สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาตัวบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์และการใช้ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ต่อการปลูกหม่อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สมศักดิ์ สุขจันทร์3 - กรมหม่อนไหม
ชื่อเรื่อง: การศึกษาตัวบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์และการใช้ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ต่อการปลูกหม่อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชื่อเรื่อง (EN): Study on Geographic Indication and Information System in Northeast of Thailand for Mulberry Cultivation
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สมศักดิ์ สุขจันทร์3
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การศึกษาตัวบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์และการใช้ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ที่มีผลต่อการปลูกหม่อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นการศึกษาเพื่อใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นและเป็นแนวทางในการวางแผนการใช้ที่ดินในการปลูกหม่อน หรือเพื่อประกอบการตัดสินใจในการวางแผนการปลูกหม่อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดำเนินการในพื้นที่ 19 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ อุดรธานี หนองคาย สกลนคร หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ นครพนม มุกดาหาร และ เลย โดยทำการรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิที่เกี่ยวข้องอาทิเช่น แผนที่ดินระดับจังหวัด ข้อมูลดิน ข้อมูลอุตุนิยมวิทยา ข้อมูลชั้นความสูงของพื้นที่ และผลผลิตของเกษตรกร เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลและสำรวจพื้นที่บางแห่งแล้วจึงจัดทำรายงานพร้อมแผนที่โดยแสดงปัจจัยด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการปลูกหม่อนในมาตราส่วน 1: 50,000 ผลการศึกษาพบว่าพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีระดับความสูงของพื้นที่ต่ำสุดประมาณ 225 เมตร และสูงสุดประมาณ 2,048.8 เมตร และ พื้นที่ส่วนใหญ่มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยไม่เพียงพอต่อความต้องการน้ำของหม่อนและ เมื่อวิเคราะห์พื้นที่โดยจำแนกกลุ่มดินตามศักยภาพของดินเพื่อการปลูกหม่อนได้ 3 ระดับ คือ 1. พื้นที่ดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกหม่อน 2. พื้นที่ดินที่ไม่ค่อยเหมาะสมสำหรับการปลูกหม่อน 3. พื้นที่ดินที่ไม่เหมาะสมสำหรับการปลูกหม่อน โดยความเหมาะสมของพื้นที่ปลูกหม่อนขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน สภาพพื้นที่ ปริมาณน้ำฝน พบว่ามีพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีดินที่เหมาะสมกับการปลูกหม่อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 38.32 เปอร์เซ็นต์ (36,087,534 ไร่) ไม่ค่อยเหมาะสม 17.82 เปอร์เซ็นต์ (16,785,288 ไร่) ไม่เหมาะสม 43.85 เปอร์เซ็นต์ (41,298,567 ไร่) จังหวัดที่มีความเหมาะสมของพื้นที่ในการปลูกหม่อนมากที่สุดคือ จังหวัดมุกดาหาร มีความเหมาะสมสำหรับการปลูกหม่อนถึง68.28% ของพื้นที่เพาะปลูก (1,469,623 ไร่) ส่วนจังหวัดที่ดินมีความเหมาะสมของพื้นที่ในการปลูกหม่อนน้อยที่สุดคือ จังหวัดร้อยเอ็ด มีความเหมาะสมสำหรับการปลูกหม่อน 10.10% ของพื้นที่เพาะปลูก (525,476 ไร่) ดังนั้นในการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกหม่อนในพื้นที่ดังกล่าวควรดูสภาพพื้นที่ว่ามีความเหมาะสมในการปลูกหม่อนหรือไม่ ข้อจำกัดในการเจริญเติบโตของหม่อนจะแปรเปลี่ยนไปตามสภาพปัญหาของพื้นที่ หากพื้นที่ไม่เหมาะสมควรมีการแก้ไขข้อจำกัดในพื้นที่นั้น เพื่อเป็นการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตหม่อนให้มากยิ่งขึ้นโดยข้อจำกัดในการเจริญเติบโตของหม่อนจะแปรเปลี่ยนไปตามสภาพปัญหาของพื้นที่ โดยเฉพาะในดินที่ไม่ค่อยเหมาะสมในการปลูกหม่อน และดินที่ไม่เหมาะสมกับการปลูกหม่อน หากสามารถแก้ไขข้อจำกัดในพื้นที่และแหล่งน้ำให้มีพอเพียงในฤดูแล้ง จะสามารถทำให้ปลูกหม่อนได้
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://qsds.go.th/newosrd/wp-content/uploads/sites/115/2021/08/2551-19.pdf
เผยแพร่โดย: กรมหม่อนไหม
คำสำคัญ: ปลูกหม่อน
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมหม่อนไหม
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาตัวบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์และการใช้ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ต่อการปลูกหม่อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
กรมหม่อนไหม
2551
กรมหม่อนไหม
การเจริญเติบโตของหม่อนที่ระบบบันทึกจุดพิกัดต่าง ๆ บนผิวโลกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การศึกษาการปลูกหม่อนแบบแปลงผัก การใช้โปรตีน CS-HLLBP เป็นตัวบ่งชี้การไหลของน้ำยาง การศึกษาโครงข่ายโลจิสติกส์ใหม่เชื่อมโยงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยและประเทศจีน กรณีศึกษา: การส่งออกยางพารา การศึกษาไม้ดอกและไม้ประดับพื้นเมืองในป่าเต็งรังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การเพิ่มศักยภาพการผลิตยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อิทธิพลของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดต่างๆ ในการปลูกยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การใช้ระบบ Fisheries Map เพื่อการบริหารจัดการข้อมูลเชิงพื้นที่จับสัตว์น้ำ กลุ่มวิจัยการพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เรณูวิทยาของพืชวงศ์ผักขม (Amaranthaceae) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก