สืบค้นงานวิจัย
การอนุรักษ์การแสดงพื้นบ้าน "จังหวัดปทุมธานี"
รจนา สุนทรานนท์ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ชื่อเรื่อง: การอนุรักษ์การแสดงพื้นบ้าน "จังหวัดปทุมธานี"
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: รจนา สุนทรานนท์
บทคัดย่อ: การอนุรักษ์เพลงพื้นบ้านจังหวัดปทุมธานี เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพเกี่ยวกับการรวบรวมเพลงพื้นบ้าน จังหวัด ปทุมธานี ได้แก่ รำมอญเพลงโนเน เพลงรำพาข้าวสาร และกลองยาว โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อรวบรวมความเป็นมา รูปแบบลักษณะการแสดง การรำ และการร้องเพลงพื้นบ้านจังหวัดปทุมธานี อันมีค่าเพื่ออนุรักษ์ให้ชนรุ่นหลังได้สืบทอดต่อไป วิธีดำเนินการวิจัยรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร ตำรา และการสัมภาษณ์ แบบเจาะลึก แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์แล้วสังเคราะห์การแสดงพื้นบ้านแต่ละประเภท แล้วอภิปรายในเชิงความเรียง จากการวิจัยได้พบว่าการแสดงพื้นบ้านปทุมธานี มีเอกลักษณ์เฉพาะที่บ่งบอกค่านิยม วัฒนธรรม ประเพณีที่มีความเรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็นลีลา ท่ารำ การร้องหรือการละเล่น จะมีลักษณะเป็นกลอนสด เสียดสีระหว่าชายหญิง ด้วยปฏิภาณ และไหวพริบของพ่อเพลงและแม่เพลงและมีลูกคู่ร้องรับ ตบมือให้จังหวะ การแสดงจึงบ่งบอกความเป็นศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ 1. บ่งบอกที่มา และศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เช่น ลักษณะลีลาท่ารำ ของการรำมอญ จะมีลักษณะช้าเนินนาน มีการก้าวรวมเท้า ยืดยุบตามจังหวะกลองตามลีลาของการรำแบบมอญ ซึ่งบ่งบอกว่าชาวปทุมธานีมีเชื้อชาติมอญอาศัยอยู่ การรำมอญบ่องบอกวัฒนธรรมและประเพณีของชาวมอญที่ชอบร้องรำ โดยมีการสืบทอดสู่ลูกหลาย โดยจะรำในงานต่าง ๆ ทั้งงานมงคล และงานอวมวงคล แต่เนื่องจากท่วงทำนองเพลงมีความเศร้าสร้อย และบรรยากาศโศกเศร้าดังนั้นประชาชนก็จะนำการรำมอญกันในงานศพ และชาวมอญถือกันว่าการรำมอญในงานศพเป็นการรำเพื่อเคารพสักการะผู้ตาย ดังนั้นใครมาก็จะรำมอญสักการะผู้ตาย นอกจากนี้การแต่งกายของรำมอญก็จะแต่งกายแบบชาวมอญคือนุ่งซิ่นกรอมเท้าสวมเสื้อคอกลมแขนกระบอกผ่าหน้าตลอด มีผ้าพาดไหล่ นุ่งซิ้นกรอมเท้า เกล้ามวยประดับ ด้วยดอกไม้ สวมกำไรเท้า ซึ่งการแต่งกายดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นวัฒนธรรมการแต่งกายของชาวมอญ 2. บ่งบอกความเรียบง่าย ความเป็นกันเอง ความใจกว้างและความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ เช่น การรำมอญจะรำเพื่อสักกาะผู้ตาย หรือการร้องเพลงรำพาข้าวสาร จะเริ่มด้วยการร้องว่า "เจ้าขาวแม่ลาละลอกเอย" หรือ "ขาว ขาวแม่ลาละลอกเอย" ซึ่งเป็นชื่อของพระองค์เจ้าวัชรีย์วงศ์หรือพระองค์เจ้าขาวเพื่อเป็นการให้เกียรติ์ แก่ผู้คิดทำนองเพลงและการร้องขึ้นมา และจะมีลูกคู่ร้องรับพร้อมปรบมือเข้าจังหวะ ลักษณะรูปแบบของการร้องจะใช้ภาษาง่าย ๆ เพื่อระลึกถึงพระคุณของท่านอยู่เสมอ 3. บ่อบอกภูมิปัญญาของผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่น ที่มีความประสงค์จะให้เป็นการละเล่น เพื่อความผ่อนคลายและลดความเหนื่องล้าในการทำงาน เช่น การร้องเพลงโนเน จะร้องในขณะที่ตำแป้งขนมจีนซึ่งต้องใช้แรงมาก และใช้กำลังคนจำนวนมากเนื่องจากการแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ตำแป้งขนมขีนกันคนละครกซึ่งเรียกว่าครกเหนือและครกใต้ 4. บ่งบอกค่านิยม ความเชื่อ วัฒนธรรมประเพณีของชาวปทุมธานี ซึ่งเป็นวัฒนธรรมทางสายน้ำที่ควรอนุรักษ์ไว้ให้ชนรุ่นหังเช่น ประเพณี การรำพาข้าวสาร ร้องเพื่อเรี่ยไรของปัจจัย เช่น ข้าวสาร เงิน และอื่น ๆ เพื่อนำไปทำบุญที่วัด และเป็นการบอกข่าวการทอดกฐินหรือผ้าป่า เพื่อเชิญชาวให้ชาวบ้านไปร่วมทำบุญที่วัด การละเล่นเพลงรำพาข้าวสารจะบ่งบอกความเชื่อเกี่ยวกับการทำบุญเพื่อสร้างกุศลและเสริมความศิริมงคลแก่ตนเองและฝึกให้เป็นผู้ให้แก่สังคม 5. บ่งบอกความมีปฏิภาณไหวพริบของพ่อเพลงและแม่เพลงที่จะใช้ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมมาร้องบอก เล่าขานแก่ชนรุ่นหลัง ดังนั้นในเนื้อเพลงก็จะบอกวัฒนธรรม ประเพณี โดยพ่อเพลงและแม่เพลง จะใช้ปฏิภาษไหวพริบร้องขึ้นมาโต้ตอบกันสอดแทรกความสนุกสนาน 6. บ่งบอกความเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคม ในเนื้อร้องเพลงโนเน เพลงรำพาข้าวสาร เพลงระบำและเพลงรำโทน จะบ่งบอกวิถีชีวิตและสภาพของสังคมที่อยู่ในขณะนั้น และสังคมที่เปลี่ยนแปลงเกิดวิวัฒนาการการร้องได้หลากหลายขึ้น เช่น เพลงรำพาข้าวสาร มีการร้องถึง 3 แนวทาง ด้วยเหตุผลที่ว่าเพื่อสร้างความครึกครื้นสนุกสนานเนื่องจากการไปเรี่ยรายข้าวสารจะเป็นเวลากลางคืนและต้องพายเรือไปตามบ้านทำให้น่ากลัวและเกรงว่าจะมีพวกมิฉาชีพปลอมปนเข้ามาได้
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=49&RecId=35&obj_id=32
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
คำสำคัญ: การแสดงพื้นบ้าน
คำสำคัญ (EN): DS 568
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
รายละเอียด: การอนุรักษ์เพลงพื้นบ้านจังหวัดปทุมธานี เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพเกี่ยวกับการรวบรวมเพลงพื้นบ้าน จังหวัด ปทุมธานี ได้แก่ รำมอญเพลงโนเน เพลงรำพาข้าวสาร และกลองยาว โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อรวบรวมความเป็นมา รูปแบบลักษณะการแสดง การรำ และการร้องเพลงพื้นบ้านจังหวัดปทุมธานี อันมีค่าเพื่ออนุรักษ์ให้ชนรุ่นหลังได้สืบทอดต่อไป วิธีดำเนินการวิจัยรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร ตำรา และการสัมภาษณ์ แบบเจาะลึก แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์แล้วสังเคราะห์การแสดงพื้นบ้านแต่ละประเภท แล้วอภิปรายในเชิงความเรียง จากการวิจัยได้พบว่าการแสดงพื้นบ้านปทุมธานี มีเอกลักษณ์เฉพาะที่บ่งบอกค่านิยม วัฒนธรรม ประเพณีที่มีความเรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็นลีลา ท่ารำ การร้องหรือการละเล่น จะมีลักษณะเป็นกลอนสด เสียดสีระหว่าชายหญิง ด้วยปฏิภาณ และไหวพริบของพ่อเพลงและแม่เพลงและมีลูกคู่ร้องรับ ตบมือให้จังหวะ การแสดงจึงบ่งบอกความเป็นศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ 1. บ่งบอกที่มา และศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เช่น ลักษณะลีลาท่ารำ ของการรำมอญ จะมีลักษณะช้าเนินนาน มีการก้าวรวมเท้า ยืดยุบตามจังหวะกลองตามลีลาของการรำแบบมอญ ซึ่งบ่งบอกว่าชาวปทุมธานีมีเชื้อชาติมอญอาศัยอยู่ การรำมอญบ่องบอกวัฒนธรรมและประเพณีของชาวมอญที่ชอบร้องรำ โดยมีการสืบทอดสู่ลูกหลาย โดยจะรำในงานต่าง ๆ ทั้งงานมงคล และงานอวมวงคล แต่เนื่องจากท่วงทำนองเพลงมีความเศร้าสร้อย และบรรยากาศโศกเศร้าดังนั้นประชาชนก็จะนำการรำมอญกันในงานศพ และชาวมอญถือกันว่าการรำมอญในงานศพเป็นการรำเพื่อเคารพสักการะผู้ตาย ดังนั้นใครมาก็จะรำมอญสักการะผู้ตาย นอกจากนี้การแต่งกายของรำมอญก็จะแต่งกายแบบชาวมอญคือนุ่งซิ่นกรอมเท้าสวมเสื้อคอกลมแขนกระบอกผ่าหน้าตลอด มีผ้าพาดไหล่ นุ่งซิ้นกรอมเท้า เกล้ามวยประดับ ด้วยดอกไม้ สวมกำไรเท้า ซึ่งการแต่งกายดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นวัฒนธรรมการแต่งกายของชาวมอญ 2. บ่งบอกความเรียบง่าย ความเป็นกันเอง ความใจกว้างและความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ เช่น การรำมอญจะรำเพื่อสักกาะผู้ตาย หรือการร้องเพลงรำพาข้าวสาร จะเริ่มด้วยการร้องว่า "เจ้าขาวแม่ลาละลอกเอย" หรือ "ขาว ขาวแม่ลาละลอกเอย" ซึ่งเป็นชื่อของพระองค์เจ้าวัชรีย์วงศ์หรือพระองค์เจ้าขาวเพื่อเป็นการให้เกียรติ์ แก่ผู้คิดทำนองเพลงและการร้องขึ้นมา และจะมีลูกคู่ร้องรับพร้อมปรบมือเข้าจังหวะ ลักษณะรูปแบบของการร้องจะใช้ภาษาง่าย ๆ เพื่อระลึกถึงพระคุณของท่านอยู่เสมอ 3. บ่อบอกภูมิปัญญาของผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่น ที่มีความประสงค์จะให้เป็นการละเล่น เพื่อความผ่อนคลายและลดความเหนื่องล้าในการทำงาน เช่น การร้องเพลงโนเน จะร้องในขณะที่ตำแป้งขนมจีนซึ่งต้องใช้แรงมาก และใช้กำลังคนจำนวนมากเนื่องจากการแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ตำแป้งขนมขีนกันคนละครกซึ่งเรียกว่าครกเหนือและครกใต้ 4. บ่งบอกค่านิยม ความเชื่อ วัฒนธรรมประเพณีของชาวปทุมธานี ซึ่งเป็นวัฒนธรรมทางสายน้ำที่ควรอนุรักษ์ไว้ให้ชนรุ่นหังเช่น ประเพณี การรำพาข้าวสาร ร้องเพื่อเรี่ยไรของปัจจัย เช่น ข้าวสาร เงิน และอื่น ๆ เพื่อนำไปทำบุญที่วัด และเป็นการบอกข่าวการทอดกฐินหรือผ้าป่า เพื่อเชิญชาวให้ชาวบ้านไปร่วมทำบุญที่วัด การละเล่นเพลงรำพาข้าวสารจะบ่งบอกความเชื่อเกี่ยวกับการทำบุญเพื่อสร้างกุศลและเสริมความศิริมงคลแก่ตนเองและฝึกให้เป็นผู้ให้แก่สังคม 5. บ่งบอกความมีปฏิภาณไหวพริบของพ่อเพลงและแม่เพลงที่จะใช้ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมมาร้องบอก เล่าขานแก่ชนรุ่นหลัง ดังนั้นในเนื้อเพลงก็จะบอกวัฒนธรรม ประเพณี โดยพ่อเพลงและแม่เพลง จะใช้ปฏิภาษไหวพริบร้องขึ้นมาโต้ตอบกันสอดแทรกความสนุกสนาน 6. บ่งบอกความเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคม ในเนื้อร้องเพลงโนเน เพลงรำพาข้าวสาร เพลงระบำและเพลงรำโทน จะบ่งบอกวิถีชีวิตและสภาพของสังคมที่อยู่ในขณะนั้น และสังคมที่เปลี่ยนแปลงเกิดวิวัฒนาการการร้องได้หลากหลายขึ้น เช่น เพลงรำพาข้าวสาร มีการร้องถึง 3 แนวทาง ด้วยเหตุผลที่ว่าเพื่อสร้างความครึกครื้นสนุกสนานเนื่องจากการไปเรี่ยรายข้าวสารจะเป็นเวลากลางคืนและต้องพายเรือไปตามบ้านทำให้น่ากลัวและเกรงว่าจะมีพวกมิฉาชีพปลอมปนเข้ามาได้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การอนุรักษ์การแสดงพื้นบ้าน "จังหวัดปทุมธานี"
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
2547
การศึกษาชีววิทยาของกบภูเขา (เขียดแลว) เพื่อเป็นแนวทางในการอนุรักษ์พันธุ์ รายงานการวิจัย เรื่อง การสำรวจความหลากหลายและการอนุรักษ์พันธุ์ข้าวพื้นเมืองในอำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แนวทางการจัดการแบบมีส่วนร่วมเพื่อการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลายหลายทางชีวภาพของทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืนในแม่น้ำปิงจังหวัดเชียงใหม่ โครงการการศึกษาและถอดองค์ความรู้การดำเนินการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมโดยภาคประชาชนในภาคเหนือตอนบน ความหลากหลายทางชีวภาพและการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำต่อวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่น:กรณีศึกษาพื้นที่ลุ่มน้ำเขื่อนลำปาว หมู่บ้านข้าวโพดลดหมอกควัน การลดปัญหาหมอกควันและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกษตรแบบครบวงจรบนพื้นที่สูง กรณีศึกษาบ้านบนนา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ การสำรวจทางพฤกษอนุกรมวิธานเพื่อการอนุรักษ์พรรณไม้ชายหาดของไทย. 1. สังคมพืชบริเวณอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ : รายงานฉบับสมบูรณ์ รายงานการวิจัยโครงการศึกษาวิจัยขยายพันธุ์พืชสี พืชอาหาร และพืชสมุนไพร บางชนิดที่พบในพื้นที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม การสำรวจนักวิชาการภูมิปัญญาพื้นบ้านในเขตจังหวัดอุบลราชธานี ยโสธรและอำนาจเจริญ (ชุดข้อมูลอาหารพื้นบ้าน) การรักษาเต้านมอักเสบแบบไม่แสดงอาการและแบบแสดงอาการ ในโคนมด้วยน้ำหมักสมุนไพร
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก