สืบค้นงานวิจัย
ศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรถ่านชีวภาพ(ไบโอชาร์) เพื่อลดการสูญเสียไนโตรเจนและเพิ่มผลผลิตผักคะน้า
ฎานุภา อยู่อุ่นพะเนา - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: ศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรถ่านชีวภาพ(ไบโอชาร์) เพื่อลดการสูญเสียไนโตรเจนและเพิ่มผลผลิตผักคะน้า
ชื่อเรื่อง (EN): Study on using biochar to impove compost for decreasing nitrogen and increasing kale productivity
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ฎานุภา อยู่อุ่นพะเนา
บทคัดย่อ: การศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรถ่านชีวภาพ (ไบโอชาร์) เพื่อลดการสูญเสียไนโตรเจน และเพิ่มผลผลิตผักคะน้า ดำเนินการในโรงเรือนทดลอง กองเทคโนโลยีชีวภาพทางดิน และพื้นที่เกษตรกรในตำบลดอนแร่ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 – 2559 เพื่อศึกษาการปลดปล่อยธาตุไนโตรเจนจากปุ๋ยอินทรีย์ถ่านชีวภาพในดินภายใต้สภาพโรงเรือน และภาคสนามในการปลูกคะน้า การเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติเคมี ฟิสิกส์ในดินจากการใช้ปุ๋ยอินทรีย์จากถ่านชีวภาพในการปลูกคะน้าภายใต้สภาพโรงเรือน และภาคสนาม โดยดำเนินการทดสอบการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดต่างๆ ร่วมกับถ่านชีวภาพ (ไบโอชาร์) จากผลการทดลองพบว่า ปุ๋ยอินทรีย์จากฟางข้าว ร่วมกับถ่านชีวภาพ (ไบโอชาร์) 2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีปริมาณไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม เท่ากับ 1.71 0.40 และ 2.27 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ และปุ๋ยอินทรีย์มูลสุกร ร่วมกับถ่านชีวภาพ (ไบโอชาร์) 4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีปริมาณไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม เท่ากับ 1.95 3.40 และ 0.21 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ มีผลการทดลองดังนี้ จากการวิเคราะห์คุณสมบัติทางเคมีในดินก่อนการทดสอบพบว่า ความเป็นกรดเป็นด่างในดิน (pH) เท่ากับ 7.8 และดินมีอินทรียวัตถุ เท่ากับ 1.27 เปอร์เซ็นต์ มีปริมาณไนโตรเจน เท่ากับ 735 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ 56.9 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม โพแทสเซียม แคลเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ เท่ากับ 63.0 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม จากการทดลองปลูกผักคะน้าภายใต้สภาพโรงเรือนได้วิเคราะห์สมบัติเคมีในดินหลังการทดลองพบว่า ดินมีปริมาณอินทรียวัตถุ และไนโตรเจนเพิ่มขึ้นจากการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ฟางข้าว ร่วมกับถ่านชีวภาพ (ไบโอชาร์) 2 เปอร์เซ็นต์ และการใช้ปุ๋ยอินทรีย์มูลสุกร ร่วมกับถ่านชีวภาพ (ไบโอชาร์) 4 เปอร์เซ็นต์ มีอินทรียวัตถุ และปริมาณไนโตรเจน เท่ากับ 1.89 1.56 เปอร์เซ็นต์ และ 793.33 781.67 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม มากกว่าการใช้ปุ๋ยเคมีตามความต้องการของคะน้า มีอินทรียวัตถุ เท่ากับ 1.22 เปอร์เซ็นต์ และไนโตรเจน เท่ากับ 560 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และการทดลองในภาคสนามพบว่า การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ฟางข้าวร่วมกับถ่านชีวภาพ(ไบโอชาร์) 2 เปอร์เซ็นต์ มีอินทรียวัตถุ 0.94 เปอร์เซ็นต์ และปริมาณไนโตรเจน เท่ากับ 473.33 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และการใช้ปุ๋ยอินทรีย์มูลสุกรร่วมกับถ่านชีวภาพ (ไบโอชาร์) 4 เปอร์เซ็นต์ มีอินทรียวัตถุ 0.95 เปอร์เซ็นต์ และปริมาณไนโตรเจน เท่ากับ 476.67 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เปรียบเทียบกับการใช้ปุ๋ยเคมี มีอินทรียวัตถุ 0.96 เปอร์เซ็นต์ และมีปริมาณไนโตรเจน เท่ากับ 478.33 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม สำหรับผลผลิตคะน้าในโรงเรือน จากการทดลองใช้ปุ๋ยอินทรีย์ฟางข้าวร่วมกับถ่านชีวภาพ (ไบโอชาร์) 2 เปอร์เซ็นต์ ให้ผลผลิต 11.61 กรัมต่อต้น และการใช้ปุ๋ยอินทรีย์มูลสุกรร่วมกับถ่านชีวภาพ (ไบโอชาร์) 4 เปอร์เซ็นต์ ให้ผลผลิต 12.75 กรัมต่อต้น ส่วนการทดลองในภาคสนามจากทดลองใช้ปุ๋ยอินทรีย์ฟางข้าวร่วมกับถ่านชีวภาพ (ไบโอชาร์) 2 เปอร์เซ็นต์ ให้ผลผลิต 4,800 กิโลกรัมต่อไร่ และการใช้ปุ๋ยอินทรีย์มูลสุกรร่วมกับถ่านชีวภาพ (ไบโอชาร์) 4 เปอร์เซ็นต์ ให้ผลผลิต 4,373 กิโลกรัมต่อไร่ เปรียบเทียบกับการใช้ปุ๋ยเคมี ผลผลิต 4,853.3 กิโลกรัมต่อไร่
บทคัดย่อ (EN): This research was proceeded in greenhouse of Soil Biotechnology Division and agricultural farm area in Tambon Donrae Amphoe Muang, Ratchaburi Province during 2015-2016. The objectives were to study N releasing and transformation of soil chemical and physical properties from using bio-char with bio-fertilizer in greenhouse and field to plant Brassica alboglabra. The treatments were investigated by using various bio-fertilizers with biochar (rice husk). The results showed the use of bio-fertilizers made from rice straw with 2 % biochar contained 1.71%N, 0.40%P and 2.27% and bio-fertilizers made from pig feces with 4 % biochar contained 1.95%N, 3.40%P and 0.21%. For greenhouse, the analysis of soil chemical properties before treatments were pH 7.8, 7.8% organic matter, 738 mg.kg-1N, 56.9mg.kg-1P and 63.0 mg.kg-1K. After treated with bio-fertilizers made from rice straw with 2 % bio-char and bio-fertilizers made from pig feces with 4 % biochar performed higher soil chemical properties, including 1.89%, 1.56% organic matter and 793.33, 781.67 mg.kg-1N, respectively. These soil chemical properties were higher than using chemical fertilizer as 1.22 % organic matter and 650 mg.kg-1N. For field, % organic matter and number of N after using bio-fertilizers made from rice straw with 2 % biochar and bio-fertilizers made from pig feces with 4 % biochar were 0.94%, 0.95% and 473.33, 476.67 mg.kg-1, respectively while using chemical fertilizer was 0.96% organic matter and 478.33 mg.kg-1 For Brassica alboglabra yields, yields of treatments used bio-fertilizers made from rice straw with 2 % bio-char and bio-fertilizers made from pig feces with 4 % biochar were 11.61 ,12.75 g/stem in greenhouse and 4,800, 4,373 kg/rai in the field, respectively.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: ผักคะน้า
คำสำคัญ (EN): increasing kale productivity
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ฎานุภา อยู่อุ่นพะเนา. "ศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรถ่านชีวภาพ(ไบโอชาร์) เพื่อลดการสูญเสียไนโตรเจนและเพิ่มผลผลิตผักคะน้าStudy on using biochar to impove compost for decreasing nitrogen and increasing kale productivity". กรมพัฒนาที่ดิน. 2559

ฎานุภา อยู่อุ่นพะเนา. "ศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรถ่านชีวภาพ(ไบโอชาร์) เพื่อลดการสูญเสียไนโตรเจนและเพิ่มผลผลิตผักคะน้าStudy on using biochar to impove compost for decreasing nitrogen and increasing kale productivity". กรมพัฒนาที่ดิน. 2559. Print.



TARR Wordcloud:
ศึกษาการใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรถ่านชีวภาพ(ไบโอชาร์) เพื่อลดการสูญเสียไนโตรเจนและเพิ่มผลผลิตผักคะน้า
ฎานุภา อยู่อุ่นพะเนา
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2559
การศึกษาวิธีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากเศษวัสดุอินทรีย์ที่ได้จากการตัดแต่งกิ่งไม้ อัตราปุ๋ยอินทรีย์ที่เหมาะสมต่อการให้ผลผลิตของผักกาดหอม อิทธิพลของปุ๋ยอินทรีย์ที่มีผลต่อผลผลิตแตงขาวหนามดำ ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโต ผลผลิต และคุณภาพของคะน้า (Brassica alboglabra) ที่ผลิตด้วยวิธีการไฮโดรโปนิกส์ ประสิทธิภาพปุ๋ยเคมีต่ออัตราการเจริญเติบโตและผลผลิตคะน้า การจัดการดินพื้นที่นากุ้งร้าง ด้วยปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงสูตรไนโตรเจน ฟอสฟอรัสร่วมกับปุ๋ยชีวภาพ พด.12 และน้ำหมักชีวภาพซุปเปอร์พด.2 เพื่อเพิ่มผลผลิตของปาล์มน้ำมัน การใช้กากเมล็ดสบู่ดำเป็นปุ๋ยอินทรีย์เพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวโพดหวานฝักสด การศึกษาอัตราและระยะเวลาที่เหมาะสมในการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ สภาพการผลิตผักคะน้าของเกษตรกรอำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพปุ๋ยชีวภาพ พด.12 ด้วยถ่านชีวภาพ(ไบโอชาร์) ต่อการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินและผลผลิตพืช
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair