สืบค้นงานวิจัย
ความชุกชุม การแพร่กระจาย และการใช้ประโยชน์ จากการทำการประมงหอยน้ำจืดและกุ้งฝอยในบริเวณบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ
นงนุช สุวรรณเพ็ง - กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด, กรมประมง
ชื่อเรื่อง: ความชุกชุม การแพร่กระจาย และการใช้ประโยชน์ จากการทำการประมงหอยน้ำจืดและกุ้งฝอยในบริเวณบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ
ชื่อเรื่อง (EN): Abundance, Distribution and Utilization of Freshwater Mollusk and Prawn in Bueng Khong Long, Bueng Kan Province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นงนุช สุวรรณเพ็ง
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การศึกษาความชุกชุม การแพร่กระจาย และการใช้ประโยชน์จากการทําการประมงหอยน้ำจืดและกุ้งฝอยในบริเวณบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ได้ดําเนินการระหว่างเดือนธันวาคม 2552 ถึงเดือนกันยายน 2553 จาก 5 จุดสํารวจ และ 4 เที่ยวสํารวจ ผลการศึกษาพบหอยน้ำจืดรวม 5 ชนิด ได้แก่ 1) หอยขมลาย Filopaludina (Filopaludina) sumatrensis speciosa (Deshayes, 1876) 2) หอยขมหรือหอยจูบ Filopaludina (Siamopaludina) martensi (Frauenfeld, 1865) 3) หอยโข่ง Pila polita (Deshayes, 1830) 4) หอยเชอรี่ Pomacea canaliculata (Lamarck, 1828) และ 5) หอยกาบอ้วน Uniandra contradens ascia (Hanley,1856) โดยหอยขมและหอยกาบอ้วนพบมีความชุกชุมมากที่สุด 8.4 ตัวต่อ ตารางเมตร รองลงมาคือหอยขมลาย หอยเชอรี่ และหอยโข่ง มีความชุกชุมเฉลี่ย 2.8, 1.8 และ 0.6 ตัวต่อ ตารางเมตร ตามลําดับ หอยน้ำจืดทั้ง 5 ชนิด มีความยาวอยู่ในช่วง 31-40, 51-60, 21-25, 31-40 และ 31-40 มิลลิเมตร ส่วนการศึกษาความหลากหลายของกุ้งฝอยพบรวม 4 ชนิด ได้แก่ 1) ชนิด Macrobrachium lanchesteri (De Man, 1911) 2) ชนิด Macrobrachium niphanae Shokita and Takeda, 1989 3) ชนิด Macrobrachium sp. และ 4) ชนิด Caridina laevis Heller, 1862 โดยพบกุ้งฝอยชนิด Macrobrachuim lanchesteri มีความชุกชุมมากที่สุด 31.4 ตัวต่อลอบต่อคืน รองลงมาคือชนิด Macrobrachuim sp., Macrobrachuim niphanae และ Caridina laevis มีความชุกชุมเฉลี่ย 14.8, 13.6 และ 7.6 ตัวต่อลอบต่อคืน ตามลําดับ ขนาดความยาวกุ้งฝอยแต่ละชนิดพบอยู่ระหว่าง 41-45, 16-20, 31-40 และ 11-15 มิลลิเมตร ตามลําดับ สําหรับการศึกษาการใช้ประโยชน์หอยน้ำจืดและกุ้งฝอยในชุมชนบริเวณรอบ บึงโขงหลงพบส่วนใหญ่เป็นการนํามาใช้เพื่อการบริโภคในครัวเรือน มีผู้ทําการประมงหอยน้ำจืด 37 ราย และกุ้งฝอย 22 ราย โดยมีผลจับหอยน้ำจืดเฉลี่ย 92.06 กิโลกรัมต่อเดือน คิดเป็นมูลค่า 1,381 บาทต่อเดือน หรือ มีมูลค่ารวม 16,572 บาทต่อปี และมีการจับกุ้งฝอยเฉลี่ย 447.24 กิโลกรัมต่อเดือน คิดเป็นมูลค่า 60,377 บาทต่อเดือน หรือมีมูลค่ารวม 724,524 บาทต่อปี
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://www.inlandfisheries.go.th/research/details.php?id=330
เผยแพร่โดย: กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด, กรมประมง
คำสำคัญ: บึงโขงหลง
คำสำคัญ (EN): freshwater mollusk, prawn, abundance, distribution, utilization, Bueng Khong Long
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมประมง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ความชุกชุม การแพร่กระจาย และการใช้ประโยชน์ จากการทำการประมงหอยน้ำจืดและกุ้งฝอยในบริเวณบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ
กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด, กรมประมง
2558
ความหลากหลาย ความชุกชุม และการแพร่กระจายของพรรณไม้น้ำในบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ความหลากหลาย ความชุกชุม และการแพร่กระจายของสัตว์หน้าดินในบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย ความชุกชุม ความหลากหลายทางชีวภาพ และการแพร่กระจายของปู กุ้ง หอย ปลา และแมลงน้ำในบริเวณบึงพุดซา จังหวัดนครราชสีมา ความหลากหลายและการแพร่กระจายของพรรณไม้น้ำในบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ความหลากหลาย ปริมาณและการแพร่กระจายของหอยน้ำจืดในแม่น้ำบางปะกงและแม่น้ำปราจีนบุรี การศึกษาการแพร่กระจายของปลิงทะเล พื้นที่ชายฝั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ การเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำในบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย ศักยภาพของพื้นที่ในการจัดสร้างปะการังเทียมเพื่อการประมง ความหลากหลาย ความชุกชุม การแพร่กระจายของสัตว์หน้าดินคลองอู่ตะเภา จังหวัดสงขลา การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก