สืบค้นงานวิจัย
ศักยภาพการผลิตยางแผ่นรมควันของสหกรณ์กองทุนสวนยางและเกษตรกร
ณิชชา ปานสี - การยางแห่งประเทศไทย
ชื่อเรื่อง: ศักยภาพการผลิตยางแผ่นรมควันของสหกรณ์กองทุนสวนยางและเกษตรกร
ชื่อเรื่อง (EN): Potential of Ribbed Smoked Sheet Rubber Producing of Rubber Fund Co-operative Ltd. and Smallholders
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ณิชชา ปานสี
บทคัดย่อ: การศึกษาศักยภาพการผลิตยางแผ่นรมควันของสหกรณ์กองทุนสวนยางและเกษตรกรเป็นการศึกษาถึงองค์ประกอบที่มีผลต่อศักยภาพการผลิต และแนวทางการพัฒนาศักยภาพการผลิตยางแผ่นรมควันของสหกรณ์กองทุนสวนยางและเกษตรกร ที่ใช้บริการตลาดกลางยางพาราโดยทั้ง 3 แห่ง คือ ตลาดกลางยางพาราสงขลา นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ 1 มกราคม 2556 เป็นการรวบรวมข้อมูลโดยใช้วิธีการสัมภาษณ์ โรงรมควันเกษตรกร 134 ราย และโรงรมควันสหกรณ์กองทุนสวนยาง 97 ราย จากการศึกษาพบว่าโรงรมควันสหกรณ์กองทุนสวนยาง มีการเปิดดำเนินงานเฉลี่ย 17 ปี แต่โรงรมควันเกษตรกรมีการเปิดดำเนินการเฉลี่ย 4 ปี เพราะโรงรมควันสหกรณ์กองทุนสวนยางเกิดขึ้นจากนโยบายรัฐ มีกำลังการผลิตเฉลี่ย 2.5 ตัน ซึ่งน้อยกว่าโรงรมควันเกษตรกรที่มีความจุห้องรม 3.0 ตัน โรงรมควันสหกรณ์กองทุนสวนยาง สร้างแรงจูงใจให้กับสมาชิกที่นำยางมาขายด้วยการจัดสรรเงินปันผลและสวัสดิการด้านสินเชื่อปัจจัยการผลิตและสินค้าอุปโภคที่มีความจำเป็น ในการให้สมาชิกนำน้ำยางไปขาย ส่วนโรงรมควันเกษตรกรมีการรับซื้อน้ำยางจากพ่อค้าถังบิ๊กมากกว่า เนื่องจากเกษตรกรมีอาชีพซื้อขายน้ำยางสดมาก่อนจึงรู้จักและคุ้นเคยกับพ่อค้าถังบิ๊ก รายอื่นๆอย่างดีและมีการรวบรวมน้ำยางแบบระบบเครือญาติโดยตั้งจุดรับซื้อกระจายในหมู่บ้าน การตักตัวอย่างน้ำยางสดที่ทดสอบด้วยตู้อบหลอดไฟพบว่าโรงรมควันสหกรณ์กองทุนสวนยางมีการสุ่มตัวอย่างน้ำยางสด เฉลี่ย 13.56 กรัม โรงรมควันเกษตรกรมีการสุ่มตัวอย่างน้ำยางสด เฉลี่ย 10.13 กรัม ถ้าเป็นการทดสอบตัวอย่างน้ำยางสดด้วยตู้อบไมโครเวฟโรงรมควันสหกรณ์กองทุนสวนยางมีการสุ่มตัวอย่างน้ำยางสด เฉลี่ย 0.85 กรัม โรงรมควันเกษตรกรมีการสุ่มตัวอย่างน้ำยางสด เฉลี่ย 0.87 กรัม จะเห็นได้ว่า การตักสุ่มตัวอย่างของเกษตรกรมีปริมาณมากกว่าโรงรมควันสหกรณ์กองทุนสวนยางเพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจ การรีดยางพบว่าโรงรมควันสหกรณ์กองทุนสวนยางมีการรีดยางเฉลี่ย 853 แผ่นต่อชั่วโมง ส่วนโรงรมควันเกษตรกรรีดได้ 743 แผ่นต่อชั่วโมงเนื่องจากโรงรมควันเกษตรกรมีการนำเครื่องจักรมือสองมาใช้เพื่อลดต้นทุนการผลิต โรงรมควันเกษตรกรมีความจุเฉลี่ย 8 เก๊ะต่อห้อง คุณภาพยางรมควันที่ผลิตได้ ชั้น 1-3 81-90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแตกต่างจากโรงรมควันสหกรณ์กองทุนสวนยางมีการบรรจุเฉลี่ย 3 และ 6 เก๊ะต่อห้อง คุณภาพยางรมควันที่ผลิตได้ชั้น 1-3 91-100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากโรงรมควันสหกรณ์กองทุนสวนยางรับซื้อน้ำยางสดจากสมาชิกโดยตรงมีส่วนผสมแอมโมเนียน้อยน้ำยางสดจึงมีคุณภาพ แตกต่างกับโรงรมควันเกษตรกรที่รับซื้อน้ำยางสดจากพ่อค้าถังบิ๊ก ซึ่งมีส่วนผสมของแอมโมเนียสูงทำให้การผลิตยางแผ่นมีคุณภาพต่ำ ผลการวิเคราะห์เชิงปริมาณเพื่อทดสอบความแตกต่างระหว่างองค์ประกอบที่มีผลต่อศักยภาพการผลิต โดยใช้สถิติ t-test (ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05) พบว่า ข้อมูลทั่วไปได้แก่ ปริมาณยางที่รวบรวมได้ ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ แต่พบความแตกต่างจากค่าเฉลี่ย ระยะเวลาการดำเนินธุรกิจ จำนวนเกษตรกรรายย่อย จำนวนพ่อค้าคนกลาง (ถังบิ๊ก) กระบวนการผลิต ได้แก่ ระยะเวลาการทดสอบ จำนวนวันรมยาง จำนวนแผ่นต่อเก๊ะค่าเฉลี่ยปริมาณยางแห้งของเกษตรกรรายย่อยและพ่อค้าคนกลาง (ถังบิ๊ก) ราคาไม้ฟืน ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ แต่พบความแตกต่างจากค่าเฉลี่ยของ ปริมาณการสุ่มตัวอย่าง การรีดยางแผ่น ความจุห้องรม และ คุณภาพยาง บุคลากร ได้แก่ จำนวนบุคลากรฝ่ายผลิต ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ แต่พบความแตกต่างจากค่าเฉลี่ย จำนวนบุคลากรฝ่ายรวบรวมน้ำยาง ประสบการณ์ผู้ควบคุมเตาและแรงงานผลิต ค่าใช้จ่ายการผลิต ได้แก่ ค่าจ้างแรงงานผลิต และ ค่าไฟฟ้า ไม่มีความแตกต่างกัน ทางสถิติ แต่พบความแตกต่างจากค่าเฉลี่ยของ เงินเดือน/ค่าจ้าง ค่าไม้ฟืน ค่าขนส่ง ค่าสารเคมี และกลุ่มตัวอย่างโรงรมควันสหกรณ์มีค่าใช้จ่ายการผลิตรวมเฉลี่ยกิโลกรัมละ 5.72 บาทกลุ่มตัวอย่างโรงรมควันเกษตรกรกิโลกรัมละ 4.69 บาท โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายเงินเดือนและค่าจ้างของกลุ่มตัวอย่างโรงรมควันสหกรณ์กองทุนสวนยางมีต้นทุนสูงกว่ากลุ่มตัวอย่างโรงรมควันเกษตรกร เพราะมีบุคลากรที่ปฏิบัติงานจำนวนมากและอัตราค่าจ้างจะอ้างอิงอัตราเงินเดือนภาครัฐซึ่งแตกต่างจากกลุ่มตัวอย่างโรงรมควันเกษตรกรที่เน้นจ้างเฉพาะพนักงานยกน้ำยางเท่านั้น ส่วนหน้าที่รับผิดชอบการทดสอบค่าปริมาณเนื้อยางแห้ง บัญชี การจ่ายเงิน เจ้าของธุรกิจเป็นผู้ทำหน้าที่ทั้งหมด ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการผลิตพบว่ากลุ่มตัวอย่างโรงรมควันสหกรณ์กองทุนสวนยางมีปัญหาเรื่องสภาพเตาชำรุดและปริมาณวัตถุดิบมีน้อย แรงงานไม่เพียงพอต่อการผลิต เครื่องจักรและอุปกรณ์ชำรุด พบสิ่งปลอมปนในน้ำยาง แรงงานขาดทักษะและความชำนาญการผลิต ไม่มีแหล่งเงินทุนและขาดความรู้เรื่องการผลิตการตลาด กลุ่มตัวอย่างโรงรมควันเกษตรกรมีปัญหาจำนวนแรงงานไม่เพียงพอต่อการผลิต พบสิ่งปลอมปนในน้ำยาง แรงงานขาดทักษะและความชำนาญการผลิต ปริมาณวัตถุดิบมีน้อย เครื่องจักรและอุปกรณ์ชำรุด
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: การยางแห่งประเทศไทย
คำสำคัญ: สหกรณ์กองทุนสวนยางและเกษตรกร
คำสำคัญ (EN): Rubber Fund Co-operative Ltd. and Smallholders
เจ้าของลิขสิทธิ์: การยางแห่งประเทศไทย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ศักยภาพการผลิตยางแผ่นรมควันของสหกรณ์กองทุนสวนยางและเกษตรกร
ณิชชา ปานสี
การยางแห่งประเทศไทย
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
ศักยภาพและความเป็นไปได้ในการพัฒนากลุ่มขายยางเพื่อการผลิตยางแผ่นรมควัน สำรวจและศึกษาการปลูกพืชเสริมรายได้ของเกษตรกรในสวนยาง ศักยภาพการผลิตยางของสวนยางเปิดกรีดในภาคตะวันออก เศรษฐกิจการผลิตยางของสหกรณ์กองทุนสวนยาง การสำรวจข้อมูลเพื่อพัฒนาคุณภาพการผลิตยางแผ่นดิบและยางแผ่นรมควัน ศึกษาศักยภาพการผลิตและการตลาดยางของสถาบันเกษตรกร ภาวะการผลิตกระเจี๊ยบเขียว การผลิตและการตลาดลิ้นจี่ของเกษตรกรใน 4 จังหวัดภาคเหนือ สภาพการผลิตและการตลาดพืชผักของเกษตรกรจังหวัดภูเก็ต การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการผลิตของเกษตรกรชาวสวนยาง จากยางแผ่นดิบเป็นน้ำยางสด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก