลกาแฟบนลานซีเมนต์ที่สะอาด และไม่กะเทาะเปลือกกาแฟออกทันทีหลังตากแห้งแล้ว ส่วนการบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวกับกาแฟนั้น พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ยังไม่นิยมการจดบันทึก ปัญหาอุปสรรคที่เกษตรกรพบมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ปัญหาขาดแคลนเงินทุน และปัญหาปัจจัยการผลิตมีราคาแพง ตามลำดับ สำหรับข้อเสนอแนะของเกษตรกร เกษตรกรส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลแทรกแซงตลาดให้ราคาผลผลิตสูงขึ้น รองลงมา ต้องการความช่วยเหลือให้ราคาปัจจัยการผลิตลดต่ำลง นอกจากนั้นยังมีข้อเสนอแนะอื่นๆ ได้แก่ ให้มีการจัดตั้งองค์กรเกษตรกร การจัดหาแหล่งน้ำทำการเกษตร การอบรมความรู้ทางการเกษตร การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างเพียงพอและทันสถานการณ์ รวมทั้งแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: การปลูกกาแฟอย่างถูกต้องและเหมาะสม
คำสำคัญ (EN): GAP
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมส่งเสริมการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การปฏิบัติของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในจังหวัดชุมพรเปรียบเทียบกับการปลูกกาแฟอย่างถูกต้องและเหมาะสม(GAP)
กรมส่งเสริมการเกษตร
2545
การปฏิบัติของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในจังหวัดชุมพรเปรียบเทียบกับการปลูกกาแฟอย่างถูกต้องและเหมาะสม(GAP) สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกร จังหวัดชุมพร ความรู้และการปฏิบัติในการใช้สารเคมีที่ถูกต้องของเกษตรกรผู้ปลูกฟักทองญี่ปุ่น ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ การปลูกระกำหวานของเกษตรกร อำเภอสวี จังหวัดชุมพร การศึกษาทัศนคติของเกษตรกรที่นี่ต่อโครงการส่งเสริมการปลูกโกโก้ในจังหวัดชุมพร และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ การยอมรับวิธีการปลูกพืชภายใต้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีและเหมาะสม (GAP) ของเกษตรกร ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติในการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกข้าวของเกษตรกร อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย การขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติแบบมีส่วนร่วมให้กับเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นในอำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ความรู้และการปฏิบัติในการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช ของเกษตรกรผู้ปลูกหอมหัวใหญ่ อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ การศึกษาวิธีการปฏิบัติในการพัฒนาการผลิตและควบคุมศัตรูมะม่วงหนังกลางวันเพื่อส่งออกของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงส่งออกเชียงใหม่-ลำพูน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก