สืบค้นงานวิจัย
ผลการดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งฟาร์ม ปี 2549 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อาคม จงอริยตระกูล - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: ผลการดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งฟาร์ม ปี 2549 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: อาคม จงอริยตระกูล
บทคัดย่อ: การศึกษาผลการดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งฟาร์ม ปี 2549 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งฟาร์มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปี 2549 ประเมินผลการนำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปปฏิบัติ ความคิดเห็นของเกษตรกรที่มีต่อโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งฟาร์ม และศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะของผู้จัดการฟาร์มและเกษตรกรที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้ รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์จากผู้จัดการฟาร์มกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 197 ราย และเกษตรกรที่ผ่านการถ่ายทอดความรู้จำนวน 394 ราย สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพอสรุปได้ ดังนี้ ประเภทของที่ดินที่ใช้ทำฟาร์ม ร้อยละ 51.3 เป็นเป็นที่ดินสาธารณะ มีพื้นที่ทำฟาร์มเฉลี่ย 8.28 ไร่ ลงทุนทำฟาร์มเฉลี่ย 119,678.19 บาท ฟาร์มร้อยละ 70.1 ทำกิจกรรมไร่นาสวนผสม ฟาร์มร้อยละ 50.3 คัดเลือกโดยเกษตรอำเภอ ร้อยละ 67.0 คัดเลือกพื้นที่โดยคณะกรรมการบริหารศูนย์บริการฯร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบล ฟาร์มร้อยละ 87.3 มีการทำหนังสือขอใช้ประโยชน์จากที่ดินเฉลี่ย 7.22 ปี ฟาร์มส่วนใหญ่มีระบบโครงสร้างพื้นฐานค่อนข้างพร้อม โดยคำนึงถึงกิจกรรมที่ยั่งยืน ใช้กระบวนการมีส่วนร่วมจากคณะกรรมการศูนย์บริการฯ ใช้ข้อมูลจากแผนพัฒนาการเกษตรประจำตำบล และ ใช้ข้อมูลจากฟาร์มปี 2547 -2548 ฟาร์มร้อยละ 86.3 คัดเลือกเกษตรกรที่มีความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมฟาร์ม ฟาร์มส่วนใหญ่ คำนึงถึงแผนการผลิตที่ทำให้เกิดรายได้ต่อเนื่อง การผลิตสินค้าที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน ความสอดคล้องกับภูมิปัญญาท้องถิ่นและเทคโนโลยีที่เหมาะสม การใช้ปัจจัยการผลิตที่สอดคล้องกับแผนการผลิต และความสอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ของอำเภอ/จังหวัด ฟาร์มส่วนใหญ่ มีการจัดทำแผนผังฟาร์มเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีการจัดทำปฏิทินตามแผนการผลิต และ มีการวิเคราะห์ผลตอบแทนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฟาร์มส่วนใหญ่ มีการดำเนินการตามแผนการผลิต โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ผลิต ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม มีการใช้ทรัพยากรและปัจจัยการผลิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการจดบันทึกข้อมูลขั้นตอนการผลิตสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และ มีการสร้างเครือข่ายการผลิตร่วมกับกลุ่มหรือฟาร์มข้างเคียง ฟาร์มร้อยละ 68.5 มีการจัดการผลผลิต โดยมีการใช้วิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพและได้ราคาที่ดีขึ้น และร้อยละ 41.6 มีการเพิ่มมูลค่าสินค้าและแปรรูปสินค้า ฟาร์มร้อยละ 76. มีการจัดการด้านตลาดผลผลิต โดยมีการเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายการจำหน่ายสินค้า ฟาร์มร้อยละ 57.9 มีการจัดทำระเบียบข้อบังคับด้านการเงินของฟาร์ม ทุกฟาร์มยังไม่มีการจัดสรรรายได้ของฟาร์ม ฟาร์มร้อยละ 78.7 มีการจดบันทึกข้อมูลการการเป็นเอกสาร และร้อยละ 67.5 มีการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายของฟาร์มที่ถูกต้อง การถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรและประชาสัมพันธ์โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งฟาร์ม พบว่าฟาร์มส่วนใหญ่ ร้อยละ 92.9 มีแผนการถ่ายทอดสอดคล้องกับแผนการผลิต ร้อยละ 94.9 มีศาลาเรียนรู้และจุดเรียนรู้ในฟาร์ม ร้อยละ 70.6 มีการกระตุ้นให้เกิดกลุ่มเรียนรู้ กลุ่มกิจกิจกรรม ร้อยละ 62.9 มีการถ่ายทอดความรู้ตามกระบวนการโรงเรียนเกษตรกรหรือหลักสูตรระยะสั้น และมีการประสานวิทยากรจากภายนอกมาให้ความรู้ และ ร้อยละ 31.0 มีการนำเกษตรกรไปศึกษาดูงานฟาร์มที่ประสบผลสำเร็จ ทุกฟาร์มมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรแล้ว เฉลี่ย 3.5 ครั้ง จำนวนคนที่เข้ารับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรในแต่ละฟาร์ม เฉลี่ย 53.45 คน โดยฟาร์มส่วนใหญ่ ร้อยละ 85.8 ถ่ายทอดไม่เกิน 50 คน วิธีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร พบว่าฟาร์มส่วนใหญ่ ร้อยละ 96.4 ใช้การถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรโดยการบรรยายร่วมกับการดูงาน ฟาร์มส่วนใหญ่ร้อยละ 74.1 มีการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ และร้อยละ 50.8 มีการจัดนิทรรศการให้ความรู้ในฟาร์ม ผู้จัดการฟาร์มร้อยละ 51.8 มีการติดตามงานสัปดาห์ละ 1 – 2 วัน และร้อยละ 80.2 มีการายงานเป็นประจำทุกเดือน ผู้จัดการฟาร์มทุกรายเข้ารับการอบรมครบทั้ง 2 หลักสูตร และร้อยละ 64.0 มีการนำความรู้ไปใช้ในระดับมาก มีฟาร์มเพียงร้อยละ 39.1 ที่เริ่มมีผลผลิตออกจำหน่ายแล้วบางส่วนนั้น มีรายได้เฉลี่ย 14,955.43 โดยทุกฟาร์มที่ดำเนินการในปี 2549 ยังไม่สามารถคำนวณกำไรขาดทุนได้ ปัญหาอุปสรรคของผู้จัดการฟาร์ม พบว่างบประมาณไม่เพียงพอและล่าช้า สถานที่ทำฟาร์มบางแปลงมีข้อจำกัด มีปัญหาการระบาดของแมลงศัตรูพืช บางฟาร์มมีการนำพืชชนิดใหม่เข้ามาปลูกที่ไม่เหมาะกับ ขาดสื่อ โสต ในการถ่ายทอดความรู้ให้มีประสิทธิภาพ การจัดอบรมเพิ่มศักยภาพผู้จัดการฟาร์มทำได้ล่าช้าเกินไป ในส่วนที่เป็นปัญหาของเกษตรกร พบว่าไม่สามารถนำความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดไปใช้ประโยชน์เนื่องจากไม่มีงบลงทุน ภัยธรรมชาติ และ การขาดแรงงานประจำในฟาร์ม เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ เฉลี่ย 4.35 ปี จำนวนครั้งที่เข้ารับการถ่ายทอดความรู้ เฉลี่ย 3.5 ครั้ง เกษตรกรร้อยละ 55.6 ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับการถ่ายทอดความรู้โดยสมัครใจขอรับการถ่ายทอดความรู้ เกษตรกรร้อยละ 97.0 บอกว่าประเด็นความรู้ที่ได้รับตรงกับความต้องการระดับมาก โดยเกษตรกรที่เข้ารับการถ่ายทอดความรู้ร้อยละ 61.4 สามารถนำความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดมาปฏิบัติได้ในระดับมาก เฉลี่ย 3 ประเด็น เกษตรกรได้รับผลผลิต เฉลี่ยรายละ 1.76 ชนิด โดยเกษตรกรร้อยละ 48.5 เกษตรกรร้อยละ 86.5 เห็นว่าโครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรในระดับมาก ในภาพรวมเกษตรกรเห็นด้วยกับโครงการระดับปานกลาง
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: เกษตรกร
หมวดหมู่ AGRIS:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลการดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งฟาร์ม ปี 2549 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
กรมส่งเสริมการเกษตร
2550
ผลการดำเนินงานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดีเด่น ระดับเขต ปี 2549 - 2551 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ความคิดเห็นของผู้จัดการฟาร์ม ต่อการดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งฟาร์มจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สภาพการดำเนินงานของกลุ่มยุวเกษตรกรดีเด่นระดับเขต (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ปี 2551 รายงานการศึกษาผลการดำเนินงานโครงการเร่งรัดการปลูกยางพาราเพื่อกระจายรายได้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปี 2532-2536 จังหวัดสุรินทร์ ความต้องการของสมาชิกต่อการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกร กรณีกลุ่มเกษตรกรดีเด่น ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปี 2540 - 2544 การดำเนินงานโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ปี 2550 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การดำเนินงานและความคาดหวังของอาจารย์ต่องานส่งเสริมอาชีพและบริการชุมชนของวิทยาลัยเกษตรกรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การยอมรับมาตรฐานฟาร์มผึ้งของเกษตรกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย สภาพการผลิตยางพาราของเกษตรกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เปิดกรีดยางแล้วในปี 2540 การปฏิบัติของเกษตรกรในการจัดการหนูในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก