สืบค้นงานวิจัย
การวิจัยและพัฒนาการผลิตสุรากลั่นชุมชน
สัมฤทธิ์ ประวิทย์ธนา - มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
ชื่อเรื่อง: การวิจัยและพัฒนาการผลิตสุรากลั่นชุมชน
ชื่อเรื่อง (EN): Research and development of community distilled liquor production
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สัมฤทธิ์ ประวิทย์ธนา
บทคัดย่อ: เก็บตัวอย่างลูกแป้ง 34 ตัวอย่าง ยีสต์สด 1 ตัวอย่าง และยิสต์แห้ง 2 ตัวอย่าง จาก จังหวัดต่าง ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เมื่อนำลูกแป้งมาคัดแยกเชื้อรากลุ่ม Phycomycetes พบว่าสามารถคัดแยกเชื้อราดังกล่าวได้ 49 ไอโซเลต โดยเชื้อรา 5 ไอโซเลต ที่ได้จากแป้ง 5 ตัวอย่างรหัส เรณูนคร บุญฑริก อ่างศิลา รัตนสิน และเหล่ากา สามารถย่อยแป้งได้สูงและไม่ผลิตสารพิษอะฟลาทอกซิน เมื่อเปรียบเทียบการหมักแอลกอฮอล์ของลูกแป้ง 5 ตัวอย่าง ยีสต์สดและยีสต์แห้ง 3 ตัวอย่าง โดยใช้ลูกแป้งหมักสาโทและน้ำหมัก ส่วนยีสต์ใช้หมักน้ำหมัก พบว่าลูกแป้งรหัสบุญฑริกให้แอลกอฮอล์ในสาโทสูงที่สุดและลูกแป้งรหัสเรณุนครให้แอลกอฮอล์ในน้ำหมักสูงที่สุด วัดได้ 13.8 และ 10.0 ดีกรี ร้อยละโดยปริมาณ ตามลำดับ การศึกษาการหมัก น้ำส่าจากข้าวเหนียวโดยใช้ลูกแป้ง ลูกแป้งผสมเชื้อบริสุทธิ์ และเชื้อบริสุทธิ์ พบว่าการใช้ลูกแป้งเพียงอย่างเดียวให้แอลกอฮอล์ในน้ำส่าสูงสุดวัดได้ 13.6 ดีกรีต่อร้อยละโดยปริมาตร เมื่อศึกษาการขยายขนาดการผลิตน้ำส่าเป็น 80 ลิตร 2 วิธีการ คือ ใช้ข้าวเหนียวผสมมันห้านาที และข้าวเหนียวผสมมันเทศ โดยใช้ลูกแป้งรหัสบุญฑริกร่วมกับลูกแป้งรหัสรัตนสิน พบง่าน้ำส่ามีแอลกอฮอล์ 12.2 และ 10.8 ดีกรีต่อร้อยละโดยปริมาตร ตามลำดับ จากนั้นใช้สารละลายน้ำตาลทรายแดง 25 บริกซ์ ที่ปรับด้วย DAP ร้อยละ 0.05 ผ่ากากส่าทั้งสองวิธีการเป็นซ้ำที่ 1 และ 2 ทำการหมักต่ออีกซ้ำละ 7 วัน พบว่าน้ำส่าซ้ำที่ 1 มีแอลกอฮอล์ 13.3 และ 12.8 ดีกรี ต่อร้อยละโดยปริมาตร ตามลำดับ น้ำส่าซ้ำที่ 2 มีแอลกอฮอล์ 14.1 และ 10.5 ดีกรีต่อร้อยละโดยปริมาตร ตามลำดับ การศึกษาชนิดละวิธีเตรียมน้ำตาลที่เหมาะสมในการหมักน้ำส่า 5 วิธีการ โดยหมักด้วยยีสต์รหัสเรณูนคร พบว่าการใช้น้ำอ้อยสดให้น้ำส่าที่มีปริมาตรแอลกอฮอล์สูงที่สุด รองลงมาคือน้ำตาลน้ำอ้อย กากน้ำตาล กากน้ำตาลผสมน้ำตาลทรายแดง และกากน้ำตาลปรับพีเอช โดยวัดได้ 11.4ม 10.3ม 10.0ม 10.0 และ 9.7 ดีกรีต่อร้อยละโดยปริมาตร ตามลำดับ เมื่อทำการกลั่นสุราจากน้ำส่าทุกวิธีการโดยคุมอุณหภูมิในการกลั่นไม้ให้เกิน 90 องศาเซลเซียส บ่มสุราในขวดเป็นเวลา 3 เดือน ปรับปริมาณแอลกอฮอล์ให้เป็น 40 ดีกรีต่อร้อยละโดยปริมาตร ตรวจวิเคราะห์คุณภาพทางเคมี พบว่าสุรากลั่นทุกตัวอย่างมีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ข้อกำหนดมาตรฐานสุรากลั่นชุมชนของกรมสรรพสามิตทุกรายการ การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อถ่ายทอดกระบวนการผลิตสุรากลั่นชุมชนแก่กลุ่มผู้ประกอบการรวมทั้งสิ้นจำนวน 4 ครั้ง จำนวน 56 คน ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างคลินิกเทคโนโลยีและแปรอกรมวิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี กับสรรพสามิตพื้นที่ อุบลราชธาน Thirty threesamples of Lookpang and three samples of yeast were collected from North east of Thailand. The Phycomycetes molds were isolated from Lookpang and 49 isolated of them could be found. Five isolated that came from five samples of Lookpang which the code were Renunacom, Boontharick, Oangsila, Rattanasin and Laoka could got high starch hydrolysis and aflatoxin non producing property. Alcohol producing property of five sample of Lookpang and three samples of yeasts were comparative by Sato and broth fermrntation in Lookpang and broth fermentation in yeasts, it was found that the Boontharick code of Lookpang gave the highest alcohol production in Sato fermentation and Renunacorn code of Lookpang gave the highest alcohol roduction in broth fermentation which were 13.8 and 10.0 degree by volume percentage, respectively. The alcohol production from sticky rice by the use of Lookpang, Lookpang mixed with pure culture of mold and peast and pure culture of mold and peast as inoculum were studued. The result revealed that use of only Lookpang gave the highest alcohol production that was 13.6 degree by volume percentage. When 2 treatment, the use of sticky rice mixed with cassava and sticky rice mixed with sweet potato were studied for the scale-up of broth fer,ention into 80 liters by using Boontharick and Rattanasin code of Lookpangs as inoculum, 12.2 and 1.8 degree by volume percrentage of alcohol production from the broth were found, respectively. Then, the use of 25 brix of brown sugar solution with 0.05 % fo DAP mixing were filled to those 2 treatment after the fermented broth were took of , in order to refementation once and twice again at 7 days per once. It was show that the once of fermented broth gave 13.3 and 12.8 degree by volume percentage, respectively, and the twice of fermented broth gave 14.1 and 10.5 degree by volume percentage, respectively. The use of namy kind of sugar to prepare the broth for alcohol fermentation were varied with using Lenunacorn code of yeast as inoculum. From high to low alcohol production were the use of sugar-cane juice squeeze, sugar-cane juice resuspension, molasses, molasses mixed with brown sugar and pH adjusting molasses which were 11.4, 10.3, 10.0, 10.0 and 9.7 degree by volume percentage, respectively. When all of fermrnted broths were distilled at not higher than 90 C of temperature Control, 3 month of aging in bottle, adjust to 40 degree by volume percentage than were Analyzed for 10 item of chemical quality specification from excise Department, the results revealed that every item were pass. The cooperation of Ubon Ratchathani Rajabhat University and Ubon Ratchathani excise to carry on the technology transfer about the processing of community distilled liquor workshop were took 4 times for 56 persons who were production owner at the rural area, under the the fund from Technological clinic of Ubon Ratchathani Rajabhat University .
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://www.lib.ubru.ac.th/thesis/Kasinee_2547/title.pdf
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
คำสำคัญ: 663.5 ผ191
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
รายละเอียด: เก็บตัวอย่างลูกแป้ง 34 ตัวอย่าง ยีสต์สด 1 ตัวอย่าง และยิสต์แห้ง 2 ตัวอย่าง จาก จังหวัดต่าง ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เมื่อนำลูกแป้งมาคัดแยกเชื้อรากลุ่ม Phycomycetes พบว่าสามารถคัดแยกเชื้อราดังกล่าวได้ 49 ไอโซเลต โดยเชื้อรา 5 ไอโซเลต ที่ได้จากแป้ง 5 ตัวอย่างรหัส เรณูนคร บุญฑริก อ่างศิลา รัตนสิน และเหล่ากา สามารถย่อยแป้งได้สูงและไม่ผลิตสารพิษอะฟลาทอกซิน เมื่อเปรียบเทียบการหมักแอลกอฮอล์ของลูกแป้ง 5 ตัวอย่าง ยีสต์สดและยีสต์แห้ง 3 ตัวอย่าง โดยใช้ลูกแป้งหมักสาโทและน้ำหมัก ส่วนยีสต์ใช้หมักน้ำหมัก พบว่าลูกแป้งรหัสบุญฑริกให้แอลกอฮอล์ในสาโทสูงที่สุดและลูกแป้งรหัสเรณุนครให้แอลกอฮอล์ในน้ำหมักสูงที่สุด วัดได้ 13.8 และ 10.0 ดีกรี ร้อยละโดยปริมาณ ตามลำดับ การศึกษาการหมัก น้ำส่าจากข้าวเหนียวโดยใช้ลูกแป้ง ลูกแป้งผสมเชื้อบริสุทธิ์ และเชื้อบริสุทธิ์ พบว่าการใช้ลูกแป้งเพียงอย่างเดียวให้แอลกอฮอล์ในน้ำส่าสูงสุดวัดได้ 13.6 ดีกรีต่อร้อยละโดยปริมาตร เมื่อศึกษาการขยายขนาดการผลิตน้ำส่าเป็น 80 ลิตร 2 วิธีการ คือ ใช้ข้าวเหนียวผสมมันห้านาที และข้าวเหนียวผสมมันเทศ โดยใช้ลูกแป้งรหัสบุญฑริกร่วมกับลูกแป้งรหัสรัตนสิน พบง่าน้ำส่ามีแอลกอฮอล์ 12.2 และ 10.8 ดีกรีต่อร้อยละโดยปริมาตร ตามลำดับ จากนั้นใช้สารละลายน้ำตาลทรายแดง 25 บริกซ์ ที่ปรับด้วย DAP ร้อยละ 0.05 ผ่ากากส่าทั้งสองวิธีการเป็นซ้ำที่ 1 และ 2 ทำการหมักต่ออีกซ้ำละ 7 วัน พบว่าน้ำส่าซ้ำที่ 1 มีแอลกอฮอล์ 13.3 และ 12.8 ดีกรี ต่อร้อยละโดยปริมาตร ตามลำดับ น้ำส่าซ้ำที่ 2 มีแอลกอฮอล์ 14.1 และ 10.5 ดีกรีต่อร้อยละโดยปริมาตร ตามลำดับ การศึกษาชนิดละวิธีเตรียมน้ำตาลที่เหมาะสมในการหมักน้ำส่า 5 วิธีการ โดยหมักด้วยยีสต์รหัสเรณูนคร พบว่าการใช้น้ำอ้อยสดให้น้ำส่าที่มีปริมาตรแอลกอฮอล์สูงที่สุด รองลงมาคือน้ำตาลน้ำอ้อย กากน้ำตาล กากน้ำตาลผสมน้ำตาลทรายแดง และกากน้ำตาลปรับพีเอช โดยวัดได้ 11.4ม 10.3ม 10.0ม 10.0 และ 9.7 ดีกรีต่อร้อยละโดยปริมาตร ตามลำดับ เมื่อทำการกลั่นสุราจากน้ำส่าทุกวิธีการโดยคุมอุณหภูมิในการกลั่นไม้ให้เกิน 90 องศาเซลเซียส บ่มสุราในขวดเป็นเวลา 3 เดือน ปรับปริมาณแอลกอฮอล์ให้เป็น 40 ดีกรีต่อร้อยละโดยปริมาตร ตรวจวิเคราะห์คุณภาพทางเคมี พบว่าสุรากลั่นทุกตัวอย่างมีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ข้อกำหนดมาตรฐานสุรากลั่นชุมชนของกรมสรรพสามิตทุกรายการ การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อถ่ายทอดกระบวนการผลิตสุรากลั่นชุมชนแก่กลุ่มผู้ประกอบการรวมทั้งสิ้นจำนวน 4 ครั้ง จำนวน 56 คน ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างคลินิกเทคโนโลยีและแปรอกรมวิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี กับสรรพสามิตพื้นที่ อุบลราชธาน Thirty threesamples of Lookpang and three samples of yeast were collected from North east of Thailand. The Phycomycetes molds were isolated from Lookpang and 49 isolated of them could be found. Five isolated that came from five samples of Lookpang which the code were Renunacom, Boontharick, Oangsila, Rattanasin and Laoka could got high starch hydrolysis and aflatoxin non producing property. Alcohol producing property of five sample of Lookpang and three samples of yeasts were comparative by Sato and broth fermrntation in Lookpang and broth fermentation in yeasts, it was found that the Boontharick code of Lookpang gave the highest alcohol production in Sato fermentation and Renunacorn code of Lookpang gave the highest alcohol roduction in broth fermentation which were 13.8 and 10.0 degree by volume percentage, respectively. The alcohol production from sticky rice by the use of Lookpang, Lookpang mixed with pure culture of mold and peast and pure culture of mold and peast as inoculum were studued. The result revealed that use of only Lookpang gave the highest alcohol production that was 13.6 degree by volume percentage. When 2 treatment, the use of sticky rice mixed with cassava and sticky rice mixed with sweet potato were studied for the scale-up of broth fer,ention into 80 liters by using Boontharick and Rattanasin code of Lookpangs as inoculum, 12.2 and 1.8 degree by volume percrentage of alcohol production from the broth were found, respectively. Then, the use of 25 brix of brown sugar solution with 0.05 % fo DAP mixing were filled to those 2 treatment after the fermented broth were took of , in order to refementation once and twice again at 7 days per once. It was show that the once of fermented broth gave 13.3 and 12.8 degree by volume percentage, respectively, and the twice of fermented broth gave 14.1 and 10.5 degree by volume percentage, respectively. The use of namy kind of sugar to prepare the broth for alcohol fermentation were varied with using Lenunacorn code of yeast as inoculum. From high to low alcohol production were the use of sugar-cane juice squeeze, sugar-cane juice resuspension, molasses, molasses mixed with brown sugar and pH adjusting molasses which were 11.4, 10.3, 10.0, 10.0 and 9.7 degree by volume percentage, respectively. When all of fermrnted broths were distilled at not higher than 90 C of temperature Control, 3 month of aging in bottle, adjust to 40 degree by volume percentage than were Analyzed for 10 item of chemical quality specification from excise Department, the results revealed that every item were pass. The cooperation of Ubon Ratchathani Rajabhat University and Ubon Ratchathani excise to carry on the technology transfer about the processing of community distilled liquor workshop were took 4 times for 56 persons who were production owner at the rural area, under the the fund from Technological clinic of Ubon Ratchathani Rajabhat University .
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

สัมฤทธิ์ ประวิทย์ธนา. "การวิจัยและพัฒนาการผลิตสุรากลั่นชุมชนResearch and development of community distilled liquor production". มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. 2547

สัมฤทธิ์ ประวิทย์ธนา. "การวิจัยและพัฒนาการผลิตสุรากลั่นชุมชนResearch and development of community distilled liquor production". มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. 2547. Print.



TARR Wordcloud:
การวิจัยและพัฒนาการผลิตสุรากลั่นชุมชน
สัมฤทธิ์ ประวิทย์ธนา
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
2547
การศึกษาและพัฒนาการจัดทำบัญชีของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนการผลิตประมงและเกษตรอินทรีย์ บนพื้นฐานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก กรณีศึกษา กลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด รายงานการวิจัยเรื่อง การวิจัยและพัฒนาการผลิตพืชผักปลอดภัยสารพิษ โครงการวิจัยเพื่อการสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ การกระบวนการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นแบบมีส่วนร่วมตามแนวเศรษฐกิจชุมชนของกลุ่มอาชีพ ในตำบลโคกโคเฒ่า อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี การวิเคราะห์ประสิทธิภาพการผลิตและปัจจัยที่ส่งผลต่อความไม่มีประสิทธิภาพการผลิตดอกเบญจมาศในจังหวัดเชียงใหม่ การพัฒนาแบบจำลองตลาดยางพารา : กรณีศึกษาชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางจันทบุรี ศึกษาวิจัยหัตถกรรมพื้นถิ่น : เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน งานวิจัยเรื่อง การศึกษาหาปริมาณตะกั่วในสุรากลั่นพื้นบ้าน รายงานการวิจัยการศึกษาผลของชนิดและระดับแป้งในสูตรการผลิตต่อ คุณภาพต่างๆ ของปลานิลยอเพื่อต้นทุนการผลิต รายงานวิจัยเรื่อง การศึกษาและพัฒนาการผลิตเครื่องสำอางสมุนไพรของกลุ่มบ้านเนินพัฒนา อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair