สืบค้นงานวิจัย
การประเมินลักษณะรูปร่างและปลาแล่ชิ้นสำหรับปลากะพงที่เลี้ยงในบ่อดินและกระชัง
วีรกิจ จรเกตุ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การประเมินลักษณะรูปร่างและปลาแล่ชิ้นสำหรับปลากะพงที่เลี้ยงในบ่อดินและกระชัง
ชื่อเรื่อง (EN): Evaluation of body shape and fillet traits for sea bass (Lates calcarifer) raised under pond and cage culture environments
บทคัดย่อ: งานวิจัยเป็นงานต่อเนื่องจากชุดโครงการวิจัย การปรับปรุงพันธุกรรมปลากะพงขาวเพื่อเพิ่มผลผลิต โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อวิเคราะห์ความแตกต่างรูปร่างปลากะพงขาวที่อายุ 10 เดือน และศึกษาลักษณะปลาแล่ชิ้น (Fillet traits) ที่อายุ 13 เดือน ในปลากะพงขาว 4 สายพันธุ์ที่มีความแตกต่างทางพันธุกรรมซึ่งกันและกัน คือ สายพันธุ์ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรสงคราม และชุมพร ที่เลี้ยงในบ่อดินที่สถานีวิจัยประมงสมุทรสงคราม คณะประมง โดยใช้ลูกปลาอายุประมาณ 90 ? 5 วันหลังฟัก ที่มีน้ำหนักเริ่มต้นเฉลี่ยอยู่ในช่วง 8.24 ? 0.20 ถึง 9.72 ? 0.40 กรัม และความยาวลำตัวทั้งหมดในช่วง 8.13 ? 0.23 ถึง 9.11 ? 28 เซ็นติเมตร จำนวนปลาที่ปล่อยเลี้ยงแต่สายพันธุ์คือ 400 ตัวสำหรับบ่อดินที่ความหนาแน่น 100 ตัวต่อกระชังในบ่อดิน 4 บ่อ เมื่อเลี้ยงปลาได้อายุ 300 วัน สุ่มปลาสายพันธุ์ละ 60 ตัว ชั่งน้ำหนักและวัดความยาวลำตัว และถ่ายรูป เพื่อวิเคราะห์รูปร่างปลาด้วยวิธี Truss morphometric network โดยใช้ตัวแปรทั้งหมด 21 ตัว ผลการวิเคราะห์ Principal Component Analysis (PCA) ปรากฏว่าไม่สามารถแยกกลุ่มได้ชัดเจน แต่เมื่อสร้างแผนผัง UPGMA แยกปลาได้ 2 กลุ่มที่มีรูปร่างคล้ายกัน คือ กลุ่มฉะเชิงเทรา และชลบุรี กับ กลุ่มชุมพรและสมุทรสงคราม เมื่อวิเคราะห์ด้วย Discriminant function analysis (DFA) ปรากฏว่าได้ผลสอดคล้องกับ UPGMA และเมื่อทดสอบความถูกต้องการพยากรณ์ปลาแต่ละตัวไปยังสายพันธุ์ต้นกำเนิดพบว่าสายพันธุ์ชลบุรีมีค่าความถูกต้องมากที่สุด (77%) รองลงมาคือสมุทรสงคราม (66%) ส่วนฉะเชิงเทราและชุมพรมีความถูกต้องเท่ากัน (65%) การวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับปลาแล่ชิ้นอายุ 13 เดือน ปรากฏว่าน้ำหนักตัวเฉลี่ยอยู่ในช่วง 978.15 ? 25.66 ถึง 1166.00 ? 23.63 กรัม ความยาวมาตรฐานอยู่ในช่วง 34.99 ? 0.28 ถึง 36.66 ? 0.28 เซ็นติเมตร ความลึกลำตัวอยู่ในช่วง 10.72 ? 0.11 ถึง 11.67 ? 0.10 เซ็นติเมตร และน้ำหนักฟิลเลต์อยู่ในช่วง 475 ?13.43 ถึง 567.05 ? 12.37 กรัม โดยที่น้ำหนักฟิลเลต์และลักษณะอื่นๆ มีค่าสหสัมพันธ์ของลักษณะปรากฏเท่ากับ 0.96, 0.89 และ 0.87 สำหรับน้ำหนักตัว ความยาวมาตรฐาน และความลึกลำตัวตามลำดับ และสมการรีเกรสชั่นสำหรับทำนายน้ำหนักฟิลเลต์โดยใช้น้ำหนักตัวเป็นตัวทำนายสำหรับแต่ละสายพันธุ์มีค่า R2 ค่อนข้างสูง (0.87-0.97) ในขณะที่การใช้ความยาวมาตรฐานเป็นตัวทำนายจะมีค่า R2 ต่ำกว่า (0.76-0.85)
บทคัดย่อ (EN): This study is a continuation from our previous research project ‘Genetic improvement of Asian Sea Bass Stocks to Enhance Production’. The principal objectives were to assess morphological variation of 10 months old sea bass and to evaluate fillet traits of 13 months old fish. Four strains, including Chonburi (CHB), Chachoengsao (CHS), Samut Songkram (SMS) and Chumphon (CHP) were cultured under earthen pond environment at the Faculty of Fisheries’ Samut Songkram Fisheries Research Station. These four populations were genetically differentiated from each other. Initially, juveniles (90 ? 5 days post hatch) from each strain with mean body weight ranged from 8.24 ? 0.20 and 9.72 ?0.40 g and total length ranged from 8.13 ? 0.23 and 9.11 ? 28 cm were stocked separately at 100 fish per cage (6 m ? 6m ? 1.2 m) in the same earthen pond. At 300 days, 60 fish were sampled from each strain and photographed for morphometric measurements using truss network techniques. A total of 21 truss elements (TE) were used in multivariate analysis. Principal component analysis (PCA) revealed an overlapping of body shape among strains. However, the UPGMA constructed from Euclidean distances separated fish into two subgroups. Group I consisted of CHB and CHS and the other group included CHP and SMS. Results from discriminant function analysis (DFA) were in agreement with those obtained from UPGMA. Cross-validation results indicated that 77% of fish from CHB were correctly assigned to their origin while those from SMS, CHP and CHC were assigned to their origin with accuracy of 66, 65 and 65% respectively. At 13 months, when measured across strains, the mean body weight ranged from 978.15 ? 25.66 and 1166.00 ? 23.63 g, standard length ranged from 34.99 ? 0.28 and 36.66 ? 0.28 cm, body depth ranged from 10.72 ? 0.11 and 11.67 ? 0.10 cm, and fillet weight ranged from 475.0 ? 13.43 and 567.05 ? 12.37 g. Phenotypic correlations between fillet weight and body weight, standard length, and body depth were 0.96, 0.89 and 0.87 respectively. Prediction equations for fillet weight showed higher R2 values with body weight as predictor (0.87-0.97) whereas R2 values of 0.76-0.85 was obtained when standard length was used as predictor.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: อัตราแลกเนื้อ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การประเมินลักษณะรูปร่างและปลาแล่ชิ้นสำหรับปลากะพงที่เลี้ยงในบ่อดินและกระชัง
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2559
สภาวะการเลี้ยงปลากะพงขาวในบ่อดินของเกษตรกรจังหวัดตราด การประเมินสภาวะการเลี้ยงปลาในกระชังในแม่น้ำสายบุรี ปัญหาผลกระทบการเลี้ยงปลาในกระชังในเขตชลประทานลุ่มน้ำชี กรณีศึกษา "การเลี้ยงปลาในกระชัง จังหวัดมหาสารคาม" การประเมินสภาวะการเลี้ยงปลาในกระชังในแม่น้ำตาปี (เปลี่ยนแปลงเป็น การประเมินสภาวะการเลี้ยงปลานิลในกระชังในแม่น้ำตาปี) ดุลไนโตรเจนและฟอสฟอรัสของการเลี้ยงปลากะพงขาว (Lates calcarifer Bloch, 1970) ในบ่อดิน ความพร้อมของเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในบ่อดินเชิงพาณิชย์ จังหวัดสมุทรสงคราม ในการเข้าสู่มาตรฐานการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้้าที่ดีส้าหรับฟาร์มเลี้ยงปลาทะเล (มกษ. 7429-2559) การประเมินคุณภาพสายพันธุ์ปลากะพงขาวที่เลี้ยงในบ่อดินและกระชัง การใช้โปรตีนเข้มข้นทดแทนปลาป่นในอาหารสำหรับปลากะพงขาว (Lates calcarifer) การวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารเม็ดลอยน้ำสำหรับเลี้ยงปลากะพงขาว การศึกษาวัสดุคลุมดินที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตแบบอาศัยเพศ และไม่อาศัยเพศของสตรอเบอรี 2 สายพันธุ์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก