สืบค้นงานวิจัย
ฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอาการคันของสารสกัดจากผลมะแว้งเครือ
Wanthanee Hanchang - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอาการคันของสารสกัดจากผลมะแว้งเครือ
ชื่อเรื่อง (EN): Antiinflammatory and antipruritic effects of Solanum trilobatum L. fruit extracts
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Wanthanee Hanchang
บทคัดย่อ: Solanum trilobatum (L.) มีชื่อเรียกในภาษาไทยว่า มะแว้งเครือ เป็นพืชไม้เลื้อยอยู่ในวงศ์ Solanaceae การวิจัยนี้ ศึกษาฤทธิ์ต้านการอักเสบของสารสกัดจากผลมะแว้งเครือในหนูถีบจักร โดยนำผลมะแว้งเครือมาสกัดด้วยตัวทำละลายต่างๆ 3 ชนิด ได้แก่ สกัดด้วยน้ำ (สารสกัดน้ำ) สกัดด้วยเอธานอล 95% (สารสกัดเอธานอล) และสกัดด้วยเอธานอล 95%ผสมกรด ไฮโดรคลอริกในอัตราส่วน10:1 (สารสกัดกึ่งบริสุทธิ์) แล้วนำสารสกัดทั้งสามชนิดมาทดสอบฤทธิ์ต้านอักเสบในหนูถีบจักรโดย ใช้โมเดลที่เหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบทั้งแบบเฉพาะที่ภายนอกและแบบที่เกิดการอักเสบในช่องท้อง รวมทั้งศึกษาฤทธิ์ต้าน อาการคันด้วย การศึกษาในโมเดลแบบเฉพาะที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิภาพของสารสกัดจากผลมะแว้งเครือทั้งในการป้องกัน และการรักษาอาการบวมของใบหูหนูถีบจักรที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบโดยการทาสาร ethyl-phenylpropiolate (EPP) และสารทดสอบบริเวณใบหูของหนูถีบจักรด้านในและด้านนอก ซึ่งศึกษาฤทธิ์ป้องกันโดยทาสารสกัดจากผลมะแว้ง เครือก่อนเป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้วเหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบด้วย EPP พบว่าสารสกัดทั้ง 3 ชนิด ขนาด 0.5, 1 และ 2 มก/หู สามารถป้องกันการบวมของใบหูของหนูถีบจักรโดยแปรผันตรงตามความเข้มข้นของสารสกัด สำหรับการทดสอบฤทธิ์ในการ รักษาการอักเสบศึกษาในหนูถีบจักรเช่นกัน โดยเหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบของใบหูด้วยการทา EPP เป็นเวลา 1 ชั่วโมงก่อน แล้วทดสอบฤทธิ์ของสารสกัดน้ำและสารสกัดเอธานอล ขนาด 0.5, 1 และ 2 มก/หู และสารสกัดกึ่งบริสุทธิ์ ขนาด 0.25, 0.5 และ 1 มก/หู พบว่าสารสกัดทั้ง 3 ชนิด สามารถลดการบวมของใบหูของหนูถีบจักรได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.01) ซึ่งแปร ผันตรงตามความเข้มข้นของสารสกัด สารสกัดทั้ง 3 ดังกล่าว แสดงฤทธิ์ป้องกันและรักษาการอักเสบตลอด 4 ชั่วโมงของการ ทดลอง เมื่อเปรียบเทียบกับการให้สารมาตรฐานสำหรับลดการอักเสบ (เดกซาเมทาโซน 0.05 มก/หู) ส่วนการทดสอบฤทธิ์ต้านการอักเสบของสารสกัดจากผลมะแว้งเครือด้วยเอธานอล 95% โดยใช้โมเดลแบบที่เกิดการ อักเสบในช่องท้อง 2 โมเดล ได้แก่ กรดอะซิติกเหนี่ยวนำให้เกิดการเคลื่อนที่ของของเหลวออกนอกหลอดเลือด และคาราจีแนน เหนี่ยวนำให้เกิดการเคลื่อนที่ของเม็ดเลือดขาว พบว่าสารสกัดเอธานอล (200, 400 และ 600 มก/กก) แสดงฤทธิ์ต้านการอักเสบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P< 0.001) ในทั้ง 2 โมเดล อย่างไรก็ตามพบว่าสารสกัดมีฤทธิ์ต้านการอักเสบน้อยกว่าสารมาตรฐาน สำหรับลดการอักเสบ (เดกซาเมทาโซน 1 มก/กก และอินโดเมทาซิน 10 มก/กก) สำหรับการศึกษาฤทธิ์ต้านอาการคัน พบว่าสารสกัดเอธานอล (200, 400 และ 600 มก/กก) สามารถยับยั้งพฤติกรรมการเกา ของหนูถีบจักรที่ถูกเหนี่ยวนำด้วยฮีสตามีน ซึ่งให้ผลเช่นเดียวกับการให้สารมาตรฐานสำหรับลดการคัน (เดกซาเมทาโซน 1 มก/ กก และคลอฟินิรามีน 10 มก/กก) จากการศึกษาดังกล่าวนี้ สามารถที่จะสรุปได้ว่าสารสกัดน้ำ สารสกัดเอธานอล และสารสกัดกึ่งบริสุทธิ์จากผลมะแว้งเครือมี ฤทธิ์ต้านการอักเสบในรูปแบบการทาภายนอก และยังพบว่าสารสกัดเอธานอลมีฤทธิ์ต้านการอักเสบเมื่อให้โดยป้อนทางปาก ด้วย ผลการทดลองนี้ แสดงถึงฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของสารสกัดจากผลมะแว้งเครือ ซึ่งสนับสนุนการศึกษาทางคลินิกเพื่อ นำไปใช้ในการรักษาอาการอักเสบต่อไป
บทคัดย่อ (EN): s ear. Pretreatment with either one of the three extracts mentioned above (0.5, 1 and 2 mg/ear) two hours before EPP application prevented ear edema in a dose-dependent manner. The ear edema was also significantly suppressed in a dose dependent manner (P<0.01) when the extract (0.5, 1 and 2 mg/ear for the aqueous and the ethanolic extract and 0.25, 0.5 and 1 mg/ear for the partially purified extract) was applied one hour after EPP application. Both the preventive and curative effects of the extracts lasted throughout the observation period (four hours) and were comparable to the results obtained with the reference antiinflammatory drug (dexamethasone, 0.05 mg/ear). Two peritoneal inflammatory models, i.e. acetic acid-induced vascular permeability and carrageenan-induced leukocyte migration, were selected for the testing of internal antiinflammatory activity of the extracts. Oral administration of the ethanolic extract (200, 400 and 600 mg/kg) significantly exhibited an antiinflammatory effect (P<0.001) in both models. However, the extract at all the doses tested was less potent than the two reference antiinflammatory drugs (dexamethasone, 1 mg/kg and indomethacin, 10 mg/kg). The efficacy of the ethanolic extract (200, 400 and 600 mg/kg) in terms of an antipruritic activity against scratching behavior induced by histamine was similar to those of reference drugs (dexamethasone, 1 mg/kg and chlorpheniramine, 10 mg/kg). In conclusion, the aqueous, ethanolic and partially purified extracts of S. trilobatum fruits demonstrated an antiinflammatory activity when the extracts were applied topically. A positive result was also observed when the ethanolic extract was administered orally. The results of this study demonstrated clearly the pharmacological activity of S. trilobatum fruit extracts for further clinical study as an antiinflammatory agent
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=2938&obj_id=2687
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Leukocytes
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: Solanum trilobatum (L.) มีชื่อเรียกในภาษาไทยว่า มะแว้งเครือ เป็นพืชไม้เลื้อยอยู่ในวงศ์ Solanaceae การวิจัยนี้ ศึกษาฤทธิ์ต้านการอักเสบของสารสกัดจากผลมะแว้งเครือในหนูถีบจักร โดยนำผลมะแว้งเครือมาสกัดด้วยตัวทำละลายต่างๆ 3 ชนิด ได้แก่ สกัดด้วยน้ำ (สารสกัดน้ำ) สกัดด้วยเอธานอล 95% (สารสกัดเอธานอล) และสกัดด้วยเอธานอล 95%ผสมกรด ไฮโดรคลอริกในอัตราส่วน10:1 (สารสกัดกึ่งบริสุทธิ์) แล้วนำสารสกัดทั้งสามชนิดมาทดสอบฤทธิ์ต้านอักเสบในหนูถีบจักรโดย ใช้โมเดลที่เหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบทั้งแบบเฉพาะที่ภายนอกและแบบที่เกิดการอักเสบในช่องท้อง รวมทั้งศึกษาฤทธิ์ต้าน อาการคันด้วย การศึกษาในโมเดลแบบเฉพาะที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิภาพของสารสกัดจากผลมะแว้งเครือทั้งในการป้องกัน และการรักษาอาการบวมของใบหูหนูถีบจักรที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบโดยการทาสาร ethyl-phenylpropiolate (EPP) และสารทดสอบบริเวณใบหูของหนูถีบจักรด้านในและด้านนอก ซึ่งศึกษาฤทธิ์ป้องกันโดยทาสารสกัดจากผลมะแว้ง เครือก่อนเป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้วเหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบด้วย EPP พบว่าสารสกัดทั้ง 3 ชนิด ขนาด 0.5, 1 และ 2 มก/หู สามารถป้องกันการบวมของใบหูของหนูถีบจักรโดยแปรผันตรงตามความเข้มข้นของสารสกัด สำหรับการทดสอบฤทธิ์ในการ รักษาการอักเสบศึกษาในหนูถีบจักรเช่นกัน โดยเหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบของใบหูด้วยการทา EPP เป็นเวลา 1 ชั่วโมงก่อน แล้วทดสอบฤทธิ์ของสารสกัดน้ำและสารสกัดเอธานอล ขนาด 0.5, 1 และ 2 มก/หู และสารสกัดกึ่งบริสุทธิ์ ขนาด 0.25, 0.5 และ 1 มก/หู พบว่าสารสกัดทั้ง 3 ชนิด สามารถลดการบวมของใบหูของหนูถีบจักรได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

Wanthanee Hanchang. "ฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอาการคันของสารสกัดจากผลมะแว้งเครือAntiinflammatory and antipruritic effects of Solanum trilobatum L. fruit extracts". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2549

Wanthanee Hanchang. "ฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอาการคันของสารสกัดจากผลมะแว้งเครือAntiinflammatory and antipruritic effects of Solanum trilobatum L. fruit extracts". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2549. Print.



TARR Wordcloud:
ฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอาการคันของสารสกัดจากผลมะแว้งเครือ
Wanthanee Hanchang
มหาวิทยาลัยมหิดล
2549
ฤทธิ์ต้านออกซิเดชันของสารสกัดจากข้าวเหนียวดำ ฤทธิ์ระงับปวด ต้านการอักเสบและความเป็นพิษเฉียบพลันของสารสกัดจากเหง้าขิงแดง ฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อไวรัสก่อโรคเริม ต้านอนุมูลอิสระและต้านมะเร็งของสารสกัดสมุนไพรบางชนิด ฤทธิ์ระงับอาการอักเสบของสารที่พบในไพล ฤทธิ์ต้านการอักเสบและผลต่อหลอดเลือดของสารสกัดเมธานอลจากต้นเพชรสังฆาต (Cissus quadrangularis Linn.) ฤทธิ์ต้านออกซิเดชัน และการเตรียมอนุภาคนาโนของสารสกัดดอกทองกวาว การพัฒนาเจลทาภายนอกต้านอักเสบจากสารสกัดใบหูกวาง โมเลกุลาร์โมเดลลิ่งของอนุพันธ์โครโมนในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านมะเร็ง และสารต้านเอนไซม์ เอเวียนไมอีโลบลาสโ ฤทธิ์ต้านการเกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็งของสารสกัดน้ำจากใบมะรุม ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดมะเกี๋ยง และผลต่อการเกิดมะเร็งตับหลายขั้นตอนที่เหนี่ยวนำด้วยสารเคมีในหนูขาว
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair