สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ทำการเกษตรบริเวณลุ่มแม่น้ำภาชี
จิราณี วานิชกุล - มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
ชื่อเรื่อง: การศึกษาสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ทำการเกษตรบริเวณลุ่มแม่น้ำภาชี
ชื่อเรื่อง (EN): Study on Soil Fertility in Bhachee Basin
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จิราณี วานิชกุล
บทคัดย่อ: การสำรวจสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ทำการเกษตรบริเวณลุ่มแม่น้ำภาชี มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาชนิดดิน ระดับความอุดมสมบูรณ์ของดิน ความเหมาะสมในการใช้ดินปลูกพืช และปัญหาในการใช้ดิน ตัวอย่างในการศึกษา คือตัวอย่างดินในบริเวณที่ทำการเกษตรบริเวณลุ่มแม่น้ำภาชี จำนวนกลุ่มประชากร 100 ตัวอย่าง ทำการสุ่มเก็บตัวอย่างดิน วิเคราะห์สมบัติดินภาคสนามและจำแนกเป็นชุดดิน นำตัวอย่างของแต่ละชุดินไปวิเคราะห์สมบัติทางเคมีในห้องปฏิบัติการ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับดิน การเพาะปลูก และการใช้ดินจากบริเวณจุดเก็บตัวอย่างดิน และจากการสัมภาษณ์เกษตรกรโดยใช้แบบสอบถาม นำข้อมูลมาวิเคราะห์หาค่าร้อยละ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลปรากฎว่า ดินในบริเวณที่สำรวจมีทั้งหมด 4 อันดับดินคือ อุลติโชลส์, อัลติโชลส์, เอนติโซลส์ และอินเซบติโซลส์ พบดินรวม 10 ชุดดินคือ ชุดดินโคราช สันป่าตอง แม่ริม ท่ายาง นครปฐม เขาย้อย กำแพงแสน ท่าม่วง จันทึกและหุบกระพง ในจำนวนนี้ชุดดินกำแพงแสนครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด ชุดดินที่พบในการสำรวจมีเนื้อดิน 3 ประเภทคือ ดินร่วนปนทราย และดินทรายร่วน ดินทุกชุดมีปริมาณอินทรียวัตถุและความเค็มต่ำ ปฏิกิริยาดินเป็นกรดถึงด่างอ่อน การประเมินความอุดมสมบูรณ์ของดินยึดสมบัติทางเคมีบางประการตามเกณฑ์ที่นิยมใช้กันในประเทศไทย พบว่าดินที่สำรวจมีระดับความอุดมสมบูรณ์ปานกลางต่ำ เกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกพืชที่เหมาะสมกับดิน ยกเว้นในบริเวณที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่เหลือค้างจากการกัดกร่อน ปัญหาที่สำคัญ คือน้ำท่วมในฤดูฝน ขาดน้ำในฤดูแล้ง และดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ปัจจัยที่อาจมีผลกระทบต่อความอุดมสมบูรณ์ดิน คือ เนื้อดิน ความลึกของดินและความลาดชันของดิน เกษตรกรควรใช้ทั้งปุ๋ยอินทรีย์และเคมีอย่างมีประสิทธิภาพให้เหมาะสมกับเนื้อดิน และระดับความอุดมสมบูรณ์ของดิน พื้นที่ที่เสี่ยงต่อการกษัยการอย่างรุนแรง บริเวณที่ลาดชันเชิงเขาและพื้นที่ผิวที่เหลือค้างจากการกัดกร่อนไม่เหมาะสำหรับทำการเกษตร แต่ควรใช้ปลูกป่าหรือ ไม้ยืนต้นด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่งเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้ยั่งยืน
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=10&RecId=103&obj_id=973
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
คำสำคัญ: สำรวจ
คำสำคัญ (EN): 631.42
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
รายละเอียด: การสำรวจสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ทำการเกษตรบริเวณลุ่มแม่น้ำภาชี มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาชนิดดิน ระดับความอุดมสมบูรณ์ของดิน ความเหมาะสมในการใช้ดินปลูกพืช และปัญหาในการใช้ดิน ตัวอย่างในการศึกษา คือตัวอย่างดินในบริเวณที่ทำการเกษตรบริเวณลุ่มแม่น้ำภาชี จำนวนกลุ่มประชากร 100 ตัวอย่าง ทำการสุ่มเก็บตัวอย่างดิน วิเคราะห์สมบัติดินภาคสนามและจำแนกเป็นชุดดิน นำตัวอย่างของแต่ละชุดินไปวิเคราะห์สมบัติทางเคมีในห้องปฏิบัติการ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับดิน การเพาะปลูก และการใช้ดินจากบริเวณจุดเก็บตัวอย่างดิน และจากการสัมภาษณ์เกษตรกรโดยใช้แบบสอบถาม นำข้อมูลมาวิเคราะห์หาค่าร้อยละ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลปรากฎว่า ดินในบริเวณที่สำรวจมีทั้งหมด 4 อันดับดินคือ อุลติโชลส์, อัลติโชลส์, เอนติโซลส์ และอินเซบติโซลส์ พบดินรวม 10 ชุดดินคือ ชุดดินโคราช สันป่าตอง แม่ริม ท่ายาง นครปฐม เขาย้อย กำแพงแสน ท่าม่วง จันทึกและหุบกระพง ในจำนวนนี้ชุดดินกำแพงแสนครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด ชุดดินที่พบในการสำรวจมีเนื้อดิน 3 ประเภทคือ ดินร่วนปนทราย และดินทรายร่วน ดินทุกชุดมีปริมาณอินทรียวัตถุและความเค็มต่ำ ปฏิกิริยาดินเป็นกรดถึงด่างอ่อน การประเมินความอุดมสมบูรณ์ของดินยึดสมบัติทางเคมีบางประการตามเกณฑ์ที่นิยมใช้กันในประเทศไทย พบว่าดินที่สำรวจมีระดับความอุดมสมบูรณ์ปานกลางต่ำ เกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกพืชที่เหมาะสมกับดิน ยกเว้นในบริเวณที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่เหลือค้างจากการกัดกร่อน ปัญหาที่สำคัญ คือน้ำท่วมในฤดูฝน ขาดน้ำในฤดูแล้ง และดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ปัจจัยที่อาจมีผลกระทบต่อความอุดมสมบูรณ์ดิน คือ เนื้อดิน ความลึกของดินและความลาดชันของดิน เกษตรกรควรใช้ทั้งปุ๋ยอินทรีย์และเคมีอย่างมีประสิทธิภาพให้เหมาะสมกับเนื้อดิน และระดับความอุดมสมบูรณ์ของดิน พื้นที่ที่เสี่ยงต่อการกษัยการอย่างรุนแรง บริเวณที่ลาดชันเชิงเขาและพื้นที่ผิวที่เหลือค้างจากการกัดกร่อนไม่เหมาะสำหรับทำการเกษตร แต่ควรใช้ปลูกป่าหรือ ไม้ยืนต้นด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่งเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้ยั่งยืน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

จิราณี วานิชกุล. "การศึกษาสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ทำการเกษตรบริเวณลุ่มแม่น้ำภาชีStudy on Soil Fertility in Bhachee Basin". มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง. 2541

จิราณี วานิชกุล. "การศึกษาสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ทำการเกษตรบริเวณลุ่มแม่น้ำภาชีStudy on Soil Fertility in Bhachee Basin". มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง. 2541. Print.



TARR Wordcloud:
การศึกษาสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ทำการเกษตรบริเวณลุ่มแม่น้ำภาชี
จิราณี วานิชกุล
มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
2541
ศึกษาการเพิ่มอินทรีย์วัตถุในดินชุดโคราช การวางแผนการใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และศรีสะเกษ โดยระบบจำแนกสมรรถนะความอุดมสมบูรณ์ของดิน การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างดินและสังคมพืชในเวลา 3 ปี บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี (ปีที่ 2) ปุ๋ยอินทรีย์ฟื้นฟูสภาพดิน การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างดินและสังคมพืชในเวลา 3 ปี บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี ปีที่ 1 การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างดินและสังคมพืชในเวลา 3 ปี บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี (ปีที่ 3) การเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็นของท่อใต้ดินที่ใช้ในโรงเรือนเกษตรโดยวิธีเพิ่มความชื้นในดิน รายงานฉบับสมบูรณ์เรื่องโครงการเจาะบ่อทดสอบธรณีเทคนิคและติดตามการเปลี่ยนแปลงทางธรณีเคมีของน้ำใต้ดินกับการกระจายตัวดินเค็ม-น้ำเค็มบริเวณลุ่มน้ำพอง-น้ำชีพื้นที่ผลกระทบท้ายเขื่อนอุบลรัตน์จังหวัดขอนแก่น อิทธิพลของปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนดินจากไส้เดือนดินต่อการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางฟิสิกส์ดินและการปรับปรุงโครงสร้างของดิน สภาพการใช้ดินต่อปริมาณตะกอนหนักในน้ำของแม่น้ำปัตตานีศึกษาเฉพาะกรณีพื้นที่ผ่านเทศบาลเมืองยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair