สืบค้นงานวิจัย
การโคลนยีนและผลิตเอนไซม์ที่มีความจำเพาะในการย่อย Sericin แต่ไม่ย่อย Fibroin เพื่อใช้ในการฟอกกาวจากเส้นไหม
เปรมวดี วงษ์แสงจันทร์ - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การโคลนยีนและผลิตเอนไซม์ที่มีความจำเพาะในการย่อย Sericin แต่ไม่ย่อย Fibroin เพื่อใช้ในการฟอกกาวจากเส้นไหม
ชื่อเรื่อง (EN): Cloning, expression, and study of proteases with silk-sericin but not silk-fibroin degrading properties for its capability in silk degumming
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เปรมวดี วงษ์แสงจันทร์
บทคัดย่อ: กระบวนการฟอกกาวไหมของประเทศไทยช้สารเคมีและความร้อนสูง จึงมีผลทำลาย โปรตีนเส้นใยไหมได้ อีกทั้งต้องใช้น้ำมาก ขาดมาตรฐาน และไม่มีการควบคุมคุณภาพอย่าง เหมาะสมขึ้นกับความชำนาญของบุคคล การใช้เอนไซม์ protease ในการฟอกกาวไหมเป็น ทางเลือกที่จำเพาะมากขึ้น ใช้สภาวะที่ไม่รุนแรงต่อเส้นไหมและสิ่งแวดล้อม และลดการใช้พลังงาน ได้ อย่างไรก็ตามเอนไซม์ที่มีขายอยู่ยังต้องนำเข้าจากต่างประเทศไม่ต่างจากการนำเข้าเส้นไหมที่ มีคุณภาพ และอาจไม่เหมาะสมกับการฟอกกาวไหมไทย ดังนั้นเพื่อให้ได้เอนไซม์ที่สามารถ นำมาใช้ในการฟอกกาวไหมทดแทนการใช้สารเคมีแบบดั้งเดิม โดยที่เอนไซม์ที่ได้จะต้องมี ประสิทธิภาพในการย่อยกาวไหม (silk sericin) แต่ไม่ย่อยเส้นใยไหม (sik fibroin) และสามารถ ใช้ได้ง่าย ทำให้เกิดความสะดวกต่อผู้ใช้ในระดับชาวบ้าน คณะผู้วิจัยจึงพยายามคัดเลือกหา เอนไซม์ที่เหมาะสมจ กเชื้อจุลินทรีย์ในธรร มชาติที่สามารถย่อยโปรตีนกาวไหมแต่ไม่ย่อยโปรตีน เส้นไหม โดยระยะแรกของโครงการได้คัดเลือกเชื้อจุลินทรีย์ที่นำสนใจในขณะที่ได้พัฒนาวิธี คัดเลือกและตรวจสอบเอนไซม์ไว้หลายริธี และในระยะที่สองของโดรงการนี้ คณะผู้วิจัยได้แยก เอนไซม์จากเชื้อต่างๆ (LC_1_1, LC_1_6, MUR_7_1, MUR_3_7, CRC_6_NB, CLC_6.1, SSR_7_5, SWR_7_1, และ H1C_13_8) ที่แยกได้จากโครงการระยะที่ 1 ซึ่งทุกตัวมี ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงลักษณะของเส้นไหมติบหรือรังไหม และเอนไซม์ที่ผลิตออกนอก เซลลามารถย่อยโปรตีนกาวไหมได้ดีกว่าโปรตีนเส้นใยไหมในรูปแบบผนึกไว้กับพื้นผิวพลาสติก (RD-TEA: Radial Diffusion in agar gel and Thin-layer Enzyme Assay ที่พัฒนาขึ้นจาก โครงการวิจัยระยะที่หนึ่ง) และด้วยการหาลำดับของกรดอะมิโนที่ปลายต้าน N เราพบว่าเอนไซม์ ที่แยกได้สำเร็จสองชนิด คือ elastase (จาก CRC_6_NB) และ subtilisin (จาก CLC_6.1) นอกจากนี้คณะผู้วิจัยยังเป็นรายแรกที่แสดงให้เห็นว่เอนไซม์โดคูนเนสจากดักแด้ไหม B. mor ดังนั้นคณะผู้วิจัยจึงอยู่ สามารถย่อยโปรตีนกาวไหมได้ดีกว่าโปรตีนเส้นใยไหมตามวิธี RD-TEAในช่วงโคลนเอนไซม์เหล่านี้และนำไปผลิตในเชื้อ E. coi และเอนไซม์เหล่านี้จะนำไปใช้ในการ ผสมเป็นสูตรใหม่เพื่อใช้ในการฟอกกาวไหมในโครงการระยะต่อไป เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วย พัฒนากระบวนการฟอกกาวไหมเพื่อลดความเสียหาย และทำให้สามารถควบคุมคุณภาพของ กระบวนการได้ง่ายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
บทคัดย่อ (EN): Degumming of silk traditionally requires alkaline solutions and consumes much water and energy, and pollute environment. In addition, quality control of the process is difficult, depending largely on the skills of the workers. A prolonged process can remove more of the gummy proteins called sericin, but increases the possibility of the silk fibers called fibroin being damaged such as surface fibrillation and drop of tensile strength. Therefore, enzymatic degumming of silk is ideally considered milder and more specific for sericin than fibroin depending on selection of enzymes and conditions. However, available enzymes are not efficiently used or willingly accepted by Thai-silk weavers. We are trying to isolate a protease to specitically digest sericin, without digesting fibroin. The previous phase of the project was started with screening of bacteria from various sources for their ability to change the appearance of raw silk. During the searching we have established several protocols including Radial Diffusion Assay (RDA), Radial Diffusion plus Thin-layer Enzyme Assay (RD-TEA),cultivation RD-TEA, flask cultivation, Native- and SDS-submerged zymography, qualitative and quantitative assessment of degumming efficiency of silk for characterization of enzymes. In this second phase, we have been purified the sericin-specfic proteases from the positive bacteria (LC_1_1,LC_1_6, MUR_7_1, MUR_3_7, CRC_6_NB, CLC_6.1, SSR_7_5, SWR_7_1, and H1C_13_8), all of which can cause significant change in raw silk appearance, and the crude enzymes show preference in digesting sericin compared to fibroin based on RD-TEA. Two enzymes were successfully purified and identified by N-terminal sequencing as elastase (from CRC_6_NB) and subtilisin (from CLC_6.1). In addition cocoonase, enzyme for emerging from the cocoon, from silk pupa B. mori was collected and demonstrated, for the first time, the ability to degrade sericin but not fibroin using RD-TEA.All of these enzymes are being cloned and expressed in E. col. They will be used for formulation of silkdegumming cocktail for the next phase to provide an alternative method for degumming of Thai silk using milder, less destructive conditions than the traditional methods.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ: โคคูนเนส
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การโคลนยีนและผลิตเอนไซม์ที่มีความจำเพาะในการย่อย Sericin แต่ไม่ย่อย Fibroin เพื่อใช้ในการฟอกกาวจากเส้นไหม
มหาวิทยาลัยมหิดล
30 กันยายน 2552
การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร ประสิทธิภาพการย่อยวัตถุดิบอาหารต่างชนิดกันของปลาช่อนทะเล(Rachycentron canadum Linnaeus,1766) การวิเคราะห์การทำงานของยีนที่ใช้ในการสังเคราะห์สารเคอร์คูมินอยด์ในขมิ้นชันโดย RNA interference การยับยั้งการเพิ่มจำนวนไวรัสนิวคลีโอโพลีฮีโดร (NPV) ของไหม โดยใช้ double-strand RNA interference การพัฒนา เทคโนโลยีสะอาดและการใช้ประโยชน์เศษเหลือจากการผลิตไหม ในการผลิตโปรตีนไหม และผลิตภัณฑ์ สู่อุตสาหกรรมชุมชน การศึกษาผลของการใช้ exogenous fibrolytic enzyme ต่อองค์ประกอบทางเคมี จลนพลศาสตร์การผลิตแก๊สและการย่อยได้ของวัตถุแห้งในห้องปฏิบัติการของสิ่งเหลือทิ้งจากโรงงานผลิตกรดซิตริก โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาเครื่องสาวไหมเส้นพุ่ง (ใช้แรงคน) การศึกษายีนที่สร้างสารเอ็นเทอโรท็อกซินในเชื้อ S. aureus ที่แยกได้จากโคที่เป็นโรคเต้านมอักเสบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย โครงการย่อยที่2 การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตปุ๋ยหมักจากกากมันสำปะหลังเพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิตข้าวแบบอินทรีย์ ในกลุ่มเกษตรกร รายย่อยของอําเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ การประเมินอินทรียวัตถุที่ย่อยได้ และพลังงานที่ใช้ประโยชน์ได้ของอาหารผสมสำเร็จที่ใช้ทางใบปาล์มน้ำมันหมักเป็นแหล่งอาหารหยาบเสริมเอนไซม์ระดับต่างๆโดยใช้เทคนิคผลผลิตแก๊ส
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก