สืบค้นงานวิจัย
การคัดเลือกและการหาสภาวะที่เหมาะสมในการกำจัดไนเตรทและฟอสเฟต ด้วยสาหร่ายสีเขียวที่คัดแยกจากน้ำเสียในโรงงานอุตสาหกรรมผลิตอาหารสำเร็จรูป
สามารถ ต่ายขาว - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
ชื่อเรื่อง: การคัดเลือกและการหาสภาวะที่เหมาะสมในการกำจัดไนเตรทและฟอสเฟต ด้วยสาหร่ายสีเขียวที่คัดแยกจากน้ำเสียในโรงงานอุตสาหกรรมผลิตอาหารสำเร็จรูป
ชื่อเรื่อง (EN): Isolation and optimization of nitrate and phosphate removal by green algae isolated from wastewater of food industrial
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สามารถ ต่ายขาว
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: สาหร่ายสีเขียวมีความสามารถในการกำจัดไนเตรทและฟอสเฟตออกจากน้ำเสีย งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดแยกสาหร่ายสีเขียวจากน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมผลิตอาหารสำเร็จรูปในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มีความสามารถสูงในการกำจัดไนเตรท และฟอสเฟตในน้ำเสีย จากการทดลองพบว่าสามารถคัดแยกสาหร่ายสีเขียวได้ทั้งหมด 21 ไอโซเลท จากนั้นนำสาหร่ายสีเขียวทุกไอโซเลทมาเพาะเลี้ยงในน้ำเสียที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว (พีเอช 7) ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ความเข้มแสง 30 ไมโครโมลโฟตอนต่อตารางเมตรต่อวินาที เป็นเวลา 18 ชั่วโมงต่อวัน และเพาะเลี้ยงในสภาวะเขย่าที่ความเร็วรอบ 120 รอบต่อนาที เป็นเวลา 5 วัน ก่อนที่จะวัดคุณลักษณะต่างๆ ทางเคมีของน้ำเสียหลังการเพาะเลี้ยง จากการทดลองพบว่าสาหร่ายสีเขียวไอโซเลท FPI 18 มีความสามารถมากที่สุดในการกำจัดไนเตรทและฟอสเฟต และยังมีความสามารถสูงสุดในการกำจัดค่าบีโอดี และซีโอดี เมื่อเปรียบเทียบกับสาหร่ายสีเขียวไอโซเลทอื่นๆ จากการจำแนกสายพันธุ์สาหร่ายสีเขียวไอโซเลท FPI 18 โดยการศึกษาลำดับ นิวคลีโอไทด์บริเวณ 18S rDNA และศึกษาแผนภูมิวิฒนาการ พบว่าสาหร่ายสีเขียวไอโซเลท FPI 18 มีความคล้ายคลึงและใกล้ชิดกับสาหร่ายสีเขียวในจีนัส Tetraspora จึงตั้งชื่อสาหร่ายชนิดนี้ว่า Tetraspora sp. Rmutsb FPI 18 การศึกษาสัณฐานวิทยาภายใต้กล้องจุลทรรศน์พบว่า Tetraspora sp. Rmutsb FPI 18 มีรูปร่างกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5-6 ไมโครเมตร นอกจากนี้เซลล์มีลักษณะเป็นเซลล์เดียว หรืออยู่รวมกันเป็นกลุ่ม 3-4 เซลล์ภายใต้ชีทหุ้มที่โปร่งแสง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการตรวจสอบพารามิเตอร์บางประการที่ส่งผลในการกำจัดไนเตรทและฟอสเฟตออกจากน้ำเสียโดยสาหร่ายสีเขียวสายพันธุ์นี้ เช่น ค่าพีเอช อุณหภูมิ และความเข้มแสง จากการศึกษาพบว่า สภาวะที่ดีที่สุดในการกำจัดไนเตรทและฟอสเฟต คือ น้ำเสียมีค่าพีเอชเริ่มต้น 8 อุณหภูมิในการเพาะเลี้ยง 30 องศาเซลเซียส และความเข้มแสง 50 ไมโครโมลโฟตอนต่อตารางเมตรต่อวินาที เป็นเวลา 18 ชั่วโมงต่อวัน นอกจากนี้การลดลงของไนเตรทและฟอสเฟต ในสภาวะดังกล่าวยังสอดคล้องกับผลของชีวมวลของ Tetraspora sp. Rmutsb FPI 18 ที่สูงขึ้นอีกด้วย เมื่อนำสภาวะที่ดีที่สุดทุกสภาวะ มารวมกันตั้งชื่อว่า “สภาวะที่เหมาะสม” โดยนำสภาวะที่เหมาะสมมาทดลองเพาะเลี้ยง Tetraspora sp. Rmutsb FPI 18 เทียบกับ สภาวะเพาะปกติ (น้ำเสียพีเอชเริ่มต้น 8 อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส และความเข้มแสง 30 ไมโครโมลโฟตอนต่อตารางเมตรต่อวินาที เป็นเวลา 18 ชั่วโมงต่อวัน) ผลการทดลองพบว่า สาหร่ายสีเขียว Tetraspora sp. Rmutsb FPI 18 มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดไนเตรทและฟอสเฟตออกจากน้ำเสียได้ถึงร้อยละ 93.65 และ 96.65 ตามลำดับ เมื่อเพาะเลี้ยงเซลล์ในสภาวะที่เหมาะสม
บทคัดย่อ (EN): Green algae are able to remove inorganic nitrogen and phosporus from wastewater. This work aimed to isolate green algae from food processing industrial wastewater in Phra Nakhon Si Ayutthaya province that has highly efficient removal of nitrate and phosphate from wastewater. It was found that twenty-one green algae strains were isolated from wastewater samples. All green algal isolates were grown in sterile wastewater (pH 7) at 30 ºC under light intensity of 30 µmolphoton/m2/s for 18 h per day and shaking at 120 rpm for 5 days before measuring chemical characteristics of wastewater after cultivation. The results revealed that isolate FPI 18 showed the highest nitrate and phosphate removal and also showed the lowest BOD and COD when compared with other green algae isolates. The genetics characterization of green algal isolate FPI 18 was classified by using 18S rDNA squence and phylogenetics tree analysis. The results indicated that green algae isolate FPI 18 showed their similarities comparing to the green alge in the genus of Tetraspora. Thereby, this strain was named Tetraspora sp. Rmutsb FPI 18. In morphological characterization under light microscope, Tetraspora sp. Rmutsb FPI 18 has an oval shape and 5-6 µm of diameter. In addition, single cells and 3-4 cells surrounded by transparent sheath can be observed. Furthermore, some parameters for nitrate and phosphate removal by this strain such as pH, temperature and light intensity were also examined. The results showed that the best condition for nitrate and phosphate removal from wastewater by Tetraspora sp. Rmutsb FPI 18 were initial pH 8, temperature at 30 ºC and light intensity of 50 µmolphoton/m2/s for 18 h per day. In addition, the reduction of nitrate and phosphate under these conditions corresponded to the increasing of Tetraspora sp. Rmutsb FPI 18 biomass. The best of each condition was combined and designated as “optimal condition”. The optimal condition in wastewater was used for cultivation of Tetraspora sp. Rmutsb FPI 18 and compared with control condition (wastewater initial pH 7, 25 ºC and 30 µmolphoton/m2/s for 18 h per day). The results revealed that Tetraspora sp. Rmutsb FPI 18 showed high capability to remove nitrate and phosphate from wastewater with removal efficiency of 93.65 and 96.65%, respectively under cultivated cell in optimal condition.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
จำนวนหน้า: 18
เอกสารแนบ: https://li01.tci-thaijo.org/index.php/rmutsb-sci/article/view/223835
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
กลุ่มเป้าหมาย:
คำสำคัญ: สาหร่ายสีเขียว, การบำบัดน้ำเสีย, ไนเตรท, ฟอสเฟต, น้ำเสียโรงงานอุตสาหกรรมผลิตอาหารสำเร็จรูป
คำสำคัญ (EN): green algae, wastewater treatment, nitrate, phosphate, food processing industrial wastewater
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
รายละเอียด: วารสารวิชาการ มทร.สุวรรณภูมิ Vol. 8 No. 1 (2020): January - June 2020
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การคัดเลือกและการหาสภาวะที่เหมาะสมในการกำจัดไนเตรทและฟอสเฟต ด้วยสาหร่ายสีเขียวที่คัดแยกจากน้ำเสียในโรงงานอุตสาหกรรมผลิตอาหารสำเร็จรูป
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
การศึกษาระบบ Bioreactor Membrane เพื่อผลิตสาหร่ายโดยใช้น้ำสกัดชีวภาพจากไส้เดือนเป็นสารอาหารอย่างครบวงจร สี อุตสาหกรรมอาหารไทย ปลอดภัยเชื่อถือได้ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านสาหร่าย วว โครงการศึกษาสถานภาพการใช้เทคโนโลยีแก็สซิฟิเคชันสำหรับ ผลิตความร้อนและไฟฟ้าในระดับอุตสาหกรรม ชุมชน หรือ วิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดเล็กของประเทศไทย การวิจัยเชิงนโยบายเพื่อการประหยัดพลังงานและคาร์บอนไดออกไซด์ สำหรับประเทศไทยและภาคอุตสาหกรรม ความร่วมมือในเรื่อง Asian Network on Microbial Research [ANMR] : การจัดจำแนกและความหลากหลายในชนิดพันธุ์ของสาหร่าย การบำบัดน้ำเสียจากโรงงานผลิตหมึกพิมพ์ฐานน้ำโดยวิธีการตกตะกอนทางเคมี ร่วมกับการใช้พืช (ระยะที่ 2) การศึกษาเพื่อผลิตสาหร่ายเป็นพลังงานทดแทน การศึกษากระบวนการที่เหมาะสมสำหรับการผลิตรังนกพร้อมชง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก