สืบค้นงานวิจัย
ส่วนประกอบทางเคมีของเมล็ดกาแฟดิบและเมล็ดกาแฟคั่วชนิดอราบิก้าและชนิดโรบัสต้าในภาคเหนือที่ได้จากการแปรรูปที่แตกต่างกัน
ปาริชาติ ภูมิเทศ - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง: ส่วนประกอบทางเคมีของเมล็ดกาแฟดิบและเมล็ดกาแฟคั่วชนิดอราบิก้าและชนิดโรบัสต้าในภาคเหนือที่ได้จากการแปรรูปที่แตกต่างกัน
ชื่อเรื่อง (EN): Chemical Composition of Northern Thai Arabica and Robusta Coffee Green and Roasted Beans from Different Processing
บทคัดย่อ: การศึกษาส่วนประกอบทางเคมีของเมล็ดกาแฟดิบ และเมล็ดกาแฟคั่วชนิดอราบิก้า และชนิด โรบัสต้า ในภาคเหนือที่ได้จากการแปรรูปที่แตกต่างกัน มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาถึงความแตกต่างของส่วนประกอบทางเคมีของเมล็ดกาแฟดิบและเมล็ดกาแฟคั่วชนิดอราบิก้า และชนิดโรบัสต้าที่ได้จากการแปรรูปที่แตกต่างกัน 2) เพื่อทำให้ได้รับข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกวิธีการจัดการแปรรูปกาแฟ ที่นำไปสู่การพัฒนาคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์กาแฟที่มีมูลค่าเพิ่ม และ 3) เพื่อเสริมสร้างทางเลือกของการใช้กาแฟเมล็ดดิบที่มีส่วนประกอบทางเคมีที่แตกต่างกัน ในการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟที่มีคุณลักษณะสอดคล้องกับความต้องการในตลาดกาแฟที่มีความหลากหลาย วางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ ประกอบด้วย 3 กรรมวิธี ได้แก่ การแปรรูปโดยวิธีเปียก วิธีกึ่งเปียก และวิธีแห้ง แต่ละกรรมวิธีมี 3 ซ้ำ ได้แก่ ผลสดกาแฟชนิดอราบิก้าได้จากพื้นที่ปลูกในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และลำปาง ผลสดกาแฟชนิดโรบัสต้าได้จากพื้นที่ปลูกในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และตาก ผลการศึกษาพบว่า เมล็ดกาแฟดิบชนิดอราบิก้าจากการแปรรูปทั้ง 3 วิธี มีค่าเฉลี่ยของเถ้า กาเฟอีน คาร์โบไฮเดรต กรดคลอโรจีนิก พลังงาน ไขมัน ความชื้น โพลีแซคคาไรด์ และโปรตีน ไม่แตกต่างกัน ซูโครสมีค่าเฉลี่ยที่สูงกว่าในเมล็ดจากวิธีแห้ง ไตรโกเนลลินมีค่าเฉลี่ยที่สูงกว่าทั้งจากวิธีกึ่งเปียกและวิธีแห้ง เมล็ดกาแฟคั่วระดับสีน้ำตาลอ่อนมีค่าเฉลี่ยของกาเฟอีนสูงสุดจากเมล็ดที่ได้จากวิธีแห้ง และค่าเฉลี่ยของไตรโกเนลลินในเมล็ดที่ได้จากวิธีแห้งและกึ่งเปียกมากกว่าวิธีเปียก เมล็ดกาแฟคั่วระดับสีน้ำตาลเข้มมีค่าเฉลี่ยของส่วนประกอบต่างๆ ไม่แตกต่างกัน สำหรับเมล็ดกาแฟดิบชนิดโรบัสต้าจากการแปรรูปทั้ง 3 วิธีมีค่าเฉลี่ยของส่วนประกอบทางเคมีเกือบทุกชนิดไม่แตกต่างกัน ยกเว้นซูโครสที่เมล็ดจากวิธีแห้งมีค่าสูงสุด เมล็ดกาแฟคั่วระดับสีน้ำตาลอ่อนมีค่าเฉลี่ยของกาเฟอีน และไตรโกเนลลิน สูงสุดจากเมล็ดที่ได้จากวิธีแห้ง และค่าเฉลี่ยของซูโครสจากวิธีกึ่งเปียกและวิธีแห้งสูงกว่าวิธีเปียก เมล็ดกาแฟคั่วระดับสีน้ำตาลเข้มมีค่าเฉลี่ยของกาเฟอีนในเมล็ดจากวิธีแห้งและกึ่งเปียกมากกว่าวิธีเปียก และมีค่าเฉลี่ยของกรดคลอโรจีนิก และไตรโกเนลลิน สูงสุดจากเมล็ดวิธีแห้ง เมล็ดกาแฟดิบ เมล็ดกาแฟคั่วระดับสีน้ำตาลอ่อน และระดับสีน้ำตาลเข้ม ของชนิดอราบิก้า มีค่าเฉลี่ยของกาเฟอีน และกรดคลอโรจีนิก น้อยกว่าชนิดโรบัสต้าในทุกกรรมวิธี ส่วนเมล็ดกาแฟคั่วระดับสีน้ำตาลอ่อนชนิดอราบิก้าจากทุกกรรมวิธี มีค่าเฉลี่ยของไขมันมากกว่า แต่มีไตรโกเนลลินน้อย กว่าชนิดโรบัสต้า สำหรับเมล็ดกาแฟคั่วระดับสีน้ำตาลเข้มชนิดอราบิก้าจากทุกกรรมวิธี มีค่าเฉลี่ยของซูโครสน้อยกว่าชนิดโรบัสต้า พัฒนาการของตลาดที่มีความหลากหลายมากขึ้นในปัจจุบันทำให้มีการแข่งขันเพื่อการนำเสนอคุณภาพของสินค้าที่แตกต่าง หน่วยการผลิตและแปรรูปจึงควรทำความเข้าใจต่อความต้องการของตลาดประเภทต่างๆ เพื่อการเลือกวิธีการแปรรูปให้เหมาะสมในการสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า
บทคัดย่อ (EN): The study on chemical composition of the green and roasted beans of arabica (Coffea arabica) and robusta (Coffea canephora) coffee from different process had the following objectives 1) to study on the chemical composition differences of the green and roasted of arabica and robusta coffee which were derived from three different processes 2) to get significant data for the consideration on post-harvest processing which would be leading the adjustment for added value of coffee produce. and 3) to create an alternative to use the beans of different chemical composition to produce coffee products according to the demand of various markets. The complete randomized design had 3 treatments ; the wet, pulped natural and dry processes with 3 replications. The arabica coffee cherries were brought from Chiangrai, Chiangmai and Lampang provinces, while the robusta coffee cherries were brought from Chiangrai, Chiangmai and Tak provinces. The results revealed that the average on ash, caffeine, carbohydrate, chlorogenic acid, energy, lipid, moisture, polysaccharides and protein of the arabica coffee beans from the 3 different processes were non-different. The average on sucrose from the bean of dry process was higher than the others while the average on trigonellin was higher both from the pulped natural and dry processes. The light roasted coffee from the dry processed beans had the highest average on caffeine, while the dry and pulped natural processed beans had higher average on trigonellin than the wet processed beans. The average on every analyzed chemical compositon of the dark roasted coffee were non-different. Almost all average of the analyzed composition of the robusta beans from the 3 different processes were non-different, except the average on sucrose which was the highest. The light roasted coffee from the dry process had highest average on caffeine and trigonellin, and the average on sucrose from the wet process was the lowest. The dark roasted coffee from the wet process had the lowest average on caffeine while from the dry process the average on chlorogenic acid and trigonellin were the highest. The green beans, light roasted and dark roasted arabica coffee had the average on caffeine and chlorogenic acid less than the robusta coffee in every treatments. The light roasted arabica coffee from every treatments had higher average on lipid, but less average on trigonellin than the robusta coffee. The dark roasted arabica coffee from every processes had the average on sucrose less than the robusta coffee. The development on various coffee markets leaded to the competition on product differentiation, so the production and processing units should try to understand different marketing demand to accordingly choose an appropriate processing for the best returns.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คำสำคัญ: การแปรรูปกาแฟ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ส่วนประกอบทางเคมีของเมล็ดกาแฟดิบและเมล็ดกาแฟคั่วชนิดอราบิก้าและชนิดโรบัสต้าในภาคเหนือที่ได้จากการแปรรูปที่แตกต่างกัน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
30 กันยายน 2560
ความเป็นมาของกาแฟโรบัสต้า การผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วฮามาต้าโดยเกษตรกรในเขตจังหวัดขอนแก่น ผลของขนาดเมล็ดที่มีต่อความแข็งแรงของเมล็ดพันธุ์ถั่วแลปแลป การจำแนกเชื้อราสาเหตุโรคพืชในเมล็ดพันธุ์ข้าวไร่ในภาคใต้และภาคเหนือ สำรวจรวบรวมผักพื้นเมืองทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การออกแบบและจัดทำเครื่องคัดแยกเมล็ดกาแฟดิบด้วยการวัดคุณภาพเมล็ดด้วยเทคนิคสเปกโตรสโกปีอินฟราเรดย่านใกล้ การประเมินผลโครงการส่งเสริมการจัดการคุณภาพและมาตรฐานสินค้าเกษตร (กาแฟโรบัสต้า) จังหวัดระนอง ปี 2547 กาแฟเพื่อสุขภาพ การพัฒนากลิ่นรสกาแฟพันธุ์อาราบิก้าจากผลิตผลพลอยได้ของกระบวนการแปรรูปกาแฟ การพัฒนากลิ่นรสกาแฟพันธุ์อาราบิก้าจากผลิตผลพลอยได้ของกระบวนการแปรรูปกาแฟ ระยะที่ 2
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก