สืบค้นงานวิจัย
การวิเคราะห์ปริมาณแคดเมียมในผักคะน้าโดยใช้ จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกด้วยดินผสมกากตะกอน จากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลาง นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
พัชรี สังข์ศรีศักดิ์ - มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์ปริมาณแคดเมียมในผักคะน้าโดยใช้ จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกด้วยดินผสมกากตะกอน จากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลาง นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พัชรี สังข์ศรีศักดิ์
บทคัดย่อ: การวิเคราะห์่รมาณแคดเมียมในผักคะน้าโดยใช้จุลินทรียม์ัปีิระพิทธิภาพที่ปลูกด้ (][J๓ิ. นผ0์ ln ]ก ตะกอน จากระบบบำบัดน้ำเสียปั่วนกลางนิคมอุตปัาหกรรมลาดกระบัง กรุง่ทเวjหา $Jใวร พัชรี พังข์ศรีศักดิ์ Q โปรแกรมวิชาวิทยRศาสตร์๓ิ่งแวดลอม มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรกบวJ บท คัด ย่อ การวิเคราะห์หาปริมาณแคดเมียมในผักคะน้าโดยใช้จุลินทรีย์มีประสิทธิกาพที่ปลูกด้วยดิน ผสมกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังกรุงเทมหานคร เป็น อัตราส่วน ดิน กากตะกอน 0:4, 1:3, 2:2, 3:1 และ 4:0 โดยใช้แผนการทดลองแบบ Random Complete BIOCkDesiw (RCBD)โดยการนำจุลินทรย์มีประสิทธิภาพมาผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1 มิลลิลิตรต่อน้ำ 1 ลิตร โดยใช้รดผักคะน้าสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อหาอัตราส่วนที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของ ผักคะน้าและวิเคราะห์ปริมาณแคดเมียมที่สะสมในผักคะน้าซึ่งได้ทำการศึกษาในช่วงเดือนพฤจิกายน 2547-เดือนมีนาคม 2548 โดยใช้เครื่องอะตอมมิคแอบซอบชั่น สเปคโตรโฟโตมิเตอร์ (AAS) เพื่อศึกษาการเจริญเติบโตของผักคะน้า ซึ่งทำการปลูกในอัตราส่วนและ 4 เเปลงรวมทั้งสิ้น 20 แปลง โดยมีการศึกษาการเจริญูเติบโตและมวลชีวภาพของผักคะน้าเริ่มจากการงอกหลังปลูก21วันและ ทุก ๆ 7 วัน จนถึงวันเก็บเกี่ยว ในการทดลองครั้งนี้อัตราส่วนที่ให้ผลผลิตมีอัตราส่วนดินต่อกากตะกอน 1:3, 2:2, 3:1 และ 4:0 ซึ่งผลที่ได้มีดังนี้ มวลชีวภาพที่อัตราส่วน 4:0 มีค่ามากที่สุค คือ 30.85 กรัม/แปลง และน้อยที่สุดที่อัตราส่วน 2:2 คือ 14.51 กรัม/แปลง ทางด้านการเจริญเติบโตจะแบ่งเเยกศึกษาเป็น2 ส่วน คือการวัดความสูงและนับจำนวนใบ โดยความสูงเฉลี่ยที่อัตราส่วน 4:0ในวันที 21 มีคว ามสูงมาก ที่สุด คือ 19.40 เซนติเมตร จำนวนใบเฉลี่ยอัตราส่วน4:0 มีจำนวนใบเฉลี่ยสูงทึ่สุค คีอ 11.67 ใบ ส่วน ปริมาณแคดเมียมในผักคะถ้าในอัตราส่วนดินต่อกากตะกอน 3:1 มีค่าเฉลียสูงสุดคีอ 27.32 ไมโครกรัม/ กิโลกรัม ซึ่งปริมาณแคคเมียมที่สะสมในผักคะน้าในทุกอัตราส่วนดินต่อกากตะกอนมี ไม่เกินค่า มาตรฐานที่ยอมรับได้ของผลผลิตเกษตรในพืชผัก ค่าที่ยอมรับของปริมาณแคดเมียมที่มีอยู่ใน พืชผัก คือ 0.1มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ดังนั้นอัตราส่วนผสมของดินต่อกากตะกอนวมีผลต่อการเจริญเติบโต ของผักคะน้า เเละจากการนำจุลินทรีย์มีประสิทธิภาพมาใช้ในการศึกษา พบว่า ไม่สามารถช่วยลดการ ดูดซึมแคตเมียมในผักคะน้าได้เมื่อนำข้อมูลมาเปรียบเทียบกับงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=31&RecId=600&obj_id=6863
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
คำสำคัญ: ว.จ.546.662
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
รายละเอียด: การวิเคราะห์่รมาณแคดเมียมในผักคะน้าโดยใช้จุลินทรียม์ัปีิระพิทธิภาพที่ปลูกด้ (][J๓ิ. นผ0์ ln ]ก ตะกอน จากระบบบำบัดน้ำเสียปั่วนกลางนิคมอุตปัาหกรรมลาดกระบัง กรุง่ทเวjหา $Jใวร พัชรี พังข์ศรีศักดิ์ Q โปรแกรมวิชาวิทยRศาสตร์๓ิ่งแวดลอม มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรกบวJ บท คัด ย่อ การวิเคราะห์หาปริมาณแคดเมียมในผักคะน้าโดยใช้จุลินทรีย์มีประสิทธิกาพที่ปลูกด้วยดิน ผสมกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังกรุงเทมหานคร เป็น อัตราส่วน ดิน กากตะกอน 0:4, 1:3, 2:2, 3:1 และ 4:0 โดยใช้แผนการทดลองแบบ Random Complete BIOCkDesiw (RCBD)โดยการนำจุลินทรย์มีประสิทธิภาพมาผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1 มิลลิลิตรต่อน้ำ 1 ลิตร โดยใช้รดผักคะน้าสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อหาอัตราส่วนที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของ ผักคะน้าและวิเคราะห์ปริมาณแคดเมียมที่สะสมในผักคะน้าซึ่งได้ทำการศึกษาในช่วงเดือนพฤจิกายน 2547-เดือนมีนาคม 2548 โดยใช้เครื่องอะตอมมิคแอบซอบชั่น สเปคโตรโฟโตมิเตอร์ (AAS) เพื่อศึกษาการเจริญเติบโตของผักคะน้า ซึ่งทำการปลูกในอัตราส่วนและ 4 เเปลงรวมทั้งสิ้น 20 แปลง โดยมีการศึกษาการเจริญูเติบโตและมวลชีวภาพของผักคะน้าเริ่มจากการงอกหลังปลูก21วันและ ทุก ๆ 7 วัน จนถึงวันเก็บเกี่ยว ในการทดลองครั้งนี้อัตราส่วนที่ให้ผลผลิตมีอัตราส่วนดินต่อกากตะกอน 1:3, 2:2, 3:1 และ 4:0 ซึ่งผลที่ได้มีดังนี้ มวลชีวภาพที่อัตราส่วน 4:0 มีค่ามากที่สุค คือ 30.85 กรัม/แปลง และน้อยที่สุดที่อัตราส่วน 2:2 คือ 14.51 กรัม/แปลง ทางด้านการเจริญเติบโตจะแบ่งเเยกศึกษาเป็น2 ส่วน คือการวัดความสูงและนับจำนวนใบ โดยความสูงเฉลี่ยที่อัตราส่วน 4:0ในวันที 21 มีคว ามสูงมาก ที่สุด คือ 19.40 เซนติเมตร จำนวนใบเฉลี่ยอัตราส่วน4:0 มีจำนวนใบเฉลี่ยสูงทึ่สุค คีอ 11.67 ใบ ส่วน ปริมาณแคดเมียมในผักคะถ้าในอัตราส่วนดินต่อกากตะกอน 3:1 มีค่าเฉลียสูงสุดคีอ 27.32 ไมโครกรัม/ กิโลกรัม ซึ่งปริมาณแคคเมียมที่สะสมในผักคะน้าในทุกอัตราส่วนดินต่อกากตะกอนมี ไม่เกินค่า มาตรฐานที่ยอมรับได้ของผลผลิตเกษตรในพืชผัก ค่าที่ยอมรับของปริมาณแคดเมียมที่มีอยู่ใน พืชผัก คือ 0.1มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ดังนั้นอัตราส่วนผสมของดินต่อกากตะกอนวมีผลต่อการเจริญเติบโต ของผักคะน้า เเละจากการนำจุลินทรีย์มีประสิทธิภาพมาใช้ในการศึกษา พบว่า ไม่สามารถช่วยลดการ ดูดซึมแคตเมียมในผักคะน้าได้เมื่อนำข้อมูลมาเปรียบเทียบกับงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

พัชรี สังข์ศรีศักดิ์. "การวิเคราะห์ปริมาณแคดเมียมในผักคะน้าโดยใช้ จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกด้วยดินผสมกากตะกอน จากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลาง นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร". มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม. 2548

พัชรี สังข์ศรีศักดิ์. "การวิเคราะห์ปริมาณแคดเมียมในผักคะน้าโดยใช้ จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกด้วยดินผสมกากตะกอน จากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลาง นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร". มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม. 2548. Print.



TARR Wordcloud:
การวิเคราะห์ปริมาณแคดเมียมในผักคะน้าโดยใช้ จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกด้วยดินผสมกากตะกอน จากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลาง นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
พัชรี สังข์ศรีศักดิ์
มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
2548
การวิเคราะห์ปริมาณแคดเมียมในผักกาดเขียวกวางตุ้ง โดยใช้จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกด้วยดินผสมกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร การวิเคราะห์ปริมาณแคดเมียมในผักกาดเขียวกวางตุ้ง โดยใช้จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกด้วยดินผสมกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานค การวิเคราะห์ปริมาณตะกั่วในผักกาดหอม โดยใช้จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกในดินผสมกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร การวิเคราะห์ปริมาณทองแดงในผักกาดหอมโดยใช้ จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกด้วยดินผสมกากตะกอน จากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร การวิเคราะห์ปริมาณนิกเกิลในผักกาดกวางตุ้ง โดยใช้จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกในดินผสมกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร การวิเคราะห์ปริมาณนิกเกิลในผักคะน้าโดยใช้จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกด้วยดินผสมกากตะกอน จากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร การวิเคราะห์ปริมาณทองแดงในผักคะน้าโดยใช้ จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกด้วยดินผสมกากตะกอน จากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร การวิเคราะห์ปริมาณตะกั่วในผักคะน้าโดยใช้ จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกด้วยดินผสมกากตะกอน จากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร การวิเคราะห์หาปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์อิสระในน้ำแม่น้ำเลย การศึกษาปริมาณธาตุอาหารรองในดินตะกอนจุลินทรีย์จากระบบบำบัดน้ำเสียแบบเลี้ยงตะกอนจุลินทรีย์ในอุตสาหกรรมแป้งมันสำปะหลังแปรรูป
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair