สืบค้นงานวิจัย
การกำจัดตัวรบกวนและเพิ่มความเข้มข้นของสารตัวอย่างก่อนการตรวจวัดด้วย อินดัคทิ
Thanyarat Sawatsuk - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การกำจัดตัวรบกวนและเพิ่มความเข้มข้นของสารตัวอย่างก่อนการตรวจวัดด้วย อินดัคทิ
ชื่อเรื่อง (EN): Matrix removal and analyte preconcentration before inductively coupled plasma spectrometric detection: development and use of a laboratory made hollow fiber flow filtration unit
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Thanyarat Sawatsuk
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้ พัฒนาหน่วยกรองแบบไหลด้วยเยื่อเลือกผ่านชนิดท่อกลมกลวง สำหรับการกำจัดตัวรบกวน และเพิ่มความเข้มข้นของสารที่ต้องการวิเคราะห์ก่อนการตรวจวัดด้วย inductively coupled plasma optical emission spectrometry (ICP-OES) การทดลองใช้หลักการของการเกิดสารเชิงซ้อนและการ แยกขนาดด้วยการกรองโดยอาศัยการไหล โดยใช้ Poly(ethylene imine) หรือ PEI ซึ่งมีมวลโมเลกุล 750,000 ดาลตัน ทำให้เกิดสารเชิงซ้อนกับธาตุที่ต้องการวิเคราะห์ คือ เงิน แคดเมียม โคบอลต์ ทองแดง ปรอท นิเกิล ตะกั่ว และ สังกะสี แต่จะไม่ทำปฏิกิริยากับธาตุที่เป็นตัวรบกวน เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม และ โซเดียม โดยสารตัวอย่างถูกนำเข้าสู่ภายในท่อกลวงซึ่งทำหน้าที่เป็นเยื่อเลือกผ่านโดยอาศัยการไหลของ ของเหลวสองทิศทางตรงข้ามกันในแบบของวิธี opposed flow method (OFM) เยื่อเลือกผ่านชนิดท่อกลม กลวงที่ใช้มีความยาว 31 ซม. ทำจาก poly(sulfone) มีขนาดของรูพรุน 30,000 ดาลตันซึ่งธาตุที่เป็นตัว รบกวนจะถูกกำจัดออกจากท่อทางรูพรุนของเยื่อเลือกผ่าน ในขณะที่สารเชิงซ้อนของ PEI กับธาตุที่ต้องการ วิเคราะห์ ยังคงอยู่ในท่อกลวงและถูกนำเข้าสู่ส่วนตรวจวัดต่อไป ได้ศึกษาตัวแปรหลายหลายตัวแปรเพื่อให้ได้ผลที่ น่าพอใจในการกำจัดตัวรบกวนและเพิ่มความเข้มข้นของสารที่ต้องการวิเคราะห์ โดยตัวแปรเหล่านี้ได้แก่ ความ เข้มข้นของ PEI เวลาที่ใช้ในการโฟกัส และตำแหน่งโฟกัส ซึ่งสภาวะที่เหมาะสมคือ ความเข้มข้นของ PEI 200 มิลลิกรัมต่อลิตร เวลาที่ใช้ในการโฟกัส 25 นาที และตำแหน่งที่โฟกัสที่ใกล้หน่วยตรวจวัดมากที่สุด คือ 28 เซนติเมตร จากทางเข้าของสาร ผลการศึกษาที่สภาวะที่เหมาะสม ค่าความเข้มสัญญาณของตัวรบกวนลดไปเกือบ 100% ในขณะที่สารที่ต้องการวิเคราะห์มีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นไปด้วย โดยใช้การกรองด้วยเยื่อเลือกผ่านชนิดท่อ กลมกลวงควบคู่กับวิธีการให้ของเหลวไหลในสองทิศทางที่ตรงข้ามกัน (HF-FF/OFM) HF-FF/OFM สามารถนำไปประยุกต์ใช้สำหรับการกำจัดตัวรบกวนในตัวอย่างน้ำทะเลและสารสกัด ของดินในสภาวะที่ใช้น้ำยาสกัด แมกนีเซียมไนเตรต 1 โมลาร์ ซึ่งให้ผลเป็นที่น่าพอใจ
บทคัดย่อ (EN): analyte complexes remained in the HF channel and were subsequently eluted and detected. Various parameters were optimized to obtain a satisfactory matrix removal and preconcentration factor. These include PEI concentration, focusing time, and focusing point. With a PEI concentration of 200 mg L-1, focusing time of 25 min and the focusing point nearest to the detector, 28 cm from the channel inlet were found to be the optimal conditions. With the HF-FF/OFM approach, the signal intensity of matrix elements were reduced to nearly 100% while those of analyte elements were preconcentrated. The HF-FF/OFM was applied for matrix removal of alkali and alkali earth elements in sea water and in soil extract in 1 M Mg(NO3)2 medium with satisfactory results.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=3565&obj_id=4860
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Inductively coupled plasma atomic emission spectrometry
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: งานวิจัยนี้ พัฒนาหน่วยกรองแบบไหลด้วยเยื่อเลือกผ่านชนิดท่อกลมกลวง สำหรับการกำจัดตัวรบกวน และเพิ่มความเข้มข้นของสารที่ต้องการวิเคราะห์ก่อนการตรวจวัดด้วย inductively coupled plasma optical emission spectrometry (ICP-OES) การทดลองใช้หลักการของการเกิดสารเชิงซ้อนและการ แยกขนาดด้วยการกรองโดยอาศัยการไหล โดยใช้ Poly(ethylene imine) หรือ PEI ซึ่งมีมวลโมเลกุล 750,000 ดาลตัน ทำให้เกิดสารเชิงซ้อนกับธาตุที่ต้องการวิเคราะห์ คือ เงิน แคดเมียม โคบอลต์ ทองแดง ปรอท นิเกิล ตะกั่ว และ สังกะสี แต่จะไม่ทำปฏิกิริยากับธาตุที่เป็นตัวรบกวน เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม และ โซเดียม โดยสารตัวอย่างถูกนำเข้าสู่ภายในท่อกลวงซึ่งทำหน้าที่เป็นเยื่อเลือกผ่านโดยอาศัยการไหลของ ของเหลวสองทิศทางตรงข้ามกันในแบบของวิธี opposed flow method (OFM) เยื่อเลือกผ่านชนิดท่อกลม กลวงที่ใช้มีความยาว 31 ซม. ทำจาก poly(sulfone) มีขนาดของรูพรุน 30,000 ดาลตันซึ่งธาตุที่เป็นตัว รบกวนจะถูกกำจัดออกจากท่อทางรูพรุนของเยื่อเลือกผ่าน ในขณะที่สารเชิงซ้อนของ PEI กับธาตุที่ต้องการ วิเคราะห์ ยังคงอยู่ในท่อกลวงและถูกนำเข้าสู่ส่วนตรวจวัดต่อไป ได้ศึกษาตัวแปรหลายหลายตัวแปรเพื่อให้ได้ผลที่ น่าพอใจในการกำจัดตัวรบกวนและเพิ่มความเข้มข้นของสารที่ต้องการวิเคราะห์ โดยตัวแปรเหล่านี้ได้แก่ ความ เข้มข้นของ PEI เวลาที่ใช้ในการโฟกัส และตำแหน่งโฟกัส ซึ่งสภาวะที่เหมาะสมคือ ความเข้มข้นของ PEI 200 มิลลิกรัมต่อลิตร เวลาที่ใช้ในการโฟกัส 25 นาที และตำแหน่งที่โฟกัสที่ใกล้หน่วยตรวจวัดมากที่สุด คือ 28 เซนติเมตร จากทางเข้าของสาร ผลการศึกษาที่สภาวะที่เหมาะสม ค่าความเข้มสัญญาณของตัวรบกวนลดไปเกือบ 100% ในขณะที่สารที่ต้องการวิเคราะห์มีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นไปด้วย โดยใช้การกรองด้วยเยื่อเลือกผ่านชนิดท่อ กลมกลวงควบคู่กับวิธีการให้ของเหลวไหลในสองทิศทางที่ตรงข้ามกัน (HF-FF/OFM) HF-FF/OFM สามารถนำไปประยุกต์ใช้สำหรับการกำจัดตัวรบกวนในตัวอย่างน้ำทะเลและสารสกัด ของดินในสภาวะที่ใช้น้ำยาสกัด แมกนีเซียมไนเตรต 1 โมลาร์ ซึ่งให้ผลเป็นที่น่าพอใจ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

Thanyarat Sawatsuk. "การกำจัดตัวรบกวนและเพิ่มความเข้มข้นของสารตัวอย่างก่อนการตรวจวัดด้วย อินดัคทิMatrix removal and analyte preconcentration before inductively coupled plasma spectrometric detection: development and use of a laboratory made hollow fiber flow filtration unit". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2549

Thanyarat Sawatsuk. "การกำจัดตัวรบกวนและเพิ่มความเข้มข้นของสารตัวอย่างก่อนการตรวจวัดด้วย อินดัคทิMatrix removal and analyte preconcentration before inductively coupled plasma spectrometric detection: development and use of a laboratory made hollow fiber flow filtration unit". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2549. Print.



TARR Wordcloud:
การกำจัดตัวรบกวนและเพิ่มความเข้มข้นของสารตัวอย่างก่อนการตรวจวัดด้วย อินดัคทิ
Thanyarat Sawatsuk
มหาวิทยาลัยมหิดล
2549
การเพิ่มประสิทธิภาพชุดตรวจวัดคุณภาพของน้ำยางพารา การวิเคราะห์ผลการตรวจสารก่อภูมิต้านทานจำเพาะต่อมลูกหมากโดยใช้ชุดตรวจสำเร็จรูปเปรียบเทียบกับผลตรวจแอซิดฟอสฟาเทสในน้ำสกัดสำลีซับช่องคลอดที่ตรวจพบและไม่พบตัวอสุจิ การเพิ่มระบบความเข้มข้นของสารตัวอย่างซิสเทอีนในเครื่องไมโครฟลูอิดิกโดยใช้โมโนลิธชนิด BuMa-EDMA การศึกษาการเพิ่มการละลายของยาอาร์ทิมิซินินโดยใช้สารไคโตซานเป็นสารช่วยเพิ่มการละลาย ศึกษาการเพิ่มอุณหภูมิดินด้วยการเพิ่มตัวสะท้อนรังสีแบบแผ่นเรียบในระหว่างการอบดิน การเพิ่มความเข้มข้นของน้ำมะนาวด้วยวิธีแช่แข็ง การกำจัดสารกำมะถันโดยวิธีการทางชีวภาพด้วย rhodococcus gordoniae การควบคุมเครื่องระเหยแบบฟิล์มบางที่มีใบกวนที่ใช้เพิ่มความเข้มข้นในขบวนการผลิตน้ำส้มเข้มข้นอย่างมีคุณภาพ การปรับปรุงคุณภาพดินกระจายตัวของดินลำตะคองโดยใช้ซีเมนต์ที่ผสมสารผสมเพิ่ม แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของแอมเพอโรเมทริก เอนไซม์ไบโอเซนเซอร์สำหรับตรวจวัดปริมาณความเข้มข้นของน้ำตาลกลูโคส
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair