สืบค้นงานวิจัย
ระบบภูมิสารสนเทศเพื่อกำหนดเขตรับซื้ออ้อยของโรงงานน้ำตาลในภาคตะวันออกของประเทสไทย
Nuntana Pontawepitanun - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ระบบภูมิสารสนเทศเพื่อกำหนดเขตรับซื้ออ้อยของโรงงานน้ำตาลในภาคตะวันออกของประเทสไทย
ชื่อเรื่อง (EN): Geo-informatics for sugar cane industry zoning in Eastern Thailand
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Nuntana Pontawepitanun
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาหาพื้นที่ที่มีศักยภาพเหมาะสำหรับการปลูกอ้อย ศึกษาการกำหนดเขตรับซื้ออ้อยของโรงงานน้ำตาล และศึกษาหาสถานที่จัดตั้งสถานีขนถ่ายอ้อยใน ภาคตะวันออก โดยใช้ระบบภูมิสารสนเทศ และโปรแกรม Quantitative Systems for Business Plus version3.0 (QSB) ในการวิเคราะห์มูลค่าขนส่งรวมต่ำสุด ผลการศึกษาการหาพื้นที่ที่มีศักยภาพเหมาะสมสำหรับการปลูกอ้อย พบว่าพื้นที่ที่มีศักยภาพ เหมาะสำหรับการปลูกอ้อยในภาคตะวันออกมีพื้นที่ประมาณ 14,354.20 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อย ละ 45.76 ของพื้นที่ทั้งหมด แบ่งระดับศักยภาพเป็น 3 ระดับ พื้นที่ศึกษาส่วนใหญ่จัดอยู่ในพื้นที่ที่มี ศักยภาพสาํหรับการปลูกอ้อยในระดับสูงมีพื้นที่ประมาณ 7,751.81 ตารางกโิลเมตร หรอืรอ้ ยละ 54.00 พบหนาแน่นในตอนกลางของจังหวัดชลบุรี ด้านตะวันตกของจังหวัดระยอง ตอนกลางรอย ต่อระหว่างจังหวัดปราจีนบุรีกับจังหวัดสระแก้ว รองลงมาคือ พื้นที่ที่มีศักยภาพสำหรับการปลูกอ้อย ในระดับปานกลางประมาณ 5,050.89 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 35.19% และพื้นที่ที่มีศักยภาพ สำหรับการปลูกอ้อยในระดับต่ำประมาณ 1,551.51 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 10.81 ผลการศึกษาการกำหนดเขตรับซื้ออ้อยของโรงงานน้ำตาล พบว่า พื้นที่ที่มีศักยภาพสูงมีพื้น ที่ประมาณ 15,665.85 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 89.86 ครอบคลุมตำบลที่มีการปลูกอ้อย รองลง มาคือ พื้นที่ที่มีศักยภาพปานกลาง มีพื้นที่ประมาณ 1,119.09 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 6.42 และ น้อยที่สุดคือ พื้นที่ที่มีศักยภาพต่ำ 647.75 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 3.72 ผลการศึกษาหาสถานที่จัดตั้งสถานีขนถ่ายอ้อยในภาคตะวันออก พบว่าไม่มีความจำเป็น ต้องจัดตั้งสถานีขนถ่ายอ้อยในภาคตะวันออก เนื่องจากโรงงานน้ำตาลทั้ง 5 โรงในพื้นที่ศึกษามีรัศมี การให้บริการรับซื้ออ้อยครอบคลุมพื้นที่ปลูกอ้อยทั้งหมด
บทคัดย่อ (EN): The objective of this study was to apply Geo-informatics to define the sugar cane industry zone in Eastern Thailand, to identify the potential suitability of sugar cane plantation areas in Eastern Thailand and to identify the sugar cane transfer stations in Eastern Thailand by a using Geographic Information System (GIS) and Quantitative Systems for Business Plus Version 3.0 (QBS) program to analyze the lowest cost of transportation. The study found that the potentially suitable area for sugarcane plantation in Eastern Thailand was 14,354.20 sq.km. total area or 45.76%. The high potential suitability area for sugarcane plantation was 7,751.81 sq.km. total area or 54.0%. These areas were in the middle part of Chonburi province, the west of Rayong province and the middle part of the adjoining province boundary between Prachinburi and Sa Kaeo province. The medium potential suitability area for sugarcane plantation was 5,050.89 sq.km. total area or 35.19%. The low potential suitability area for sugarcane plantation was 1,551.51 sq.km. total area or 10.81%. The results show that the high potential suitability area for sugar cane industry zoning was 15,665.85 sq.km. or 89.86% covering all the total tambons of sugar cane plantation. The medium potential suitability area was 1,119.09 sq.km. or 6.42 % . The low potential suitability area was 647.75 sq.km. or 3.72%. The results show that there is non-sugar cane plantation area that falls into this category. Therefore, it is not necessary to establish a sugar cane transport station in Eastern Thailand.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=1872&obj_id=2009
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Zoning
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาหาพื้นที่ที่มีศักยภาพเหมาะสำหรับการปลูกอ้อย ศึกษาการกำหนดเขตรับซื้ออ้อยของโรงงานน้ำตาล และศึกษาหาสถานที่จัดตั้งสถานีขนถ่ายอ้อยใน ภาคตะวันออก โดยใช้ระบบภูมิสารสนเทศ และโปรแกรม Quantitative Systems for Business Plus version3.0 (QSB) ในการวิเคราะห์มูลค่าขนส่งรวมต่ำสุด ผลการศึกษาการหาพื้นที่ที่มีศักยภาพเหมาะสมสำหรับการปลูกอ้อย พบว่าพื้นที่ที่มีศักยภาพ เหมาะสำหรับการปลูกอ้อยในภาคตะวันออกมีพื้นที่ประมาณ 14,354.20 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อย ละ 45.76 ของพื้นที่ทั้งหมด แบ่งระดับศักยภาพเป็น 3 ระดับ พื้นที่ศึกษาส่วนใหญ่จัดอยู่ในพื้นที่ที่มี ศักยภาพสาํหรับการปลูกอ้อยในระดับสูงมีพื้นที่ประมาณ 7,751.81 ตารางกโิลเมตร หรอืรอ้ ยละ 54.00 พบหนาแน่นในตอนกลางของจังหวัดชลบุรี ด้านตะวันตกของจังหวัดระยอง ตอนกลางรอย ต่อระหว่างจังหวัดปราจีนบุรีกับจังหวัดสระแก้ว รองลงมาคือ พื้นที่ที่มีศักยภาพสำหรับการปลูกอ้อย ในระดับปานกลางประมาณ 5,050.89 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 35.19% และพื้นที่ที่มีศักยภาพ สำหรับการปลูกอ้อยในระดับต่ำประมาณ 1,551.51 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 10.81 ผลการศึกษาการกำหนดเขตรับซื้ออ้อยของโรงงานน้ำตาล พบว่า พื้นที่ที่มีศักยภาพสูงมีพื้น ที่ประมาณ 15,665.85 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 89.86 ครอบคลุมตำบลที่มีการปลูกอ้อย รองลง มาคือ พื้นที่ที่มีศักยภาพปานกลาง มีพื้นที่ประมาณ 1,119.09 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 6.42 และ น้อยที่สุดคือ พื้นที่ที่มีศักยภาพต่ำ 647.75 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 3.72 ผลการศึกษาหาสถานที่จัดตั้งสถานีขนถ่ายอ้อยในภาคตะวันออก พบว่าไม่มีความจำเป็น ต้องจัดตั้งสถานีขนถ่ายอ้อยในภาคตะวันออก เนื่องจากโรงงานน้ำตาลทั้ง 5 โรงในพื้นที่ศึกษามีรัศมี การให้บริการรับซื้ออ้อยครอบคลุมพื้นที่ปลูกอ้อยทั้งหมด
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ระบบภูมิสารสนเทศเพื่อกำหนดเขตรับซื้ออ้อยของโรงงานน้ำตาลในภาคตะวันออกของประเทสไทย
Nuntana Pontawepitanun
มหาวิทยาลัยมหิดล
2547
ผลของสมุนไพรไทยในภาคอีสานต่อระบบภูมิคุ้มกัน ระบบภูมิสารสนเทศเพื่อจำแนกสังคมพืชป่าชายเลนในจังหวัดตราด ฟองน้ำทะเลในอันดับ Haplosclerida ในแนวประการังบริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกของประเทศไทย คืนสู่ธรรมชาติ การศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไทย โครเมี่ยนสปิเนลจากหินอัคนีอัลตราเมฟิกบางส่วน ในภาคเหนือและภาคตะวันออกของประเทศไทย การประยุกต์เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างโรงงานแป้งมันสำปะหลังกับพื้นที่เพาะปลูกใน จังหวัดนครราชสีมา ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการข้อมูลงานวิจัยด้านสิ่งมีชีวิตในดินของประเทศไทย ปลิงทะเลบริเวณชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของประเทศไทย โครงสร้างชุมชนของปะการังแข็งบริเวณชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของประเทศไทย การหาลักษณะเฉพาะทางโมเลกุลของเชื้อ Campylobacter จากไก่ และคนในเขตภาคเหนือของประเทศไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก