สืบค้นงานวิจัย
การจัดการหลุมด้วยปุ๋ยหมักชีวภาพ พด.๑๒ และวัสดุปรับปรุงดินบางชนิด เพื่อปลูกผักหวานป่าในพื้นที่รับน้ำบริเวณพื้นที่ดินเค็ม
มยุรี อบสุข - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การจัดการหลุมด้วยปุ๋ยหมักชีวภาพ พด.๑๒ และวัสดุปรับปรุงดินบางชนิด เพื่อปลูกผักหวานป่าในพื้นที่รับน้ำบริเวณพื้นที่ดินเค็ม
ชื่อเรื่อง (EN): Management Planting hole with Bio-compost PD.12 and Some Soil improvement types to grow
บทคัดย่อ: การศึกษาการจัดการหลุมด้วยปุ๋ยหมักชีวภาพ พด.12 และวัสดุปรับปรุงดินบางชนิดเพื่อปลูกผักหวานป่าในพื้นที่รับน้ำบริเวณพื้นที่ดินเค็มได้ดำเนินการศึกษาในปี 2558-2559 ระยะเวลา 2 ปี บริเวณพื้นที่ของเกษตรกรบ้านรัตนวารี ตำบลรัตนวารี อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ ดินบริเวณที่ทำการศึกษาเป็นพื้นที่รับน้ำบริเวณพื้นที่ดินเค็ม อยู่ในกลุ่มชุดดินที่ 41 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการจัดการหลุมด้วยปุ๋ยหมักชีวภาพ พด.12 และวัสดุปรับปรุงดินบางชนิดเพื่อปลูกผักหวานป่าในพื้นที่รับน้ำบริเวณพื้นที่ดินเค็ม โดยวางแผนการทดลองแบบ RCBD จำนวน 5 ตำรับที่ 5 จัดการดินด้วยถ่านชีวภาพ ผลการศึกษา พบว่า สภาพดินที่ทำการศึกษามีลักษณะเป็นดินทรายหรือดินทรายปนดินร่วน ส่วนชั้นดินถัดลงไปเป็นดินร่วนปนทราย และดินร่วนเหนียวปนทราย ก่อนการทดลอง สถาพดินมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างตำ่ มีปริมาณอินทรียวัตถุอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ พบว่า การเจริญเติบโตด้านความสูง อัตราการอดตายของผักหวานป่าไม่มีความแตกต่างทางสถิติ แต่กลับพบว่าเมื่อมีการปรับปรุงบำรุงดินในช่วงระยะเวลาปลูก 2 ปี ด้วยวัสดุต่างๆ ด้วยแกลบ ปุ๋ยคอก ปุ๋นชีวภาพ พด.12 และถ่านชีวภาพ มีผลทำให้ปริมาณอินทรีย์วัตถุ ค่าความเป็นกรดเป็นด่างเพิ่มมากขึ้น โดยปริมาณอินทรีย์วัตถุมีค่าเพิ่มขึ้นเท่ากลับ 0.02-1.26 เปอร์เซ็นต์ ในตำรับที่มีการใส่ถ่านชีวภาพ ทำให้ปริมาณอินทรีย์วัตถุมีค่าเพิ่มขึ้นเท่ากลับ 1.26 เปอร์เซ็นต์ เป็นผลทำให้ผักหวานป่ามีการเจริญเติบโตได้ดี มีความยาวยอดเฉลี่ย 13.84 เซนติเมตร และมีอัตรารอดตายถึงร้อยละ 97.50 แต่ในตำรับที่มีการใส่ปุ๋ยชีวภาพ พด.12 กลับมีผลทำให้ความยาวเฉลี่ยสูงที่สุดที่ 14.77 เซนติเมตร และมีอัตรารอดตายถึงร้อยละ 96.25 ทั้งนี้เป็นผลเนื่องจาก ถ่านชีวภาพปุ๋ยชีวภาพ เกิดการย่อยสลายมีการเปลี่ยนรูปจากสารอินทรีย์เป็นอินทรีย์วัตถุ ทำให้พืชสามารถเอาธาตุอาหาร ไนโตเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ไปเป็นส่วนประกอบในยอดอ่อนกับใบอ่อน และใบเจริญเต็มที่ (ธนากร,2557)
บทคัดย่อ (EN): The study of “The Management of Planting Hole with bio-compost PorDor12 and Some Soil Amendments for Melienthasuavis Pierre in Recharged Saline Soil” was conducted for 2 years during B.E. 2558 – B.E. 2559 in the area of the agriculturists at Ban Rattana Wari Subdistrict, Hua Taphan District, Amnat Charoen Province. Soil of the targeted area was recharged saline soil, classified in Soil Group No. 41. The main objective of the study was to investigate the management of planting hole with bio-compost PorDor12 and some soil amendments for Melienthasuavis Pierre in recharged saline soil. 5 experimental recipes of RCBD experiment was planned with 4-time repetition. To clarify, the researcher designed the experiment as Recipe 1 – No soil management; Recipe 2 –Using chaff for soil management; Recipe 3 – Using manure for soild management; Recipe 4 – Using bio-compost PorDor12 for soil management; and Recipe 5 – Using biochar for soild management. The findings revealed that the targeted area was sandy loam. Before the experiment, soil fertility had been low. Using manure for soil management made Melienthasuavis Pierre grow well. The length of its top was 4.0 cm. by average and the survival rate was high up to 70% after it had been planted in soil. In contrast, the one with no soil management possessed the length of top at 1.70 cm. during 2 years of planting. As for using chaff, bio-compost PorDor12, and biochar for soil management, no statistical difference was found in term of the length of top (2.75. 3.0, and 3.10 cm., respectively). In addition, soil salinity showed the value of EC at 0.02 dS/m, which meant no salinity indeed.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: พด
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การจัดการหลุมด้วยปุ๋ยหมักชีวภาพ พด.๑๒ และวัสดุปรับปรุงดินบางชนิด เพื่อปลูกผักหวานป่าในพื้นที่รับน้ำบริเวณพื้นที่ดินเค็ม
มยุรี อบสุข
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2559
การเปลี่ยนแปลงการแพร่กระจายคราบเกลือบนผิวดินหลังจากการพัฒนา ดินเค็มแบบบูรณาการในพื้นที่ ตำบลด่านช้าง ตำบลขุนทอง อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา การจัดการดินเค็มในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา การจัดการดินด้วยวัสดุปรับปรุงดินบางชนิดเพื่อปลูกผักหวานป่าบนคันดินบริเวณสระน้ำประจำไร่นาในพื้นที่ดินเค็มจังหวัดร้อยเอ็ด การวิเคราะห์ลำดับเบสยีน ITS2 และ psbA-trnH ในผักหวานป่า การใช้ปุ๋ยเคมีและวัสดุปรับปรุงดินต่อการผลิตหน่อไม้ฝรั่งในพื้นที่ดินเค็ม การเพิ่มผลผลิตข้าวนาหว่านน้ำตมภายใต้การจัดการปุ๋ยในชุดดินพัทลุง การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความหลากหลายของพืชพรรณและคุณสมบัติของดินบางประการในพื้นที่ดินเค็มปานกลางบริเวณพื้นที่ลุ่มนํ้าชี การจัดการดินที่เหมาะสมด้วยปุ๋ยชีวภาพ (พด.12) ร่วมกับวัสดุปรับปรุงดิน เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินและผลผลิตข้าวโพดหวาน ในชุดดินเขาพลอง (กลุ่มชุดดินที่ 44) การจัดการดินโดยใช้พืชบำรุงดิน วัสดุปรับปรุงดิน ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ พด.12 และปุ๋ยเคมี ร่วมกับการปลูกต้นเหมียงเป็นพืชแซมยางพารา ในกลุ่มชุดดินที่ 45 การจัดการดินในหลุมปลูกด้วยวัสดุอินทรีย์ชนิดต่างๆ ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของไม้ผลในพื้นที่ดินเค็มจังหวัดอำนาจเจริญ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก