สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงต่อโรค Cryptosporidiosis และ Giardiasis จากอุจจาระโคนมในเขตภาคเหนื่อของประเทศไทย
จำนงจิต ผาสุข - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงต่อโรค Cryptosporidiosis และ Giardiasis จากอุจจาระโคนมในเขตภาคเหนื่อของประเทศไทย
ชื่อเรื่อง (EN): Prevalence study and risk factor of Cryptosporidiosis and Giardiasis from Dairy cow faces in Northern of Thailand
บทคัดย่อ: จุดประสงค์ในการวิจัยครั้งนี้เพื่อศึกษาความชุก วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและการแยกสายพันธุกรรมของ Cryptosporidium spp. และ Giardia duodenalis จากอุจจาระของโคนม ใน 3 จังหวัดของภาคเหนือ (เชียงราย เชียงใหม่และลำปาง) โดยทำการเก็บอุจจาระโคนมจำนวน 500 ตัวอย่าง โดยทำการตรวจหาเชื้อ Cryptosporidium spp. โดยวิธี DMSO-modified acid fast stain, Immunofluorescence antibody test (IFAT) และ polymerase chain reaction (PCR) ในขณะทีการตรวจหาเชื้อ G. duodenalis ใช้วิธี zinc sulphate centrifugal floatation, IFAT และ PCR ซึ่งผลการศึกษาพบความชุกรวมของการติดเชื้อ Cryptosporidium spp. โดยวิธี DMSO-modified acid fast stain พบ 25 ตัวอย่าง (ร้อยละ 5) วิธี IFAT พบ 35 ตัวอย่าง (ร้อยละ 7) และวิธี PCR พบ 38 ตัวอย่าง (ร้อยละ 7.6) จากทั้งหมด 500 ตัวอย่างให้ผลบวกต่อการติดเชื้อนี้ ในขณะที่ผลการศึกษาความชุกรวมของการติดเชื้อ G. duodenalis ในโคนมเขตภาคเหนือของประเทศไทยคิดเป็นร้อยละ 7 (35/500) จากการตรวจโดยวิธี zinc sulphate floatation ร้อยละ 8 (40/500) จากการตรวจโดยวิธี IFAT และร้อยละ 8.8 (44/500) จากการตรวจโดยวิธี PCR การวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงพบว่าไม่มีปัจจัยเสี่ยงใดๆที่มีนัยสำคัญทางสถิติต่อการติด Cryptosporidium และ Giardia ในการศึกษาครั้งนี้ การแยกสายพันธุกรรมของ Cryptosporidium spp. พบ 2 สายพันธุ์คือ C. parvum และ C. bovis ในขณะที่ G. duodenalis พบว่าเป็น Assemblage AI และ Assemblage Eจุดประสงค์ในการวิจัยครั้งนี้เพื่อศึกษาความชุก วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและการแยกสายพันธุกรรมของ Cryptosporidium spp. และ Giardia duodenalis จากอุจจาระของโคนม ใน 3 จังหวัดของภาคเหนือ (เชียงราย เชียงใหม่และลำปาง) โดยทำการเก็บอุจจาระโคนมจำนวน 500 ตัวอย่าง โดยทำการตรวจหาเชื้อ Cryptosporidium spp. โดยวิธี DMSO-modified acid fast stain, Immunofluorescence antibody test (IFAT) และ polymerase chain reaction (PCR) ในขณะทีการตรวจหาเชื้อ G. duodenalis ใช้วิธี zinc sulphate centrifugal floatation, IFAT และ PCR ซึ่งผลการศึกษาพบความชุกรวมของการติดเชื้อ Cryptosporidium spp. โดยวิธี DMSO-modified acid fast stain พบ 25 ตัวอย่าง (ร้อยละ 5) วิธี IFAT พบ 35 ตัวอย่าง (ร้อยละ 7) และวิธี PCR พบ 38 ตัวอย่าง (ร้อยละ 7.6) จากทั้งหมด 500 ตัวอย่างให้ผลบวกต่อการติดเชื้อนี้ ในขณะที่ผลการศึกษาความชุกรวมของการติดเชื้อ G. duodenalis ในโคนมเขตภาคเหนือของประเทศไทยคิดเป็นร้อยละ 7 (35/500) จากการตรวจโดยวิธี zinc sulphate floatation ร้อยละ 8 (40/500) จากการตรวจโดยวิธี IFAT และร้อยละ 8.8 (44/500) จากการตรวจโดยวิธี PCR การวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงพบว่าไม่มีปัจจัยเสี่ยงใดๆที่มีนัยสำคัญทางสถิติต่อการติด Cryptosporidium และ Giardia ในการศึกษาครั้งนี้ การแยกสายพันธุกรรมของ Cryptosporidium spp. พบ 2 สายพันธุ์คือ C. parvum และ C. bovis ในขณะที่ G. duodenalis พบว่าเป็น Assemblage AI และ Assemblage E
บทคัดย่อ (EN): The aims of this study were to determine prevalence, risk factors, and genotype of Cryptosporidium spp. and Giardia duodenalis from feces of dairy cattle from the northern part (Chiang Rai, Chiang Mai and Lumpang provinces) of Thailand. A total of 500 fecal samples were collected directly from rectum and Cryptosporidium infection was examined by using DMSO-modified acid fast stain, Immunofluorescence antibody test (IFAT) and polymerase chain reaction (PCR). One the other hand, Giardia duodenalis infection was diagnosed by zinc sulphate centrifugal floatation technique, IFAT and PCR. The prevalence of Cryptosporidium spp. was 5% by DMSO-modified acid fast stain, 7% by IFAT and 7.6% by PCR respectively. While, G. duodenalis in dairy cows was 7% (35/500) by using zinc sulphate centrifugal floatation technique, 8% (40/500) by IFAT and 8.8% (44/500) by using PCR. No significant risk factors for Cryptosporidium and Giardia infection in dairy cattle were found in this study. For genotype identification of Cryptosporidium spp. were C. parvum and C. bovis. While, all PCR positives from G. duodenalis were Assemblage AI and Assemblage E in this study. The aims of this study were to determine prevalence, risk factors, and genotype of Cryptosporidium spp. and Giardia duodenalis from feces of dairy cattle from the northern part (Chiang Rai, Chiang Mai and Lumpang provinces) of Thailand. A total of 500 fecal samples were collected directly from rectum and Cryptosporidium infection was examined by using DMSO-modified acid fast stain, Immunofluorescence antibody test (IFAT) and polymerase chain reaction (PCR). One the other hand, Giardia duodenalis infection was diagnosed by zinc sulphate centrifugal floatation technique, IFAT and PCR. The prevalence of Cryptosporidium spp. was 5% by DMSO-modified acid fast stain, 7% by IFAT and 7.6% by PCR respectively. While, G. duodenalis in dairy cows was 7% (35/500) by using zinc sulphate centrifugal floatation technique, 8% (40/500) by IFAT and 8.8% (44/500) by using PCR. No significant risk factors for Cryptosporidium and Giardia infection in dairy cattle were found in this study. For genotype identification of Cryptosporidium spp. were C. parvum and C. bovis. While, all PCR positives from G. duodenalis were Assemblage AI and Assemblage E in this study.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

จำนงจิต ผาสุข. "การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงต่อโรค Cryptosporidiosis และ Giardiasis จากอุจจาระโคนมในเขตภาคเหนื่อของประเทศไทยPrevalence study and risk factor of Cryptosporidiosis and Giardiasis from Dairy cow faces in Northern of Thailand". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2552

จำนงจิต ผาสุข. "การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงต่อโรค Cryptosporidiosis และ Giardiasis จากอุจจาระโคนมในเขตภาคเหนื่อของประเทศไทยPrevalence study and risk factor of Cryptosporidiosis and Giardiasis from Dairy cow faces in Northern of Thailand". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2552. Print.



TARR Wordcloud:
การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงต่อโรค Cryptosporidiosis และ Giardiasis จากอุจจาระโคนมในเขตภาคเหนื่อของประเทศไทย
จำนงจิต ผาสุข
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2552
การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงของโรค Trypanosomiasis ที่ทำให้เกิดอาการ แท้งในโคนมในเขตภาคกลาง ของประเทศไทย การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงของปัญหาขาเจ็บในโคนมในเขตภาคตะวันตก สถานภาพและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการคัดเลือกพ่อพันธุ์โคนมเพื่อการปรับปรุงพันธุ์ในประชากรโคนมในเขตภาคกลางของประเทศไทย ความชุกทางซีรัมวิทยาและปัจจัยเสี่ยงของโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคนในแพะและแกะในภาคตะวันตกของประเทศไทย โรคของวัชพืชที่สำคัญในนาข้าวเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย การศึกษาอุบัติการณ์ของโรค visceral leishmaniasis ในสุนัข แมว และ หนูในเขตภาคใต้ของประเทศไทย ความชุกทางซีรัมวิทยาและปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อ Brucella melitensis และ caprine arthritis encephalitis virus ในแพะภาคตะวันตกของประเทศไทย ศึกษาโรคข้าวโพดและข้าวฟ่างในประเทศไทย โรคของปาล์มน้ำมันในประเทศไทย การทำประกันภัยโคนมของสมาชิกองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย เขตมวกเหล็ก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair