สืบค้นงานวิจัย
การจัดการพันธุกรรมพ่อแม่พันธุ์ปลาดุกลำพันในโรงเพาะฟักโดยใช้โมเลกุลเครื่องหมาย AFLP
สุภฎา คีรีรัฐนิคม - มหาวิทยาลัยทักษิณ
ชื่อเรื่อง: การจัดการพันธุกรรมพ่อแม่พันธุ์ปลาดุกลำพันในโรงเพาะฟักโดยใช้โมเลกุลเครื่องหมาย AFLP
ชื่อเรื่อง (EN): Broodstock Genetic Management in Hatchery of Clarias nieuhofii Using Amplified Fragment Length Polymorphism
บทคัดย่อ: ปลาดุกลำพันจัดเป็นปลาที่ใกล้สูญพันธุ์ การนำพ่อแม่พันธุ์จากธรรมชาติซึ่งมีจำนวนน้อยมาเป็นประชากรตั้งต้นในโรงเพาะฟักอาจก่อให้เกิดปัญหาทางพันธุกรรมของประชากรโรงเพาะฟักได้ การศึกษาครั้งนี้จึงศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมของปลาดุกลำพันรุ่นลูก ที่เกิดจากการจัดการพันธุกรรม ในโรงเพาะฟักโดยจัดคู่ผสมพันธุ์แบบต่างๆ 4 แบบคือ MP1 การผสมระหว่างพ่อแม่พันธุ์ธรรมชาติ จากจังหวัดนราธิวาส (Na) MP2 การผสมระหว่างแม่พันธุ์ธรรมชาติจากจังหวัดสุราษฏร์ธานี กับพ่อพันธุ์ รุ่น F1 (Na X Na) จากโรงเพาะฟักของมหาวิทยาลัยทักษิณ MP3 การผสมระหว่างแม่พันธุ์ธรรมชาติจากจังหวัดสุราษฏร์ธานี กับพ่อพันธุ์ รุ่น F2 (Na X Na) จากโรงเพาะฟักของมหาวิทยาลัยทักษิณ MP4 การผสมระหว่างพ่อแม่พันธุ์ธรรมชาติจากจังหวัดสุราษฏร์ธานี รวมทั้งหมด 120 ตัวอย่าง โดยใช้เครื่องหมาย อาร์เอพีดี จำนวน 10 ไพรเมอร์ คือ AA 18, AA 19, AB 09, AB 17, AC 03, AC 04, AC 05, AC 07, AC 10 และ AC 19 ผลการศึกษาพบตำแหน่งดีเอ็นเอ รวมทั้งสิ้น 59 ตำแหน่ง มีขนาดอยู่ในช่วง 370-2500 คู่เบส เปอร์เซ็นต์ตำแหน่งโพลิมอร์ฟิค เท่ากับ 91.53 %, Observed number of alleles (Na) เท่ากับ 1.7797, Effective number of alleles (Ne) เท่ากับ 1.5797, ความหลากหลายของยีน (gene diversity, h) เท่ากับ 0.3118, Shannon index (I) เท่ากับ 0.4676 และ Total gene diversity (HT) มีค่าเท่ากับ 0.3109 ตัวอย่างที่เกิดจากคู่ผสมแบบ MP1 มีค่าความหลากหลายทางพันธุกรรมสูงที่สุด รองลงมาคือตัวอย่างที่เกิดจากคู่ผสมแบบ MP4 ตัวอย่างที่เกิดจากคู่ผสม MP2 และ MP3 มีค่าความหลากหลายทางพันธุกรรมต่ำกว่า ลูกที่เกิดจากคู่ผสม MP1 และ MP4 ค่าความแตกต่างทางพันธุกรรม (GST) ของทุกคู่ผสมมีค่าเท่ากับ 0.1861 และมีระยะห่างทางพันธุกรรมระหว่าง 0.0636 – 0.1424 ลูกที่เกิดจากคู่ผสม MP2 และ MP3 มีระยะห่างทางพันธุกรรมมากที่สุด (0.1424) ส่วนลูกที่เกิดจากคู่ผสม MP2 และ MP4 มีระยะห่างทางพันธุกรรมน้อยที่สุด (0.0636) จากผลการศึกษาพบว่าการจัดคู่ผสมพันธุ์ระหว่างแม่พันธุ์จากธรรมชาติกับพ่อพันธุ์จากโรงเพาะฟักรุ่น F1 และ F2 มีความหลากหลายทางพันธุกรรมต่ำกว่าการจัดคู่ผสมพันธุ์โดยใช้พ่อแม่พันธุ์จากธรรมชาติข้อมูลดังกล่าวสามารถนำไปเป็นข้อมูลพื้นฐาน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงพันธุ์ปลาดุกลำพัน เพื่อรักษาพันธุกรรมของปลาดุกลำพันในแหล่งน้ำธรรมชาติมิให้สูญเสียลักษณะทางพันธุกรรม และเพื่อการการเพาะเลี้ยงปลาดุกลำพันเชิงพาณิชย์ อย่างยั่งยืนโดยหาแหล่ง พ่อแม่พันธุ์ที่มีความหลากหลายทางพันธุกรรมสูงมาเป็นประชากรตั้งต้นในโรงเพาะฟัก หรือมีการใช้ข้อมูลทางพันธุกรรมมาใช้ในการจัดคู่ผสมพันธุ์ และควรจัดคู่ผสมพันธุ์ระหว่างพ่อแม่พันธุ์จากธรรมชาติกับพ่อแม่พันธุ์จากโรงเพาะฟักที่มีพันธุกรรมที่มาจากแหล่งมาแหล่งเดียวกัน
บทคัดย่อ (EN): Clarias nieuhofii has been identified as vulnerable to extinction. The small number of wild brooder could cause genetic problems of the hatchery population. In this study, genetic variation of 4 mating pairs (MP1: mating between wild brooders from Narathiwat, MP2: mating between female wild brooder from Surattanee and male F1 from MP1 in Thaksin University hatchery, MP3: mating between female wild brooder from Surattanee and male F2 from MP1 in Thaksin University hatchery and MP4 : mating between wild brooders from Surattanee) was investigated using Random Amplified Polymorphic DNA (RAPD) Technique. Ten decamer oligonucleotide primers (AA 18, AA 19, AB 09, AB 17, AC 03, AC 04, AC 05, AC 07, AC 10 and AC19) were chosen and used in a comparative analysis. The result showed that 59 loci were amplified ranging from 370 to 2,500 bp. The percentage of polymorphic loci (%P), Observed number of alleles (Na) and effective number of alleles (Ne) across the overall samples were 98.10%, 1.7797 and 1.5797 respectively. Gene diversity (h), Shannon index (I) and total gene diversity (HT) were 0.3118, 0.4676 and 0.3109 respectively. The average coefficient of genetic differentiation (GST) was 0.1861. The mean genetic distance between samples across all primers was 0.0636 to 0.1424. The highest and lowest genetic distances were founded between MP2 and MP3 and between MP2 and MP4 respectively. These results would be useful for genetic improvement in hatchery and management for sustainable Clarias nieuhofii culture. To maintain long-term hatchery generations of Clarias nieuhofii without a significant decrease in genetic variability, some strategies could be proposed. Firstly, high genetic variation of brooder for hatchery founder population would be very important. The latter, genetic information by genotyping of potential breeders would be investigated before setting up the next cultivated stocks. The last one, crossing between hatchery broodstock and wild populations should come from the same genetic source.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยทักษิณ
คำสำคัญ: เอเอฟแอลพี
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การจัดการพันธุกรรมพ่อแม่พันธุ์ปลาดุกลำพันในโรงเพาะฟักโดยใช้โมเลกุลเครื่องหมาย AFLP
มหาวิทยาลัยทักษิณ
30 กันยายน 2554
การศึกษาอาหารที่ใช้ในการอนุบาลลูกปลาดุกลำพัน (Clarias nieuhofii) ระยะแรกฟักออกจากไข่ และระยะปลานิ้ว ผลของคาร์โบไฮเดรตจากแหล่งต่างๆ ต่อการเจริญเติบโต อัตราแลกเนื้อ ประสิทธิภาพการใช้อาหาร และการรอดตายของปลาดุกลำพัน (Clarias nieuhofii) ระยะปลานิ้ว การเพาะและอนุบาลปลาดุกลำพันในสภาพน้ำพรุ อายุที่เหมาะสมของแม่พันธุ์ในการเพาะพันธุ์ปลาชะโอน การประเมินความหลากหลายทางพันธุกรรมของข้าว โดยใช้เครื่องหมายโมเลกุล SSR การเลี้ยงปลาก้างพระร่วงเพื่อเป็นพ่อแม่พันธุ์ ประสิทธิภาพและการจัดการระบบกรองชีวภาพขนาดใหญ่สำหรับเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลาทะเล การเสริมกรดไขมันไม่อิ่มตัว (HUFAs) ร่วมกับสาหร่ายเซลล์เดียวเป็น อาหารปรับสภาพพ่อ-แม่พันธุ์หอยตะโกรมกรามขาว: ผลต่อองค์ประกอบ ทางชีวเคมี การเจริญเติบโต และการลงเกาะของลูกหอย การวิเคราะห์ความหลากหลายทางพันธุกรรมและการจำแนกชนิดพันธุ์ปาล์มน้ำมัน ด้วยเครื่องหมายโมเลกุล การประเมินความหลากหลายทางพันธุกรรมของกล้วยน้ำว้า ในจังหวัดพิษณุโลก โดยใช้เครื่องหมายชีวโมเลกุล
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก