สืบค้นงานวิจัย
การปลูกข้าวอินทรีย์ของกลุ่มเกษตรกรทำนาบากเรืออำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร
อุดม ชื่นตา - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การปลูกข้าวอินทรีย์ของกลุ่มเกษตรกรทำนาบากเรืออำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: อุดม ชื่นตา
บทคัดย่อ: การวิจัยเรื่องการปลูกข้าวอินทรีย์ของสมาชิกกลุ่มเกษตรกรทำนาบากเรือ อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยคุณลักษณะส่วนบุคคล ปัจจัยสภาพทางเศรษฐกิจ ปัจจัยสนับสนุนการปลูกข้าวอินทรีย์ และหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยกับการปลูกข้าวอินทรีย์ของเกษตรกร โดยการเก็บข้อมูลจากกลุ่มเกษตรกรทำนาบากเรือที่ปลูกและไม่ปลูกข้าวอินทรีย์ จำนวน 273 คน ด้วยวิธีการสัมภาษณ์ นำข้อมูลมาวิเคราะห์โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์โปรแกรมสำเร็จรูป มีสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าสูงสุด (Maximum) ค่าต่ำสุด (Minimum) ค่ามัชฌิมเลขคณิต (Arithmetic mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) และการทดสอบความสัมพันธ์โดยใช้ค่าไคว์สแควร์ (Chi–square) ผลการวิจัย พบว่า เกษตรกรทั้งกลุ่มผู้ปลูกและไม่ปลูกข้าวอินทรีย์ ส่วนมากจบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา กู้เงินเพื่อใช้ปลูกข้าวโดยส่วนมากกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เลี้ยงสัตว์ที่สามารถนำมูลมาใช้ทำปุ๋ยได้โดยส่วนมากเลี้ยงโค มีเศษวัสดุที่สามารถนำมาใช้ทำปุ๋ยได้คือมูลสัตว์ มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อการปลูกข้าวอินทรีย์ในระดับมาก มีความรู้ในการปลูกข้าวอินทรีย์ระดับปานกลางและมากในกลุ่มผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ และระดับมากในกลุ่มไม่ปลูกข้าวอินทรีย์ มีเหตุผลในการปลูกข้าวอินทรีย์เพราะผลผลิตข้าวอินทรีย์ปราศจากสารเคมีปนเปื้อน และไม่ปลูกเพราะสภาพพื้นที่ไม่เหมาะสม กลุ่มผู้ปลูกและไม่ปลูกข้าวอินทรีย์มีอายุเฉลี่ย 49.3 ปี และ 53.1 ปี มีแรงงานปลูกข้าวเฉลี่ย 8 คน และ 6.7 คน มีประสบการณ์ในการปลูกข้าวเฉลี่ย 27.8 ปี และ 33 ปี เป็นสมาชิกกลุ่มเกษตรกรบากเรือเฉลี่ย 8 ปี และ 7.3 ปี มีพื้นที่ทำการเกษตรเฉลี่ย 22.9 ไร่ และ 21.4 ไร่ มีพื้นที่ปลูกข้าวเฉลี่ย 21.9 ไร่ และ 20.2 ไร่ มีรายได้จากการปลูกข้าวครั้งที่ผ่านมาเฉลี่ย 50,227.3 บาท และ 31,517.3 บาท มีปริมาณผลผลิตข้าวของครอบครัวครั้งที่ผ่านมาเฉลี่ย 6,673.4 กิโลกรัม และ 4,089.1 กิโลกรัม มีหุ้นสมาชิกเฉลี่ย 8.8 หุ้น และ 8.1 หุ้น จำนวนเงินหุ้นเฉลี่ย 883.3 บาท และ 813.7 บาท มีจำนวนเงินกู้เฉลี่ย 46,350.6 บาท และ 46,067.8 บาท มีปริมาณเศษวัสดุที่สามารถนำมาใช้ทำปุ๋ยได้เฉลี่ย 6,789.5 กิโลกรัม และ 3,730 กิโลกรัมตามลำดับ ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์พบว่า ระดับการศึกษา รายได้จากการปลูกข้าว ปริมาณผลผลิตต่อปี ปริมาณเศษวัสดุทางการเกษตร ความรู้เกี่ยวกับการปลูกข้าวอินทรีย์มีความสัมพันธ์กับการปลูกข้าวอินทรีย์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 (P-Value < 0.01) และอายุมีความสัมพันธ์กับการปลูกข้าวอินทรีย์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (P-Value < 0.05) การศึกษาครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า เกษตรกรที่ประกอบอาชีพทำนาควรเลือกปลูกข้าวอินทรีย์เพราะจะทำให้มีผลผลิตและรายได้เพิ่มขึ้น หน่วยงาน องค์กร หรือผู้เกี่ยวข้องควรสนับสนุนส่งเสริมการปลูกข้าวอินทรีย์โดยคำนึงถึงอายุ ระดับการศึกษา การมีเศษวัสดุที่สามารถนำมาทำปุ๋ย และความรู้ของเกษตรกรร่วมด้วย
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: เกษตรกร
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมส่งเสริมการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การปลูกข้าวอินทรีย์ของกลุ่มเกษตรกรทำนาบากเรืออำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร
อุดม ชื่นตา
กรมส่งเสริมการเกษตร
2550
สภาพการทำนาของเกษตรกรตำบลสงยาง อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ปีการเพาะปลูก 2546 สภาพการผลิตข้าวอินทรีย์ของเกษตรกรอำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ สภาพการผลิตข้าวอินทรีย์ของเกษตรกรกิ่งอำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี สภาพการใช้ปุ๋ยในนาข้าวของกลุ่มเกษตรกรทำนาบ้านโคก ตำบลบ้านโคก อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร สภาพการผลิตข้าวหอมมะลิของเกษตรกร อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ปัญหาบางประการที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานกลุ่มเกษตรกรอาชีพทำนาในจังหวัดนครปฐม ปี พ.ศ.2518 ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการปฏิบัติตามมาตรฐานการปลูกข้าวอินทรีย์ของเกษตรกรในอำเภอสังทอง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว การดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรทำนาศรีสว่าง ตำบลศรีสว่าง อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ของสมาชิกกลุ่มเกษตรกรทำนา จังหวัดร้อยเอ็ด ปี พ.ศ. 2547 การใช้เทคโนโลยีการผลิตข้าวหอมมะลิของเกษตรกรทำนาตำบลยะวึก อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก