สืบค้นงานวิจัย
การปรับโครงสร้างทางกายภาพร่วมกับการใช้วัสดุปรับปรุงดินและผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพ (พ.ด.9 และ พ.ด.11 ) ในพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดชุดดินรังสิตเพื่อปลูกพืชผักอินทรีย์)
มัณฑนา สุริยวงศ์พงศา - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การปรับโครงสร้างทางกายภาพร่วมกับการใช้วัสดุปรับปรุงดินและผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพ (พ.ด.9 และ พ.ด.11 ) ในพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดชุดดินรังสิตเพื่อปลูกพืชผักอินทรีย์)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: มัณฑนา สุริยวงศ์พงศา
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Munthana Suriyavongpongsa
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. กรมพัฒนาที่ดิน
บทคัดย่อ: จากการศึกษาการปรับโครงสร้างทางกายภาพร่วมกับการใช้พืชคลุมดินและผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพ (พ.ด.9) ในพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดชุดดินรังสิตเพื่อปลูกผักหวานบ้าน ดำเนินการในพื้นที่บ้านบางเม่าเหนือ หมู่ที่ 12 ตำบลศรีจุฬา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางในการควบคุมและแก้ไขปัญหาทางกายภาพของดินเปรี้ยวจัดร่วมกับการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินด้วยผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพ (พ.ด.9) สำหรับการปลูกผักหวานบ้านที่มีคุณภาพเพื่อสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องตลอดปี โดยวางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ภายในบล็อก (Randomized Complete Block Design, RCBD) จำนวน 3 ซ้ำ 8 ตำรับการทดลอง ประกอบด้วย แปลงควบคุม (T1) วิธีเกษตรกรโดยการใช้ปูนมาร์ลร่วมกับปุ๋ยคอก (T2) ปูนมาร์ล (T3) ปูนมาร์ลร่วมกับพด.9 (T4) ปูนมาร์ลร่วมกับพด.9 และถั่วลิสงเถา(ถั่วปินโต) (T5) ปูนมาร์ลร่วมกับพด.9 และถั่วคุดซู่ (T6) ปูนมาร์ลร่วมกับแกลบดิบและพด.9 (T7) ปูนมาร์ล ร่วมกับแกลบเผาและพด.9 (T8) ผลการทดลองพบว่า การใส่ปูนมาร์ลอัตรา 1.5 ตัน/ไร่ ร่วมกับการใช้พืชคลุมดินและผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพ (พ.ด.9) ทำให้ผักหวานบ้านมีผลผลิตสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับแปลงตรวจสอบที่ไม่ได้ใส่อะไรเลย มีผลทำให้ผลผลิตของผักหวานบ้านแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ กล่าวคือ การใส่ปูนมาร์ล 1.5 ตันต่อไร่ ร่วมกับการปลูกถั่วลิสงเถาและ พ.ด.9 กับ การใส่ปูนมาร์ล 1.5 ตันต่อไร่ ร่วมกับ แกลบเผา 2 ตันต่อไร่ และ พ.ด.9 ทำให้ผลผลิตเฉลี่ยของผักหวานบ้านสูงสุด 16.98 และ 16.36 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ และยังสามารถให้ผลผลิตมากกว่าวิธีของเกษตรกรโดยการใช้ปูนมาร์ลร่วมกับปุ๋ยคอก ซึ่งให้ผลผลิตเฉลี่ย 12.01 กิโลกรัมต่อไร่ นอกจากนี้ สมบัติทางเคมีของดินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกตำรับการทดลองในปีที่ 2 ได้แก่ ความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) จากเดิม pH 3.2 เป็น pH 4.0 ฟอสฟอรัส (P) จากเดิม 16.2 เป็น 21.5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม โพแทสเซียม (K) จากเดิม 133.8 เป็น 141.8 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และแคลเซียม (Ca) จากเดิม 839.2 เป็น 1,701.6 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ยกเว้น ปริมาณอินทรียวัตถุ (OM) มีแนวโน้มลดลงเพียงเล็กน้อย จากเดิม 1.1 เป็น 0.9 เปอร์เซ็นต์ แมกนีเซียม (Mg) จากเดิม 931.8 เป็น 734.4 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และค่าการนำไฟฟ้าในดิน (EC) จากเดิม 0.798 เป็น 0.731 เดซิซีเมนต่อเมตร ซึ่งมีแนวโน้มลดลง
บทคัดย่อ (EN): Study on biotechnology product of LDD and vetiver grass usage to increase quality of durian in Ranong province was conducted at farmer's field in Krabi soil series at Moo.๒, Naiwongtai subdistrict, La-un district, Ranong province during ๒o๑o-๒o๑๒.The experimental was done by exe factorial in randomized complete block design with ๓ replications. The first factor consisted of four different types of fertilizer : ๑) Chemical fertilizer ๒) A half rate of chemical fertilizer with compost, antagonistic microorganisms (Super LDD๓) and bio-extract ๓) Compost, antagonistic microorganisms (Super LDD๓) and bio-extract and ๔) High quality organic fertilizer, antagonistic microorganisms (Super LDD๓) and bio-fertilizer (LDD๑๒). The second factor consisted of a different methods of vetiver grass planting : ๑) No vetiver grass planting ๒) Planting vetiver grass in a semicircle around the tree ๓) Planting vetiver grass in a circle around the tree. The results show that soil fertility in the treatment with organic fertilizer or chemical and organic fertilizer was trend to increased when compare with the treatment with only chemical fertilizer. As well as the planting of vetiver grass, the results of this study reveal that the soil fertility were increased by vetiver grass planting. The highest level of soil pH was found in the treatment with compost,antagonistic microorganisms (Super LDD๓) and bio-extract with a circle of vetiver grass planting around the tree. While, The highest level of potassium was found in the treatment with high quality organic fertilizer, antagonistic microorganisms (Super LDD๓) and bio-fertilizer (LDD๑๒) with a semicircle of vetiver grass planting. It was also found that organic fertilizer and vetiver grass caused an improving the physical properties of soil. The soil moisture content were increased, while the bulk density were decreased. The application of compost, antagonistic microorganisms (Super LDD๓) and bio-extract with no vetiver grass planting was found the lowest of fresh weight and pulp weight of durian fruit with not significantly different. However, the experimental results showed that the chemical fertilizer with no vetiver grass planting gave significant highest of L-value at ๘๘.๙๑. While, mixed application of a half rate of chemical fertilizer with compost,antagonistic microorganisms (Super LDD๓) and bio-extract with no vetiver grass planting gave the lowest of L-value at ๘๕.@๕. From the quality testing, the application of a half rate of chemical fertilizer with compost, antagonistic microorganisms (Super LDD๓) and bio-extract with a circle of vetiver grass planting was found the highest score of durian pulp's color at e.o๗ with significantly different. And the application of a half rate of chemical fertilizer with compost, antagonistic microorganisms (Super LDD๓) and bio-extract with a semicircle of vetiver grass planting was found the highest score of sweetness at ๓.๗o with also significantly different.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: ผลิตภัณฑ์ พด.
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

มัณฑนา สุริยวงศ์พงศา. "การปรับโครงสร้างทางกายภาพร่วมกับการใช้วัสดุปรับปรุงดินและผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพ (พ.ด.9 และ พ.ด.11 ) ในพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดชุดดินรังสิตเพื่อปลูกพืชผักอินทรีย์)". กรมพัฒนาที่ดิน. 2554

มัณฑนา สุริยวงศ์พงศา. "การปรับโครงสร้างทางกายภาพร่วมกับการใช้วัสดุปรับปรุงดินและผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพ (พ.ด.9 และ พ.ด.11 ) ในพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดชุดดินรังสิตเพื่อปลูกพืชผักอินทรีย์)". กรมพัฒนาที่ดิน. 2554. Print.



TARR Wordcloud:
การปรับโครงสร้างทางกายภาพร่วมกับการใช้วัสดุปรับปรุงดินและผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพ (พ.ด.9 และ พ.ด.11 ) ในพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดชุดดินรังสิตเพื่อปลูกพืชผักอินทรีย์)
มัณฑนา สุริยวงศ์พงศา
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2554
การใช้วัสดุปรับปรุงดินของเกษตรกรในการเพิ่มผลผลิตข้าวในพื้นที่ดินเปรี้ยว การปรับโครงสร้างทางกายภาพร่วมกับการใช้พืชคลุมดินและผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพ (พ.ด.9 ) ในพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดชุดดินรังสิต เพื่อปลูกผักหวานบ้าน การปรับสภาพพื้นที่ร่วมกับการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวจัดในชุดดินรังสิต โดยการใช้วัสดุปรับปรุงดินผสานกับเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อทำเกษตรอินทรีย์ที่ปลูกพืชแบบผสมผสาน การปรับสภาพทางเคมีและความอุดมสมบูรณ์ของดินเปรี้ยวจัดในชุดดินรังสิต ในพื้นที่ร่องน้ำโดยการใช้วัสดุปรับปรุงดินและเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อปลูกข้าวอินทรีย์ (พันธุ์หอมนิล) แบคทีเรียที่มีบทบาทต่อการเปลี่ยนแปลงสารอนินทรีย์ในดินกรดกำมะถันชุดดินรังสิต ศึกษาการจัดการดินตะกอนชั้นล่างโดยใช้วัสดุปรับปรุงดินอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมีเพื่อปลูกมะละกอ การวิเคราะห์ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของการปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ดินเปรี้ยวจัด การปรับสภาพน้ำเปรี้ยวภายในร่องในชุดดินรังสิต โดยปูนมาร์ลและวัสดุอินทรีย์เพื่อใช้ประโยชน์ในการปลูกผักขึ้นน้ำ (ผักกะเฉด) ร่วมกับเลี้ยงปลาดุก ศึกษาอัตราปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มผลผลิตผักและความอุดมสมบูรณ์ของดิน จังหวัดปทุมธานี การจัดการดินโดยใช้พืชบำรุงดิน วัสดุปรับปรุงดิน ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ พด.12 และปุ๋ยเคมี ร่วมกับการปลูกต้นเหมียงเป็นพืชแซมยางพารา ในกลุ่มชุดดินที่ 45
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair