สืบค้นงานวิจัย
ศึกษาการใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการพัฒนารูปแบบเกษตรอินทรีย์เพื่อการปลูกมังคุดทางภาคใต้ตอนบน
ณัฐวุฒิ จุลสงค์ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: ศึกษาการใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการพัฒนารูปแบบเกษตรอินทรีย์เพื่อการปลูกมังคุดทางภาคใต้ตอนบน
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ณัฐวุฒิ จุลสงค์
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. กรมพัฒนาที่ดิน
บทคัดย่อ: ศึกษาการใช้ผลิตภัณท์ชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินร่วมกับการปลูกหญ้าแฝกเพื่อการปลูกมังคุดในพื้นที่หมู่บ้านพัฒนาที่ดินบ้านตันเนียง ตำบลเทพราช อำเภอสิชล จังหวัดนกรศรีธรรมราชดำเนินการทดลองที่แปลงปลูกมังคุดของเกษตรกร หมู่ที่ 3 ตำบลเทพราช อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ในกลุ่มชุดดินที่ 34 ชุดดินคลองนกกระทุ่ง ระหว่างปี 2549-2551 วางแผนการทดลองแบบ Observation Trial จำนวน 2 วิธีการ ประกอด้วยวิธีการจัดการดินแบบเกษตรกร (ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 25-7-7 , 15-15-15 และ 8-24-24 อัตราสูตรละ 2 กิโลกรัมต่อต้น) และวิธีการจัดการดินโดยใส่ปุ๋ยหมัก (ซุปเปอร์ พด.1) อัตรา 50 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี จุลินทรีย์ป้องกันโรคโคนและรากเน่า (ซุปเปอร์ พด.3) ที่ขยายเชื้อด้วยปุ๋ยหมักแล้วอัตรา 6 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี และฉีดน้ำหมักชีวภาพ (ซุปเปอร์ พด.2) อัตรา 1 : 500 จำนวน 20 ลิตรต่อต้น ทุก I เดือน ร่วมกับการปลูกหญ้าแฝกแบบวงกลมรอบทรงพุ่มมังคุดจากการทดลองพบว่า การจัดการดินโดยใส่ปุ๋ยหมัก (ซุปเปอร์ พด.1) อัตรา ร0 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี จุลินทรีย์ป้องกันโรคโคนและรากเน่า (ซุปเปอร์ พค.3) ที่ขยายเชื้อด้วยปุ๋ยหมักแล้วอัตรา 6 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี และฉีดน้ำหมักชีวภาพ (ซุปเปอร์ พด.2) อัตรา 1: 500 จำนวน 20 ลิตรต่อต้น ทุก 1 เดือน ร่วมกับการปลูกหญ้าแฝกแบบวงกลมรอบทรงพุ่มมังคุด จะทำให้ผลผลิตน้ำหนักสดมังคุดไม่มีความแตกต่างกันในทางสถิติกับการจัดการดินแบบวิธีเกษตรกรที่ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 25-7-7, 15-15-15 และ 8-24-24 อัตราสูตรละ 2 กิโลกรัมต่อต้น แต่จะให้ผลผลิตน้ำหนักสดมังคุดเฉลี่ยตลอดการทดลองเท่ากับ 55.5 กิโลกรัมต่อต้น หรือเท่ากับ 1,1 1.0 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าการจัดการดินแบบวิธีเกษตรกร และก่อนการทดลอง เท่ากับ 4.7 และ 10.5 กิโลกรัมต่อต้น หรือเท่ากับ 94.0 และ 210.0 กิโลกรัมต่อไร่ตามลำดับ การจัดการดินโดยใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินร่วมกับการปลูกหญ้าแฝกรอบทรงพุ่มมังคุดอย่างต่อเนื่องจะทำให้คุณสมบัติของคินบริเวณที่มีการจัดการดินด้วยวิธีดังกล่าวเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและเพิ่มผลผลิตดีกว่าการจัดการดินแบบวิธีเกษตรกรที่มีการใส่เฉพาะปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว และก่อนการทดลอง กล่าวคือ ความลึกของดินที่ระดับ 0-เ5 และ 15-30 เซนติเมตร ความหนาแน่นรวม มีค่าเท่ากับ 1.23 และ 1.35 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร ตามลำดับ ซึ่งลดลงมากกว่าการจัดการดินแบบวิธีเกษตรกรและก่อนการทดลอง แต่ความชื้นของดินทั้ง 2 ระดับ มีค่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดเท่ากับ 29,62 และ 21.10 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าการจัดการดินแบบวิธีเกษตรกรและก่อนการทดลอง ส่วนปริมาณแบคที่เรีย และแอคติโนมัยซีส ของดินที่ระดับ 0-15 เซนติเมตร มีค่าเท่ากับ 5.3x10' , 8.0x10' และ 4.0x10' เซลล์ต่อกรัมของตัวอย่าง ตามลำดับ ซึ่งมีปริมาณมากกว่าการจัดการดินแบบวิธีเกษตรกรและก่อนการทดลอง ยกเว้นปริมาณและแบคที่เรียหลังการทดลองจะมีปริมาณน้อยกว่าก่อนการทดลอง สำหรับความเป็นกรดเป็นด่างของดินที่ระดับ 0-15 และ 15-30 เซนดิเมตร มีค่เท่ากับ 4.8 และ 4.7 ตามลำดับ จัดอยู่ในระดับกรดจัด ซึ่งมีค่ามากกว่าการจัดการดินแบบวิธีเกษตรกรและก่อนการทดลอง ปริมาณอินทรียวัตถุมีปริมาณเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการจัดการ ดินแบบวิธีเกษตรกรและก่อนการทดลองมีค่าเท่ากับ 2.4 และ 2.3 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ จัดอยู่ในระดับปานกลาง ในขณะที่ค่าการนำไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับการจัดการดินแบบวิธีเกษตรกรและก่อนการทดลอง เท่ากับ 0.0เ เคซิเมตรต่อเมตร ของทั้ง 2 ระดับดิน ซึ่งไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตของมังคุด ส่วนปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ โพแทสเซียมและแคลเซียมที่สกัดได้มีปริมาณมากกว่าการจัดการดินแบบวิธีเกษตรกร แต่จะมีปริมาณน้อยกว่าก่อนการทดลองของทั้ง 2 ระดับดิน มีค่าเท่ากับ 11 , 57 , 218 มิกรัมต่อกิโลกรัม จัดอยู่ในระดับปานกลาง , ต่ำ , ต่ำมาก ตามลำดับ และ 8 , 39 , 172 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม จัดอยู่ในระดับต่ำ , ต่ำ , ต่ำมาก ตามลำดับ นอกจากนี้รายได้เหนือต้นทุนผันแปรในช่วงเก็บเกี่ยวปี 2550 ของการจัดการดินโดยใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินร่วมกับการปลูกหญ้าแฝกแบบวงกลมรอบทรงพุ่มมังคุดจะมีค่าต่ำกว่าการจัดการดิน โดยวิธีเกษตรกรเท่ากับ 678 บาทต่อไร่
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: สารป้องกันแมลงศัตรูพืช
คำสำคัญ (EN): Veliver grass
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ณัฐวุฒิ จุลสงค์. "ศึกษาการใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการพัฒนารูปแบบเกษตรอินทรีย์เพื่อการปลูกมังคุดทางภาคใต้ตอนบน". กรมพัฒนาที่ดิน. 2551

ณัฐวุฒิ จุลสงค์. "ศึกษาการใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการพัฒนารูปแบบเกษตรอินทรีย์เพื่อการปลูกมังคุดทางภาคใต้ตอนบน". กรมพัฒนาที่ดิน. 2551. Print.



TARR Wordcloud:
ศึกษาการใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการพัฒนารูปแบบเกษตรอินทรีย์เพื่อการปลูกมังคุดทางภาคใต้ตอนบน
ณัฐวุฒิ จุลสงค์
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2551
การผลิตถ่านจากเปลือกมังคุดและผลมังคุดคัดทิ้งหรือมังคุดตกเกรดเพื่อใช้เป็นถ่านกรองน้ำและถ่านดูดซับความชื้นและกลิ่น การวิจัยในสภาพสวนเพื่อพัฒนาการผลิตมังคุดนอกฤดูจังหวัดนครศรีธรรมราช การจำแนกชนิดและการใช้ประโยชน์จากแมลงในพื้นที่เกษตรอินทรีย์ ใน 3 จังหวัดภาคใต้ตอนบน การศึกษาชนิดของชันโรง (Trigona spp.) ในภาคใต้ตอนบน ของประเทศไทย . การสำรวจและศึกษาความหลากหลายของจุลินทรีย์ดินที่เป็นประโยชน์ในพื้นที่เกษตรอินทรีย์ภาคใต้ของประเทศไทย สภาพการใช้สื่อของเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลในภาคใต้ ศึกษาการใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินร่วมกับการปลูกหญ้าแฝกเพื่อการปลูกมังคุดในพื้นที่หมู่บ้านพัฒนาที่ดินบ้านต้นเนียง ตำบลเทพราช อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ศึกษาการใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินในระบบเกษตรอินทรีย์เพื่อการปลูกผักคะน้าและกวางตุ้งทางภาคใต้ตอนบน การพัฒนาเทคโนโลยีการบังคับดอกสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียในระบบเกษตรอินทรีย์ตามมาตรฐานสากล ปัจจัยที่มีผลต่อวิธีการเก็บเกี่ยวมังคุดของเกษตรกรในภาคใต้
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair