สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาพันธุ์ทานตะวันเพื่อทนทานต่อสภาพแห้งแล้งและดินเค็ม
นงลักษณ์ เทียนเสรี - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาพันธุ์ทานตะวันเพื่อทนทานต่อสภาพแห้งแล้งและดินเค็ม
ชื่อเรื่อง (EN): Development of sunflower for drought and salt tolerance
บทคัดย่อ: สภาวะแล้งหรือปัญหาดินเค็มเป็นปัญหาสำคัญที่มีผลต่อการผลิตทานตะวันในหลายพื้นที่ของโลกและพื้นที่เขตน้ำฝนของประเทศไทย การปรับปรุงพันธุ์ทานตะวันให้ทนต่อสภาวะดังกล่าวจึงเป็นแนวทางหนึ่งในการลดผลกระทบดังกล่าว การวิจัยจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกพันธุ์ทานตะวันที่ทนต่อสภาวะแล้งและดินเค็ม และเพื่อพัฒนาหรือปรับปรุงพันธุ์ทานตะวันที่ให้ผลผลิตสูง มีลักษณะทนแล้งและทนดินเค็มดีขึ้น แบ่งการทดลองเป็น 2 ขั้นตอนหลัก คือ การทดสอบและคัดเลือกทานตะวันความทนแล้งและความทนเค็มในสภาพเรือนทดลอง และการสร้างประชากรเพื่อคัดเลือกและปรับปรุงลักษณะความทนแล้งและทนเค็ม แบ่งการทดลองเป็น 2 ขั้นตอนหลัก คือ การทดสอบและคัดเลือกทานตะวันความทนแล้งและความทนเค็มในสภาพเรือนทดลอง และการสร้างประชากรเพื่อคัดเลือกและปรับปรุงลักษณะความทนแล้งและทนเค็ม ดำเนินการวิจัย 3 ปี ซึ่งการวิจัยในปีที่ 1 เป็นการทดสอบและการคัดเลือกลักษณะทนแล้งและทนเค็มโดยปลูกด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์และปลูกทดสอบในกระถาง จากการใช้พันธุ์ลูกผสมการค้าเป็นตัวแทนในการศึกษาเทคนิคการคัดเลือกเหมาะสมสำหรับใช้ในโครงการต่อไป การคัดเลือกโดยปลูกในระบบไฮโดรโปนิกส์ และใช้ polyethylene glycol (PEG-6000) เพื่อชักนำให้เกิดสภาวะขาดน้ำแก่พืช ควรใช้ระดับความเข้มข้นของ PEG 17 % เมื่อพิจารณาจาก ค่า semi-lethal concentration (LC50), Electrolyte relative permeability (ERP), Relative water content (RWC) น้ำหนักแห้ง พื้นที่ใบ และ ความยาวลำต้น โดยที่ RWC จะลดลงตามระดับความเข้มข้นของ PEG ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ลักษณะอื่น ๆ มีแนวโน้มลดลง ส่วนเทคนิคการทดสอบความทนแล้งในกระถางโดยจัดสภาพขาดน้ำให้กับพืช พบว่า ทานตะวันทุกพันธุ์ที่ทดสอบมีแนวโน้มให้น้ำหนักแห้ง ความยาวลำต้น พื้นที่ใบลดลงเมื่อขาดน้ำ2 และ 4 วันต่อเนื่อง แต่ระดับการขาดน้ำที่ทดลองยังไม่สามารถใช้แยกความแตกต่างระหว่างพันธุ์ในลักษณะทนแล้งได้ชัดเจนเพราะความไม่สม่ำเสมอของความชื้นดินและการเจริญเติบโตของต้นกล้า สำหรับการทดสอบความทนเค็มของทานตะ- วันในกระถางโดยการเติม NaCl ปริมาณ 0 7.5 15 21.5 และ 30 กรัมของน้ำหนักดิน ลงในดินปลูกระยะ V4 พบว่า พันธุ์ COMM3, COMM4 และ COMM5 มีแนวโน้มทนสภาพดินเค็มได้ดีกว่าพันธุ์ทดสอบอื่น ๆ โดยที่ระดับความเค็มหรือเติมเกลือ 30 กรัม (12 dS/m) มีผลทำให้ผลผลิตเมล็ดดีลดลงประมาณ 60 % เปรียบเทียบกับการไม่เติมเกลือ ระดับความเค็มที่เพิ่มขึ้นมีผลทำให้ขนาดจานดอก น้ำหนักเมล็ดต่อดอกลดลง แต่ไม่มีผลต่อจำนวนเมล็ดดีต่อดอก ขณะที่ค่าการนำไฟฟ้าและอัตราส่วนการดูดซับโซเดียมของดินเพิ่มขึ้น การจำแนกสายพันธุ์/พันธุ์ที่ลักษณะทนเค็มออกจากพันธุ์ที่ไม่ทนทานได้ชัดเจน ควรใส่เกลือ NaCl ในดินอย่างน้อย 30 กรัมต่อดิน 15 กิโลกรัม ขณะที่การคัดเลือกพันธุ์ทนเค็มในระบบไฮโดรพอนิกส์ พบว่า ระดับความเข้มข้นของเกลือที่เหมาะสมสำหรับคัดเลือกทานตะวันทนเค็มในระยะกล้าคือ คือ 16 dS/m เมื่อพิจารณาจาก ERP และคะแนนความเสียหายของต้นกล้า การวิจัยในปีที่ 2 เปรียบเทียบทานตะวัน 43 สายพันธุ์ จาก 3 แหล่งกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสายพันธุ์ที่นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา กลุ่มที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์ภายในประเทศไทย และกลุ่มพันธุ์ลูกผสมทางการค้า วางแผนการทดลองแบบ RCBD 3 ซ้ำโดยเพาะเลี้ยงในระบบไฮโดรโปนิกส์ ด้วยสารอาหารสูตร Enshi (2.4 dS/m) จัดให้อยู่ในสภาพขาดน้ำด้วยด้วยการเติมสาร Polyethylene glycol (PEG) 20 เปอร์เซ็นต์ นาน 96 ชั่วโมง จากนั้นย้ายลงสารละลายอาหารตามปกติ นาน 72 ชั่วโมง เมื่อพืชอายุ 4 สัปดาห์ เปรียบเทียบกับพืชที่ได้รับนน้ำปกติ ประเมินความทนแล้งด้วยดัชนี Stress tolerance index(STI ปริมาณน้ำในใบสัมพัทธ์ (relative water content, RWC) ความทนทานของเซลล์เมมเบรน (electrolyte relative permeability, ERP) ในลักษณะขนาดของลำต้น ความสูงของต้น ความยาวของราก จำนวนใบ พื้นที่ใบ น้ำหนักแห้งของราก ลำต้น ใบ และยอด พบว่า สามารถคัดเลือกเชื้อพันธุกรรมทานตะวันที่มีแนวโน้มทนแล้งจำนวน 10 พันธุ์ (ไม่รวมพันธุ์ลูกผสมทางการค้า) ได้แก่ คือ หันตรา ท่าพระ แม่สาย PI420138 PI539905 B-Sin-82 B-FSS-88 HA291 HA277 และ HA851 โดยใช้พันธุ์เปรียบเทียบ คือ พันธุ์ PI539890 ผสมข้ามระหว่างพันธุ์ที่คัดเลือกแบบพบกันหมด การวิจัยในปีที่ 3 สร้างประชากร S1 families เพื่อคัดเลือกและปรับปรุงลักษณะทนต่อสภาพขาดน้ำต่อเนื่องจากปีที่ 2 โดยการผสมระหว่างพันธุ์ที่ผ่านการคัดเลือกและคัดเลือก และพัฒนาสายพันธุ์แท้โดยการผสมตัวเอง สภาวะแล้งหรือปัญหาดินเค็มเป็นปัญหาสำคัญที่มีผลต่อการผลิตทานตะวันในหลายพื้นที่ของโลกและพื้นที่เขตน้ำฝนของประเทศไทย การปรับปรุงพันธุ์ทานตะวันให้ทนต่อสภาวะดังกล่าวจึงเป็นแนวทางหนึ่งในการลดผลกระทบดังกล่าว การวิจัยจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกพันธุ์ทานตะวันที่ทนต่อสภาวะแล้งและดินเค็ม และเพื่อพัฒนาหรือปรับปรุงพันธุ์ทานตะวันที่ให้ผลผลิตสูง มีลักษณะทนแล้งและทนดินเค็มดีขึ้น แบ่งการทดลองเป็น 2 ขั้นตอนหลัก คือ การทดสอบและคัดเลือกทานตะวันความทนแล้งและความทนเค็มในสภาพเรือนทดลอง และการสร้างประชากรเพื่อคัดเลือกและปรับปรุงลักษณะความทนแล้งและทนเค็ม แบ่งการทดลองเป็น 2 ขั้นตอนหลัก คือ การทดสอบและคัดเลือกทานตะวันความทนแล้งและความทนเค็มในสภาพเรือนทดลอง และการสร้างประชากรเพื่อคัดเลือกและปรับปรุงลักษณะความทนแล้งและทนเค็ม ดำเนินการวิจัย 3 ปี ซึ่งการวิจัยในปีที่ 1 เป็นการทดสอบและการคัดเลือกลักษณะทนแล้งและทนเค็มโดยปลูกด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์และปลูกทดสอบในกระถาง จากการใช้พันธุ์ลูกผสมการค้าเป็นตัวแทนในการศึกษาเทคนิคการคัดเลือกเหมาะสมสำหรับใช้ในโครงการต่อไป การคัดเลือกโดยปลูกในระบบไฮโดรโปนิกส์ และใช้ polyethylene glycol (PEG-6000) เพื่อชักนำให้เกิดสภาวะขาดน้ำแก่พืช ควรใช้ระดับความเข้มข้นของ PEG 17 % เมื่อพิจารณาจาก ค่า semi-lethal concentration (LC50), Electrolyte relative permeability (ERP), Relative water content (RWC) น้ำหนักแห้ง พื้นที่ใบ และ ความยาวลำต้น โดยที่ RWC จะลดลงตามระดับความเข้มข้นของ PEG ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ลักษณะอื่น ๆ มีแนวโน้มลดลง ส่วนเทคนิคการทดสอบความทนแล้งในกระถางโดยจัดสภาพขาดน้ำให้กับพืช พบว่า ทานตะวันทุกพันธุ์ที่ทดสอบมีแนวโน้มให้น้ำหนักแห้ง ความยาวลำต้น พื้นที่ใบลดลงเมื่อขาดน้ำ2 และ 4 วันต่อเนื่อง แต่ระดับการขาดน้ำที่ทดลองยังไม่สามารถใช้แยกความแตกต่างระหว่างพันธุ์ในลักษณะทนแล้งได้ชัดเจนเพราะความไม่สม่ำเสมอของความชื้นดินและการเจริญเติบโตของต้นกล้า สำหรับการทดสอบความทนเค็มของทานตะ- วันในกระถางโดยการเติม NaCl ปริมาณ 0 7.5 15 21.5 และ 30 กรัมของน้ำหนักดิน ลงในดินปลูกระยะ V4 พบว่า พันธุ์ COMM3, COMM4 และ COMM5 มีแนวโน้มทนสภาพดินเค็มได้ดีกว่าพันธุ์ทดสอบอื่น ๆ โดยที่ระดับความเค็มหรือเติมเกลือ 30 กรัม (12 dS/m) มีผลทำให้ผลผลิตเมล็ดดีลดลงประมาณ 60 % เปรียบเทียบกับการไม่เติมเกลือ ระดับความเค็มที่เพิ่มขึ้นมีผลทำให้ขนาดจานดอก น้ำหนักเมล็ดต่อดอกลดลง แต่ไม่มีผลต่อจำนวนเมล็ดดีต่อดอก ขณะที่ค่าการนำไฟฟ้าและอัตราส่วนการดูดซับโซเดียมของดินเพิ่มขึ้น การจำแนกสายพันธุ์/พันธุ์ที่ลักษณะทนเค็มออกจากพันธุ์ที่ไม่ทนทานได้ชัดเจน ควรใส่เกลือ NaCl ในดินอย่างน้อย 30 กรัมต่อดิน 15 กิโลกรัม ขณะที่การคัดเลือกพันธุ์ทนเค็มในระบบไฮโดรพอนิกส์ พบว่า ระดับความเข้มข้นของเกลือที่เหมาะสมสำหรับคัดเลือกทานตะวันทนเค็มในระยะกล้าคือ คือ 16 dS/m เมื่อพิจารณาจาก ERP และคะแนนความเสียหายของต้นกล้า การวิจัยในปีที่ 2 เปรียบเทียบทานตะวัน 43 สายพันธุ์ จาก 3 แหล่งกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสายพันธุ์ที่นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา กลุ่มที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์ภายในประเทศไทย และกลุ่มพันธุ์ลูกผสมทางการค้า วางแผนการทดลองแบบ RCBD 3 ซ้ำโดยเพาะเลี้ยงในระบบไฮโดรโปนิกส์ ด้วยสารอาหารสูตร Enshi (2.4 dS/m) จัดให้อยู่ในสภาพขาดน้ำด้วยด้วยการเติมสาร Polyethylene glycol (PEG) 20 เปอร์เซ็นต์ นาน 96 ชั่วโมง จากนั้นย้ายลงสารละลายอาหารตามปกติ นาน 72 ชั่วโมง เมื่อพืชอายุ 4 สัปดาห์ เปรียบเทียบกับพืชที่ได้รับนน้ำปกติ ประเมินความทนแล้งด้วยดัชนี Stress tolerance index(STI ปริมาณน้ำในใบสัมพัทธ์ (relative water content, RWC) ความทนทานของเซลล์เมมเบรน (electrolyte relative permeability, ERP) ในลักษณะขนาดของลำต้น ความสูงของต้น ความยาวของราก จำนวนใบ พื้นที่ใบ น้ำหนักแห้งของราก ลำต้น ใบ และยอด พบว่า สามารถคัดเลือกเชื้อพันธุกรรมทานตะวันที่มีแนวโน้มทนแล้งจำนวน 10 พันธุ์ (ไม่รวมพันธุ์ลูกผสมทางการค้า) ได้แก่ คือ หันตรา ท่าพระ แม่สาย PI420138 PI539905 B-Sin-82 B-FSS-88 HA291 HA277 และ HA851 โดยใช้พันธุ์เปรียบเทียบ คือ พันธุ์ PI539890 ผสมข้ามระหว่างพันธุ์ที่คัดเลือกแบบพบกันหมด การวิจัยในปีที่ 3 สร้างประชากร S1 families เพื่อคัดเลือกและปรับปรุงลักษณะทนต่อสภาพขาดน้ำต่อเนื่องจากปีที่ 2 โดยการผสมระหว่างพันธุ์ที่ผ่านการคัดเลือกและคัดเลือก และพัฒนาสายพันธุ์แท้โดยการผสมตัวเอง
บทคัดย่อ (EN): Drought and salinity are of important factors affecting yield of sunflower grown in several region of the world and the rainfed areas of Thailand. Sunflower breeding for tolerant to drought and salinity is an alternative to relieve these problem. Objectives of this project were to screen sunflower germplasm and to develop or improve sunflower for drought and salt tolerance. The experiments were divided to two main parts: testing and screening sunflower germplasm for drought and salt tolerance under greenhouse condition and develop a new population for further selection and improvement of drought and salt tolerance. During the first year of this project, testing and screening for drought and salt tolerance under hydroponic system and pot experiments were conducted. The commercial sunflower hybrids were used for finding the suitable screening techniques for further use in this experiment. The suitable screening techniques at seedling stage of sunflower for drought tolerance under hydroponic system were obtained. Polyethylene glycol (PEG-6000), an osmoticum to induce water deficit of plants grown under hydroponic system, should added at the concentration of 17 % (w/v), according to LC50 value, ERP, RWC, dry weight, leaf area and stem length. The RWC gradually decreased as the PEG concentration increased but the other traits tended to be decreased. The screening technique under pot experiment was shown that dry weight, stem length, leaf area tended to decrease after plants continuously experienced to water-stress for 2 and 4 days. However, levels of water stress used under this experiment were not sufficient for clearly identifying the tolerant genotypes because of non- homogeneity of soil moisture and seedling growth. The screening method for salt tolerance with the pot experiment for testing salting tolerance was also conducted by adding the salt at 0, 7.5, 15, 21.5 and 30 g of soil weight to each pot at V4 stage. It indicated that COMM3, COMM4 and COMM5 tended to be highly tolerant to soil salinity relative to other varieites. It also showed that the NaCl content of 30 g / 15 kg of soil weight should be used for testing salt tolerance under pot experiment. Moreover, the concentration of 16 dS/m should be used for screening Nacl tolerance of sunflower germplasm under hydroponic system, according to ERP and seedling symptom. During the second year of this project, 10 accessions (excluding commercial varieties) ; Huntra Thapra Maesai PI420138 PI539905 B-Sin-82 B-FSS-88 HA291 HA277 and HA851, were selecting according to their STI under hydroponic system added with PEG-6000 17%. The S1 families population generated from the drought tolerance lines. During the third year of this project, the S1- families population were generated from the selected water-stress tolerant lines and repeat selection for two cycle. The selfed lines of each sing crosses was also developed from this study. Drought and salinity are of important factors affecting yield of sunflower grown in several region of the world and the rainfed areas of Thailand. Sunflower breeding for tolerant to drought and salinity is an alternative to relieve these problem. Objectives of this project were to screen sunflower germplasm and to develop or improve sunflower for drought and salt tolerance. The experiments were divided to two main parts: testing and screening sunflower germplasm for drought and salt tolerance under greenhouse condition and develop a new population for further selection and improvement of drought and salt tolerance. During the first year of this project, testing and screening for drought and salt tolerance under hydroponic system and pot experiments were conducted. The commercial sunflower hybrids were used for finding the suitable screening techniques for further use in this experiment. The suitable screening techniques at seedling stage of sunflower for drought tolerance under hydroponic system were obtained. Polyethylene glycol (PEG-6000), an osmoticum to induce water deficit of plants grown under hydroponic system, should added at the concentration of 17 % (w/v), according to LC50 value, ERP, RWC, dry weight, leaf area and stem length. The RWC gradually decreased as the PEG concentration increased but the other traits tended to be decreased. The screening technique under pot experiment was shown that dry weight, stem length, leaf area tended to decrease after plants continuously experienced to water-stress for 2 and 4 days. However, levels of water stress used under this experiment were not sufficient for clearly identifying the tolerant genotypes because of non- homogeneity of soil moisture and seedling growth. The screening method for salt tolerance with the pot experiment for testing salting tolerance was also conducted by adding the salt at 0, 7.5, 15, 21.5 and 30 g of soil weight to each pot at V4 stage. It indicated that COMM3, COMM4 and COMM5 tended to be highly tolerant to soil salinity relative to other varieites. It also showed that the NaCl content of 30 g / 15 kg of soil weight should be used for testing salt tolerance under pot experiment. Moreover, the concentration of 16 dS/m should be used for screening Nacl tolerance of sunflower germplasm under hydroponic system, according to ERP and seedling symptom. During the second year of this project, 10 accessions (excluding commercial varieties) ; Huntra Thapra Maesai PI420138 PI539905 B-Sin-82 B-FSS-88 HA291 HA277 and HA851, were selecting according to their STI under hydroponic system added with PEG-6000 17%. The S1 families population generated from the drought tolerance lines. During the third year of this project, the S1- families population were generated from the selected water-stress tolerant lines and repeat selection for two cycle. The selfed lines of each sing crosses was also developed from this study.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: ความทนเค็ม
คำสำคัญ (EN): salt tolerance
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนาพันธุ์ทานตะวันเพื่อทนทานต่อสภาพแห้งแล้งและดินเค็ม
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2553
การปรับปรุงพันธุ์ทานตะวันเพื่อใช้บริโภคเมล็ดและผลิตทานตะวันต้นอ่อน การพัฒนาการปลูกทานตะวัน โครงการวิจัยพัฒนาเครื่องเกี่ยวนวดทานตะวัน การส่งเสริมการปลูกทานตะวันของประเทศไทย โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตทานตะวัน โครงการปรับปรุงพันธุ์ทานตะวัน โครงการวิจัยการปรับปรุงพันธุ์ทานตะวัน ชุดโครงการการปรับปรุงพันธุ์ทานตะวันเพื่อการค้า การผลิตน้ำมันทานตะวันในระดับโรงงาน โครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตทานตะวัน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก